4 เม.ย. เวลา 17:51 • ไลฟ์สไตล์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

ข้อเขียนจากอาจารย์ด้านไฟฟ้า เขียนว่า แอร์เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนเมือง

แต่ค่าไฟแอร์มันแพงมาก เช่น แอร์ขนาด 1 ตันที่ใช้ในห้องขนาดเล็กทั่วไปจะมีความต้องการไฟฟ้าประมาณ 1500 w. ถ้าเปิดวันละ 10 ชม. ค่าไฟเฉลี่ย 3.50 บาท/หน่วย ก็จะต้องเสียค่าไฟปีละ ประมาณ 19,000.-บาทแต่แอร์มันมีการตัดไม่ทำงานอยู่บ้างสัก 20% (แล้วแต่ระดับการตั้งอุณหภูมิ)
ดังนั้น ค่าไฟประมาณปีละ 15,000 .-(จริง ๆ ค่าไฟต่อหน่วยแพงกว่านั้น)
ส่วนใหญ่หน่วยงานรัฐไทย จะแนะนำ ให้ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 25 องศาและความชื้นสัมพัทธ์ที่ 50% ซึ่งเป็นการลอกฝรั่งมาทั้งดุ้น
ของไทยเราควรกำหนดอุณหภูมิที่ 26-28 ความชื้นที่ 70 เพียงแค่นี้ค่าแอร์จะลดจาก 15,000.-เหลือ 10,000.- ทันที เพราะสำหรับคนไทยเรา 25 นั้นมันหนาวเกินไปแล้ว บางคนคลุมโปงซะมิด
แล้วเปิดแอร์ทำไม ถ้าใช้ชุดนอนโปร่งๆ ไม่ห่มผ้าหนา จัดไว้ที่ 28 ยังได้เลย ก็ลดลงเหลือ 8,000.-
ยัง..ยังไม่พอ ให้ตั้งที่ 30 แล้ว เอาพัดลมตั้งพื้นราคา 500 - 1,000 บาท มาเป่าเตียงนอนแบบส่ายไปมา พัดลมนี้กินไฟเพียง 50 วัตต์ เปิด 10 ช.ม. ต่อวันตลอดปีเสียค่าไฟ 630 บาท แต่จะลดค่าไฟแอร์ จาก 8,000.-เหลือ 2,000.-เท่านั้น
ทั้งนี้เพราะว่า พอเลยเที่ยงคืนไปแล้วอุณหภูมิมันต่ำกว่า 30 แล้ว ครับ แอร์ก็ไม่ทำงานแล้ว ส่วนเราก็หลับแล้วเป็นส่วนมาก
ไม่ว่าจะหลับหรือไม่
ก็เย็นสบายดีเพราะพัดลมจะทำงานตลอด ทำให้เรารู้สึกสบายเหมือนว่าอยู่ในอุณหภูมิ 27 องศา (ซึ่งกำลังดีสำหรับคนไทยทำให้ไม่เป็นโรคจากความเย็นเกินไปอีกต่างหาก)
เที่ยงคืนถึง 8 โมงเช้า เราไม่เสียค่าไฟแอร์เลย (1500 w.) แต่เสียค่าไฟพัดลม 50w.
สรุปรวมคือ เราจะเสียค่าไฟแอร์เพียงปีละ 2,000.- บาท และพัดลมอีก 600.-บาท
ประหยัดได้ 12,500.-บาท
ยัง….. ยังสามารถประหยัดได้มากกว่านี้อีก
ในขณะที่กินข้าวดูทีวีตอนหัวค่ำ ควรเข้าไปแง้มหน้าต่างห้องนอน แล้วเปิดพัดลมไล่อากาศร้อนออกและผนังปูนร้อนๆ ที่มันอมความร้อนไว้มหาศาลออกไปด้วย
วิธีนี้จะช่วยประหยัดแอร์ได้อีก และเพิ่มความสุขสบายด้วย
จากการที่ห้องนอนจะเย็นอย่างรวดเร็วทันทีที่เปิดแอร์
ไม่งั้นครึ่งชม.แรกก็ยังร้อนอยู่ จากการที่ปูนมันแผ่รังสีออกมา
#คำแนะนำดีๆ…
ประหยัดไฟหน้าร้อน..
โฆษณา