9 เม.ย. เวลา 11:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจเดนมาร์กเติบโต จากยาของ Novo Nordisk (NVO)

🇩🇰 Novo Nordisk (NYSE : NVO) เป็นบริษัทยาจากประเทศเดนมาร์กที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ด้วยมูลค่า 14.2 ล้านล้านบาท และยังพ่วงตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในทวีปยุโรป แซงหน้า LVMH ยักษ์ใหญ่แบรนด์หรูจากฝรั่งเศส
ผลิตภัณฑ์หลักของ Novo Nordisk คือยารักษาโรคเบาหวาน และยารักษาภาวะน้ำหนักเกิน
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ บริษัทยาที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นในประเทศเดนมาร์ก
ประเทศเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป มีประชากรเพียง 6 ล้านคน
💊 อุตสาหกรรมผลิตยารักษาโรค เป็นภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของเดนมาร์ก
ในปี 2565 เดนมาร์กส่งออกยารักษาโรค เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1
ด้วยมูลค่าการส่งออกกว่า 670,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 16 % ของสินค้าส่งออกทั้งหมด
จุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมยาของเดนมาร์ก ย้อนกลับไปในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1
โดยมีมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ในกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก เป็นกำลังสำคัญในการวิจัยและพัฒนา
👨‍🏫 หนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญ คือ ศาสตราจารย์ August Krogh อาจารย์ประจำวิชาสรีรวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ได้เดินทางไปศึกษาการสังเคราะห์ฮอร์โมนอินซูลินจากแคนาดา ในปี 2465 ในช่วงเวลานั้น มีการค้นพบฮอร์โมนอินซูลิน ที่มีหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกาย และมีการสังเคราะห์มาใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ซึ่งภรรยาของอาจารย์ คุณหมอ Marie Krogh ก็ป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว อาจารย์และภรรยา จึงซื้อสิทธิบัตรการผลิตอินซูลิน และนำมาพัฒนาการผลิตในเดนมาร์ก โดยเริ่มจากในห้องทดลองในมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ด้วยการสกัดอินซูลินจากตับอ่อนของหมู จนนำมาสู่การก่อตั้งบริษัท Nordisk Insulinlaboratorium ในปี 2466 เพื่อผลิตอินซูลินในเชิงการค้า
ภายหลังบริษัทนั้นก็ได้ควบรวมและเปลี่ยนชื่อเป็น Novo Nordisk บริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์กในปัจจุบัน
💊 การเกิดขึ้นของ Novo Nordisk เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาอุตสาหกรรมยาในเดนมาร์ก และการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ก่อให้เกิดบริษัทยามากมายในเดนมาร์กในอีกหลายสิบปีต่อมา
ซึ่งรัฐบาลเดนมาร์กก็มีส่วนในการจัดตั้ง Medicon Valley ชานกรุงโคเปนเฮเกน ในปี 2540 ให้เป็นศูนย์รวมสถาบันวิจัยทางการแพทย์ โรงพยาบาล สำนักงานของบริษัทยาและไบโอเทคโนโลยี และสนับสนุนงบการวิจัยและพัฒนา ซึ่งงบประมาณที่ใช้ในกระบวนการวิจัยและพัฒนาของเดนมาร์กอยู่ที่ 3.0 % ต่อ GDP ในปี 2565 สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก
กลับมาที่บริษัท Novo Nordisk
📊 สัดส่วนรายได้ของบริษัท ในปี 2566
ยารักษาโรคเบาหวานกลุ่ม GLP-1 สัดส่วน 53 %
ฮอร์โมนอินซูลิน 21 %
ยารักษาภาวะน่ำหนักเกิน 18 %
ยารักษาโรคอื่น ๆ 8 %
💉 โดยยาที่มียอดขายมากที่สุด คือยา Semaglutide ที่มีชื่อการค้าว่า Ozempic เป็นยารักษาโรคเบาหวาน ครองสัดส่วน 41 %
อันดับ 2 คือยา Semaglutide ตัวเดิม แต่เปลี่ยนความแรง และใช้รักษาภาวะน้ำหนักเกิน ใช้ชื่อการค้าว่า Wegovy ครองสัดส่วน 13 %
ที่มา : novonordisk.com, ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2567
📉 ที่น่าสนใจคือ ในปี 2566 ที่ผ่านมา ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงสูงอยู่ และภาวะเงินเฟ้อ ทำให้รัฐบาลเดนมาร์กคาดการณ์ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจอาจหดตัวลง
แต่ด้วยรายได้ของ Novo Nordisk กว่า 2.3 แสนล้านโครน หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 31 %
📈 ส่งผลให้ GDP เดนมาร์กในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 เพิ่มขึ้น 1.8 %
ซึ่งหากไม่มีอุตสาหกรรมยาจะหดตัวลง 0.1 %
🏛️ ซึ่งผลพวงจาก Novo Nordisk ก็ยังไม่สิ้นสุด เพราะ Danske Bank ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเดนมาร์ก คาดการณ์ว่ายอดขายยารักษาภาวะน้ำหนักเกินจะเพิ่มขึ้นอีกราว 26 % และจะส่งผลให้ GDP ของเดนมาร์กปี 2567 โตต่ออีก 2.1 %
💊 เรียกได้ว่า สิ่งที่ทำให้ผู้คนในประเทศเล็ก ๆ อย่างเดนมาร์ก ร่ำรวยติดอันดับ Top 10 ของโลก ไม่ใช่การมีทรัพยากรมหาศาล แต่เป็นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างบริษัทที่ขายสินค้าเฉพาะทางให้กับผู้คนได้ทั้งโลก
สินค้าเฉพาะทางที่เป็น 1 ในปัจจัย 4 อย่าง ยารักษาโรค..
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ  
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
มูลค่าบริษัท ณ วันที่ 22 มีนาคม 2567
════════════════════                   
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน                   
════════════════════                   
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน                   
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
โฆษณา