3 เม.ย. เวลา 13:00 • ธุรกิจ

คุยกับ “วิน-เมธวิน” เจ้าของแบรนด์มาการอง SOURI ราคาหลักร้อย ที่ขายได้ 100,000 ชิ้นต่อเดือน

มาการองไส้หนาฟู ในแพ็กเกจจิงสีสันสดใส ดิไซน์สะดุดตา มีหลายรสชาติให้ลิ้มลอง
เอกลักษณ์ของ SOURI (ซูรี) แบรนด์ขนมที่ “วิน เมธวิน” ศิลปินนักแสดงขวัญใจวัยรุ่น ปลุกปั้นมากับมือ
ใครจะรู้ว่า จุดเริ่มต้นของร้าน SOURI เริ่มต้นจากการที่ครอบครัวโอภาสเอี่ยมขจร ร่วมกันทำกิจกรรมที่ชอบในช่วงล็อกดาวน์ และลองโพสต์ขายในอินสตาแกรม
จากที่เคยขายได้แค่วันละไม่เกิน 100 ชิ้น ก็เริ่มขยับขยาย จนวันนี้มาการอง SOURI ขายได้ราว 100,000 ชิ้นต่อเดือน
หากลองคำนวณคร่าว ๆ จากราคามาการองเริ่มต้น 90 บาท เท่ากับว่า SOURI ขายแค่มาการอง ได้ถึง 9,000,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว
อีกทั้งการที่ SOURI ยืนระยะ ผ่านช่วงวิกฤติเข้าสู่ปีที่ 4 จากไม่มีหน้าร้าน จนขยายได้ถึง 7 สาขา ก็สะท้อนได้ดีว่า SOURI มีอะไรมากกว่าแค่กระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดีย
วันนี้ลงทุนเกิร์ล มีโอกาสได้คุยกับคุณวิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร เจ้าของแบรนด์ SOURI ที่จะมาร่วมแชร์กลยุทธ์ ว่าอะไรกันที่ทำให้แบรนด์ขนมน้องใหม่เติบโตได้ขนาดนี้ ?
ก่อนอื่นต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นของ SOURI เริ่มต้นจากความชอบและแพสชันล้วน ๆ
ด้วยความที่คุณวินและครอบครัวหลงใหล การตระเวนชิมอาหารและขนมร้านอร่อย ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาตลอด จึงเกิดไอเดียอยากทำแบรนด์ของตัวเอง เพื่อส่งต่อความอร่อย ในรสชาติที่ตัวเองชอบให้กับคนอื่น ๆ
คุณวินเล่าว่า ทุกเมนู ทุกรสชาติของ SOURI ต่อยอดมาจากความหลงใหลในการทำขนมของ “พี่สาวของคุณวิน” ที่มีโอกาสได้เรียนทำขนมที่สถาบัน Le Cordon Bleu
ทำให้ได้เรียนรู้สูตรขนมต้นตำรับจากฝรั่งเศส ก่อนจะนำมาปรับและพัฒนาสูตรให้ตรงตามความชอบของตัวเองและคนในครอบครัว
เรียกว่า SOURI เป็นธุรกิจครอบครัวก็ไม่ผิดนัก เพราะคุณวินเล่าว่า ในช่วงแรกขนมทุกชิ้นเป็นฝีมือของพี่สาว
ขณะที่คุณวินรับหน้าที่ทำการตลาดเองทั้งหมด ตั้งแต่ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อวิดีโอ ไปจนถึงการโพสต์ขายแบบพรีออร์เดอร์ ในนาม “SOURI”
ซึ่งคำว่า SOURI ก็มาจากคำว่า “Sourire” ที่แปลว่า “รอยยิ้ม” ในภาษาฝรั่งเศส จากความตั้งใจของแบรนด์ที่อยากเห็นลูกค้ามีความสุข หรือมีรอยยิ้มทุกครั้งที่ได้ทานขนม
อย่างไรก็ตาม หากมองในมุมธุรกิจ ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาการองมีราคาต่อชิ้นค่อนข้างสูง ซึ่งมีโอกาสกลายเป็นเป็นขนมติดกระแส ที่มาไว ไปไว ได้ง่าย ๆ
คำถามที่ตามมาคือ คุณวินทำอย่างไรให้ SOURI เกิดการซื้อซ้ำ และเติบโตได้ท่ามกลางการแข่งขันสูงในตลาดนี้ ?
- แตกต่างและใส่ใจทุกรายละเอียด
“การใส่ใจในรายละเอียดกับทุก ๆ เรื่อง คือสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากที่คนอื่นทำ นั่นคือสิ่งสำคัญที่ผมยึดในการทำงาน เราไม่เคยปล่อยผ่านทุกขั้นตอน เราคัดสรรทุกอย่าง”
4
คุณวิน เล่าถึงแนวคิดในการสร้างแบรนด์ SOURI ว่ามีความตั้งใจทำให้ทุกเมนูในร้าน มีความโดดเด่น และแตกต่างจากท้องตลาดตั้งแต่แรก
เช่น เมนูมาการอง ที่ดิไซน์ให้ออกมาดูแปลกตา เริ่มจากการสอดไส้ครีมหนา ๆ รวมถึงปรับรสชาติให้หวานน้อยลง ทำให้รสสัมผัสและหน้าตาของ SOURI แตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ จนเป็นภาพจำ
ขณะเดียวกันในเรื่องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ อย่างแพ็กเกจจิงก็ดิไซน์ออกมาให้มีรูปลักษณ์และสีสันทันสมัย เข้าถึงได้ง่าย และเกิดการจดจำแบรนด์ทันทีที่เห็น
- รักษาความคาดหวังของลูกค้าไว้ให้ได้
ไม่ว่ากระแสจะมาแรงแค่ไหน แต่สิ่งที่จะทำให้แบรนด์อยู่ได้ในระยะยาวก็หนีไม่พ้น “รสชาติ” และ “คุณภาพ” ที่ทำให้เกิดความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรก และทำให้เกิดการซื้อซ้ำได้
ปัจจุบัน SOURI ทำมาการอง 10 รสชาติหลัก ที่ต้องผลิตพร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้าแบบวันต่อวัน เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพได้ง่าย ก่อนส่งไปยังสาขาต่าง ๆ
โดยมาการอง 3 รสชาติที่ขายดีที่สุดคือ Red Velvet, Lemon Pie และ Summer Smoothies ซึ่งแต่ละรสชาติล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
นอกจากนี้ยังมีรสชาติใหม่ ๆ ในแต่ละเทศกาลออกมา ให้เกินความคาดหวังของลูกค้า กระตุ้นให้อยากกลับมาซื้อเสมอ ๆ
- เลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ถูก
คุณวินเล่าว่า SOURI ถูกกำหนด Position ของแบรนด์ให้ชัดมาตั้งแต่แรก โดยตั้งแต่โฟกัสที่กลุ่ม “Young Generation” ที่ชอบความแปลกใหม่ และค่อนข้างมีกำลังซื้อ
สาเหตุที่เน้นกลุ่มนี้เพราะเป็นวัยเดียวกับตัวเอง ทำให้เข้าถึงได้ง่าย และใจความต้องการของคนกลุ่มนี้ได้ดี
ซึ่งที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักถูกใจได้แล้ว ก็สามารถขยายตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้แบบอัตโนมัติ
เช่น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ที่มีโอกาสได้ชิม แล้วถูกใจจนกลายมาเป็นลูกค้ารายใหม่ ไปจนถึงเกิดการซื้อฝาก หรือบอกต่อ
จนทำให้ตอนนี้ SOURI เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเกิดการซื้อซ้ำได้โดยไม่ต้องพึ่งพากระแสตลอดเวลา
- ทำการตลาดอย่างมีเป้าหมาย
คุณวินยอมรับว่า การเป็นคนมีชื่อเสียงนั้นมีส่วนทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้รวดเร็วขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ธุรกิจเติบโต หากขาดกลยุทธ์ในการสื่อสารที่เหมาะสม
ที่ผ่านมา SOURI จึงมีการวางแผนการสื่อสาร ใช้ทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางของแบรนด์เอง
โดยเน้นไปที่อินสตาแกรม ที่มีกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ใช้งานเป็นหลัก รองลงมาคือ Facebook, X, TikTok ซึ่งแต่ละช่องทางก็ถูกวางรูปแบบการนำเสนอ และคอนเทนต์ที่แตกต่างกันออกไป
ขณะเดียวกันก็มีการใช้ KOL ที่มีไลฟ์สไตล์สอดคล้องกับแบรนด์ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ในช่องทางออฟไลน์ SOURI ก็ยังเดินหน้าเปิดสาขา และ Pop-up Store เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า และสร้างการรับรู้ที่มากขึ้น
ปัจจุบัน SOURI มีสาขาทั้งหมด 3 สาขา คือ ธนิยะพลาซา, ดิ เอ็มสเฟียร์, เซ็นทรัลเวิลด์ และ Pop-up Store 4 แห่ง ที่เซ็นทรัล เวสต์วิลล์, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และสยามพารากอน
พร้อมทั้งตั้งเป้าว่าในปี 2024 นี้ จะขยายสาขารวมเป็น 10 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ในจังหวัดอื่น ๆ อย่างเช่น เชียงใหม่ด้วย
แล้วในอีก 3-5 ปีข้างหน้า SOURI จะเป็นอย่างไร ?
คุณวินเล่าว่า เป้าหมายระยะยาว อยากให้ SOURI เติบโตเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยตั้งใจให้แบรนดิงมีเอกลักษณ์ชัด คนเห็นแล้วจำได้ว่าเป็น SOURI แต่ตั้งใจจะทำให้ International มากขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพแบรนด์สัญชาติไทยให้ไปไกลถึงระดับโลกได้อีกแบรนด์
“สิ่งที่แบรนด์มองเห็นคือต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องพัฒนา และอยู่ในเทรนด์ตลอดเวลา เมนูหลักก็ต้องรักษาคุณภาพไว้ แต่ก็ยังต้องสร้างกิจกรรมใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา”
หลังจากนี้ จะมีแบรนด์ขนม ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ SOURI ออกมาให้ได้ติดตาม
ขณะที่แบรนด์ SOURI ก็กำลังพัฒนาระบบการผลิตในระดับโรงงาน เพื่อเตรียมพร้อมส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ตามมาตรฐานสากลด้วย
โดยคุณวินทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า “SOURI ไม่จำเป็นจะต้องถูกจดจำในฐานะแบรนด์ของ วิน-เมธวิน เสมอไป แต่อยากให้ SOURI เป็นแบรนด์ SOURI ด้วยตัวของเขาเอง แม้ลูกค้าอาจจะไม่ได้รู้จักวิน ก็รักในแบรนด์ SOURI อันนี้คือเป้าหมายที่ผมอยากจะทำตั้งแต่แรก”
มาถึงตรงนี้ คงหายข้องใจแล้วว่า ทำไม SOURI ถึงกลายเป็นแบรนด์ขนมที่ประสบความสำเร็จ และโดดเด่นจนเป็นที่จดจำ
เพราะการทำธุรกิจ ก็เหมือนการวิ่งมาราธอน ที่ต้องมีความอดทน ความมุ่งมั่นตั้งใจ การวางแผนเป็นอย่างดี และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะวิ่งเข้าเส้นชัยได้
ซึ่งสิ่งนี้กำลังบอกกับเราว่า แค่มีชื่อเสียง ก็ไม่ได้การันตีความสำเร็จในการทำธุรกิจเสมอไป..
Reference:
-สัมภาษณ์พิเศษกับคุณวิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร เจ้าของแบรนด์ SOURI
โฆษณา