3 เม.ย. เวลา 03:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
WealthMagik

🤩เลือกติดพอร์ตไว้สักกอง ยุคทองของตลาดหุ้นอินเดีย มาถึงแล้ว

ตลาดหุ้นอินเดียกำลังเป็นเป้าหมายใหม่ของนักลงทุน สาเหตุมาจากอินเดียมีจำนวนประชาการมากที่สุดในโลกเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดโดยมี GDP เติบโตที่ 6.5 % คาดว่าจะโตได้ถึง 7.3 % แซงหน้าจีนเป็นที่เรียบร้อย จุดที่น่าสนใจคือ อินเดียไม่ได้เติบโตมาจากการส่งออกเป็นหลัก แต่มาจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่เป็นแรงผลักดันแผนเศรษฐกิจ
เนื่องจากกองทุนหุ้นอินเดียมีมากมายหลายกองทุน WealthMagik จึงขอหยิบกองทุนหุ้นอินเดียที่น่าสนใจมา 5 กองทุน เผื่อใครที่อยากเริ่มลงทุนในกองทุนหุ้นอินเดีย หรืออยากมีกองทุนหุ้นอินเดียติดพอร์ตไว้ ศึกษาจากบทความนี้ได้เลย
📌 ผลตอบแทนย้อนหลัง
จากตัวเลขของผลตอบแทนย้อนหลังจะเห็นได้ว่า กองทุนไทยที่มีนโยบายไปลงทุนในหุ้นอินเดียที่สร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีได้โดดเด่นที่สุด คือ KWI INDIA-A อยู่ที่ 35.78% และรองลงมาคือ TMBINDAE และ KT-INDIA-A ที่ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกันโดยอาจจะห่างกันเพียงเล็กน้อย อยู่ที่ 30.73% และ 30.45% ตามลำดับ
📌 พอร์ตการลงทุน
✅ KWI INDIA-A
> ลงทุนในกองทุนหลัก Manulife Global Fund – India Equity Fund (Class I2) 94.23 %
✅ KT-INDIA-A
> ลงทุนในกองทุนหลัก Invesco India Equity Fund - Class A
(ININEAI LX) 92.58 %
✅ KF-INDIA
> ลงทุนในกองทุนหลัก FSSA Indian Subcontinent Fund 98.04 %
✅ TMBINDAE > ลงทุนในกองทุนหลัก Goldman Sachs Funds - Goldman Sachs India Equity Portfolio 95.95 %
✅ ABIG
> ลงทุนในกองทุนหลัก abrdn SICAV I - Indian Equity Fund 97.93 %
📌 ความเสี่ยง
 
ผลตอบแทนกับความเสี่ยง ค่า SD (ยิ่งน้อยยิ่งดี) ของ KF-INDIA และ TMBINDAE มีค่า SD อยู่ที่ 10.13และ 9.58 ตามลำดับ ซึ่งถ้าเทียบจาก 1 ปี หมายความว่าถ้าหากมีค่า SD ยิ่งน้อยแปลว่ากองทุนมีค่าความผันผวนของผลตอบแทนที่น้อย เนื่องจาก KF-INDIA และ TMBINDAE มีค่า SD ที่ไม่ได้แตกต่างกันมาก จึงต้องพิจารณาในส่วนของ Sharpe Ratio ประกอบด้วย ทำให้พบว่า TMBINDAE มีค่า Sharpe Ratio สูงที่สุด อยู่ที่ 3.26 แสดงให้เห็นว่า TMBINDAE ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ากองทุนอื่นๆเมื่อเทียบกันในระดับ 1 หน่วยความเสี่ยง
📌 ค่าธรรมเนียม
หลังจากที่ดูเรื่องของผลตอบแทนย้อนหลังของทุกกองทุนแล้ว เราอาจจะต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมประกอบด้วย จากอัตราส่วนค่าใช้จ่าย KF-INDIA มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด อยู่ที่ 1.02 % และไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อคืน แต่มีค่าธรรมเนียมการขายอยู่ที่ 1.50% และถึงแม้ว่า KWI INDIA-A จะเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง1ปี ดีที่สุด แต่ก็มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายสูงที่สุดเช่นกันอยู่ที่ 2.08 % ไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อคืน แต่มีค่าธรรมเนียมการขายอยู่ที่ 1.50%
🤔ถ้าหากต้องให้แอดมินเลือกลงทุนเพียงแค่1กองทุน แอดเลือก “TMBINDAE” เหตุผลหลักๆเลยคือความผันผวนของผลตอบแทนน้อย ถึงแม้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีจะอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นเป็นอันดับแรกๆ และ ค่าธรรมเนียมไม่ได้ต่ำที่สุดก็ตาม แต่แอดมินเลือกกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีแบบสม่ำเสมอมากกว่ากองทุนที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นแค่บางปี เพราะจะทำให้เราเห็นผลตอบแทนโดยรวมที่ดูดีขึ้นมาได้💥
>>> ถ้าหากใครอยากดูข้อมูลเปรียบเทียบของกองทุนหุ้นอินเดียแบบอัปเดตล่าสุดก็สามารถใช้ฟังก์ชัน Fund Compare ในเมนู Fund Info ของทาง WealthMagik และเลือกกองทุนที่ต้องการเปรียบเทียบตามที่ต้องการได้เลย
คลิก👉 https://cutt.ly/7w8qDeke
โฆษณา