2 เม.ย. 2024 เวลา 05:02 • ธุรกิจ

กรุงเทพประกันภัย เปลี่ยนเป็น บริษัท Holding คล้าย ทิพยประกันภัย

เมื่อปลายปีที่แล้ว บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI
ได้เสนอแผนปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อจะเปลี่ยนธุรกิจเป็น Holding Company
ซึ่งกระบวนการนี้ จะทำด้วยการจัดตั้งบริษัทใหม่ ชื่อว่า บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH
1
แล้ว BKIH จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 106.5 ล้านหุ้น
และทำคำเสนอหลักทรัพย์ (Tender Offer) กับผู้ถือหุ้นของ BKI
เพื่อแลกกับหุ้นสามัญของ BKIH ในอัตรา 1 ต่อ 1
โดย ก.ล.ต. ก็ได้อนุมัติให้มีการทำคำเสนอหลักทรัพย์ (Tender Offer) นี้
ให้เปลี่ยนหุ้นจาก “BKI” เป็น “BKIH” ระหว่างวันที่ 25 มี.ค. - 5 มิ.ย. 2567 รวมทั้งสิ้น 45 วันทำการ
ทั้งนี้ กระบวนการแลกหุ้นที่ว่า จะถูกยกเลิก หากผู้ถือหุ้นของ BKI ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ น้อยกว่า 75% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
และถ้ากระบวนการแลกหุ้น เสร็จสิ้น
หุ้น BKIH จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ส่วนหุ้น BKI จะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันเดียวกัน
แล้วทำไม กรุงเทพประกันภัย ต้องปรับโครงสร้างองค์กร ?
บริษัทให้เหตุผลว่า เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการลงทุน และความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ
เนื่องจากการเป็นบริษัทประกันภัย จะมีข้อจำกัดบางเรื่อง ตามกฎหมายของ สำนักงาน คปภ. เช่น
1
- ไม่สามารถลงทุนหุ้นในประเทศและต่างประเทศ รวมกันได้เกิน 30% ของสินทรัพย์ลงทุนของบริษัท
- ไม่สามารถลงทุนหุ้นในประเทศ ที่ออกโดยบริษัทจำกัด ได้ในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายทั้งหมดของบริษัทจำกัดนั้น
- ไม่สามารถลงทุนในสินทรัพย์บางประเภท ตามที่สำนักงาน คปภ. กำหนด
ซึ่งบริษัท Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็มีธุรกิจหลักเริ่มต้นเป็นธุรกิจประกัน คล้ายกรุงเทพประกันภัย และ Berkshire ได้นำเงินสำรองประกันภัยไปลงทุนในหุ้น และสามารถทำกำไรได้จนสำเร็จถึงทุกวันนี้
โดยปัจจุบัน BKI มีการลงทุนถือหุ้นบริษัทในตลาดหุ้น หลายตัวด้วยกัน เช่น
- บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH
ในสัดส่วน 11.2% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (มูลค่า 19,912 ล้านบาท)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL
ในสัดส่วน 1.8% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (มูลค่า 4,796 ล้านบาท)
- บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA
ในสัดส่วน 4.7% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (มูลค่า 1,438 ล้านบาท)
- บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM
ในสัดส่วน 2.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (มูลค่า 410 ล้านบาท)
ดังนั้น หากแปลงสภาพเป็น Holding Company
แล้วบริษัท BKIH เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น BKI แทน
ก็จะทำให้ BKIH สามารถลงทุนในธุรกิจประกันภัย รวมถึงลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ได้มากขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดด้านการลงทุน นั่นเอง
นอกจากนี้ การเป็น Holding Company ที่สามารถถือหุ้นในธุรกิจอื่นได้นั้น ยังเปิดโอกาสให้บริษัท มีผู้ร่วมทุนหรือพันธมิตรทางธุรกิจ ที่สนใจลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายของบริษัท
จึงช่วยเพิ่มโอกาสในการระดมทุนเพื่อการลงทุน และขยายธุรกิจในอนาคตมากขึ้น
บางคนอาจสงสัยว่า แล้วใครคือ ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ กรุงเทพประกันภัย (BKI) ?
คำตอบคือ ธนาคารกรุงเทพ และตระกูลโสภณพนิช นั่นเอง..
1
โฆษณา