2 เม.ย. เวลา 10:15 • นิยาย เรื่องสั้น

นิทานธรรม เรื่อง ความสุขใกล้ตัว

ิขงจื้อ เป็นนักปราชญ์ที่ชอบเดินทางเพื่อไปสอนผู้คนให้เข้าใจชีวิต ด้วยหลักคุณธรรมที่เป็นไปเพื่อความถูกต้องดีงาม การเดินทางไกลและบ่อยครั้งถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับขงจื้อ เพราะท่านถือว่าเป็นการแสวงหาความรู้ และทำหน้าที่ถ่ายทอดสรรพวิชาที่ตัวเองมี
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ในขณะที่เดินทางผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ขงจื้อได้เห็นชายชราสูงวัยคนหนึ่ง มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ดีดพิณและร้องเพลงไปด้วย ดูอิริยาบทไหนของชายชราก็สัมผัสได้ว่า ผู้เฒ่าท่านนี้ช่างมีความสุขเสียจริง เมื่อขงจื้อเห็นเช่นนั้นก็หยุดเพื่อสนทนากับขายผู้ผ่านโลกมานาน โดยถามไถ่ขึ้นว่า
“ขออภัยท่านผู้เฒ่า ข้าขอสนทนากับท่านหน่อยจะได้ไหม?”
“ได้สิท่าน ไม่เห็นว่าจะเป็นธุระที่หนักหนาอะไร”
“ท่านมีอายุเท่าไหร่แล้ว?” ขงจื้อถามด้วยถ้อยคำและกิริยาที่สุภาพ
“๙๐ ปี เห็นจะได้”
“ในสายตาของข้า มองว่าท่านช่างเป็นคนที่ดูมีความสุขเหลือเกิน แม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ดูความเบิกบานไม่ได้ร่วงโรยไปกับกาลเวลาที่ผ่านไปเลยแม้แต่น้อย ข้าอยากทราบว่าท่านมีวิธีการใช้ชีวิตอย่างไรจึงดูผ่องใสยิ่งนัก”
เมื่อผู้เฒ่าได้รับทราบความสงสัยของท่านขงจื้อ จึงมองมาที่เจ้าของคำถามอย่างเพ่งพินิจ แล้วจึงตอบคำถามนั้นด้วยใบหน้าที่เบิกบานว่า
“ข้าเองก็ไม่ได้มีเทคนิคพิเศษอะไรมากมายนักหรอก ข้ามีเพียงวิธีคิดในการดูแลชีวิตของตัวเอง ๔ ข้อ เท่านั้นคือ
ข้อที่ ๑... มีคนบอกว่า การเกิดเป็นมนุษย์ คือความโชคดี ในเมื่อข้าเกิดเป็นมนุษย์แล้ว จึงมีความยินดีว่าตัวเองก็เป็นคนที่โชคดีในการเกิดมาในครั้งนี้
ข้อที่ ๒... มีคนบอกว่า การเกิดมาเป็นผู้ชาย คือความโชคดี เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องดูแลร่างกายตัวเองมาก หรือยุ่งยากเหมือนผู้หญิง ในเมื่อข้าเองก็เกิดมาเป็นผู้ชายเช่นเขาว่า ข้าจึงมีความยินดีว่าตัวเองก็เป็นคนที่โชคดีเช่นกัน
ข้อที่ ๓... มีคนบอกว่า คนเราเกิดมาล้วนต้องตาย มีทั้งตายในขณะที่อายุยังน้อย วัยกลางคน กระทั่งแก่เฒ่าตายไป ในเมื่อข้ามีอายุมาถึง ๙๐ ปี โดยที่ยังไม่ถูกความตายมาพลัดพรากไป ข้าจึงยินดีว่าตัวเองช่างเป็นคนที่โชคดีเหลือเกิน ที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง ๙๐ ปี
ข้อที่ ๔... มีคนบอกว่า การมีชีวิตที่เป็นอยู่อย่างปกติ มีร่างกายที่แข็งแรง มีจิตที่เบิกบาน ไม่ถูกความโลภ โกรธ หลง เล่นงาน ถือว่าเป็นความโชคดี ข้าจึงมีความยินดีว่าตัวเองมีชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย แม้ไม่ร่ำรวยนัก แต่ก็รู้สึกว่าความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่สามารถบีบคั้นให้ต้องทำตามมันได้ ข้าจึงยินดีว่าชีวิตของข้าช่างโชคดีเหลือเกิน”
เมื่อขงจื้อได้ฟังท่านพ่อเฒ่ากล่าวเช่นนี้ ก็สัมผัสได้ว่า ผู้เฒ่าได้เข้าถึงสัจธรรมของชีวิตอย่างถ่องแท้ จึงถามพ่อเฒ่าต่อไปอีกว่า
“เหตุใดท่านจึงมีวิธีคิดเช่นนี้ได้?”
พ่อเฒ่าผู้เดินทางผ่านกาลเวลามานาน จึงกล่าวอย่างคนที่รู้เท่าทันความจริงของชีวิตว่า
“ข้าคิดอยู่เสมอว่า ชีวิตของเราไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง มีเพียงร่างกายและจิตใจเท่านั้น ที่พอจะเข้าข้างตัวเองได้ว่าเป็นสมบัติที่เรามีอยู่ เราจึงควรใช้กายและใจนี้ ให้ดำเนินไปอย่างรู้คุณค่า ด้วยการฝึกฝนให้มันเป็นไปในทางที่ดีและถูกต้อง แล้วชีวิตจิตใจที่เรามีอยู่นี้ ก็จะคอยดูแลตัวเราให้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย แต่ไม่ใช่ความมักง่าย เพราะความสุขของคนเรานั้น แท้จริงแล้วก็เริ่มที่จิตใจของเราเอง เมื่อเราเข้าใจสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ตัว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาทีหลัง ก็จะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากแต่อย่างใด”
#เพื่อนกัลยาณธรรม
โฆษณา