10 เม.ย. เวลา 02:38 • ปรัชญา

แสวงหาธรรมกายดีกว่า

วิชชาธรรมกายสำคัญมากๆ จำเป็นมากๆ สำหรับชีวิตมนุษย์ จำเป็นยิ่งกว่าปริญญาในทางโลกเสียอีก หลวงพ่อได้คุยกับดอกเตอร์หลาย ๆ ท่าน มักจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนที่ยังไม่ได้ดอกเตอร์ ก็อยากได้ พอได้ดอกเตอร์แล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไร และยังบอกอีกว่า ถ้าหากให้ท่านเลือก ระหว่างการได้เข้าถึงธรรมกาย หรือถึงวิชชาธรรมกาย แล้วแลกกับดอกเตอร์ ท่านยอมแลกดอกเตอร์ ขอให้ได้ธรรมกาย เพราะว่าเข้าถึงธรรมกายแล้ว เป็นที่พึ่งแก่เราได้
ได้ข่าวว่า ลูกๆ หลวงพ่อหลาย ๆ ท่าน ทั้งพระภิกษุสามเณร กำลังกระหายปริญญากัน จะขอเรียนต่อทางโลก เพื่อให้มีปริญญา เนื่องจากมีความรู้สึกขาดแคลนปริญญา มีความรู้สึกลึก ๆ คิดไปเองว่า เป็นพลเมืองชั้นสอง รู้สึกมีปมด้อย มีความรู้สึกเหล่านี้ติดอยู่ในใจ
หลวงพ่อว่า เรากำลังจะออกนอกทางกันนะ เพราะวัตถุประสงค์ของหลวงพ่อ อยากให้ลูกทุกรูป อุบาสกอุบาสิกาทุกคน ได้ศึกษาความรู้ที่ยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีอะไรเหมือนเป็นความรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วอยากให้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของวิชชานี้
แล้วภาคภูมิใจ ในการที่ได้เข้ามาอยู่ร่วมสำนัก อยู่ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน นี่เป็นสิ่งที่หลวงพ่ออยากให้เกิดขึ้น จึงอยากจะย้ำให้ลูก ๆ ทุกท่านได้ทราบไว้ว่า ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่หรือเท่าเทียมวิชชาธรรมกายได้เลยแม้แต่นิดเดียว หลวงพ่อขอยืนยัน
เพราะฉะนั้น แทนที่เราจะทุ่มตัวไปศึกษาความรู้ในทางโลก เพื่อให้ได้ปริญญาตรีแบบทางโลก หลวงพ่อคิดว่าเราควรจะมุ่งเข้าไป ศึกษาวิชชาธรรมกาย ซึ่งอยู่ภายใน ซึ่งเราจะใช้เวลาในชีวิตของเรา ที่เหลืออย่างจำกัด ไม่กี่สิบปีนี้ ศึกษาเท่าไรมันก็ไม่หมด อายุยืนสักพันปีก็ไม่หมด อย่างนี้น่าจะดีกว่า
ดังนั้น ใครที่มีความคิด รู้สึกว่าเป็นปมด้อย เลิกคิดแล้วตั้งใจเอา ๓ ป. ให้ได้ นั่นแหละเป็นหลัก และเรียนเสริมอีก ๑ ภาษา ภาษาอะไรก็ได้ หรืออย่างน้อยภาษาอังกฤษเพื่อที่เราจะได้นำความรู้ วิชชาธรรมกายไปถ่ายทอด ให้กับชาวโลกเขารับทราบ
แล้วจำไว้นะ ความรู้ที่ชาวโลกขาดแคลนจริง ๆ คือ "วิชชาธรรมกาย" เวลาที่สาธุชนมาหาหลวงพ่อ ไม่มีใครเคยถามเลยว่า จบอะไรมา แต่เขาจะถามว่า ...
ทำอย่างไร ใจถึงจะหยุดนิ่ง
ทำอย่างไร ถึงจะเข้าถึงความสุขที่แท้จริง
ทำอย่างไร ถึงจะเข้าถึงพระธรรมกาย
ทำอย่างไร จะเข้าถึงอภิญญา
ทำอย่างไร จึงจะระลึกชาติได้
นี่คือคำถามที่หลวงพ่อได้รับจากคนทุกระดับ ตลอดระยะเวลาที่บวชมา ไม่มีใครถามเลยว่า จบอะไรมา มันเสียเวลาเปล่า ถ้าหากเราคิดมุ่งจะไปเอาปริญญามา คิดไปเองว่าเราขาดแคลนปริญญา เป็นปมด้อย เลิกคิดได้แล้ว
ลูกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีคุณค่ามหาศาล แล้วความรู้ที่มีอยู่นี้ ไม่มีใคร ๆ ในโลกมี มีแต่เราที่จะมี เพราะฉะนั้นทุ่มตัวศึกษาเถิด เข้าถึงธรรมกายเมื่อไร ได้ศึกษาวิชชาธรรมกายเมื่อไร จะซาบซึ้งในสิ่งที่หลวงพ่อพูดยิ่งกว่านี้หลาย ๆ ล้านเท่า ซึ่งผู้ที่เขาเข้าถึงก็มีอยู่ เพราะฉะนั้นปรับจิตปรับใจคิดกันเสียใหม่ เราไม่มีปมด้อย เราไม่มีปมเด่น แต่เรามีปมดี ปมที่เข้าถึงพระธรรมกาย เป็นปมดีที่ชาวโลกเขาขาดแคลน
ดูหลายๆ ท่านจบปริญญามา ยังมีความรู้สึกว่า ชีวิตยังไม่สมบูรณ์เลย ยังไม่เต็มเปี่ยม แสดงว่า ลึก ๆ จริง ๆ แล้วเรากำลังแสวงหาสิ่งสิ่งหนึ่ง ที่จะทำให้ชีวิตเต็มเปี่ยมสมบูรณ์
มีคุณค่า เพราะฉะนั้นทุกคนกำลัง มีฐานะเท่าเทียมกันทั้งหมดเลย ทั้งลูกสามเณรก็ดี พระก็ดี คือการแสวงหาธรรมกาย สิ่งที่มีคุณค่ามากที่สุด ตอนนี้เรามีฐานะเท่าเทียมกันแล้ว ไม่ได้วัดด้วยปริญญาเลย
ใครทำใจหยุดนิ่งได้เร็ว คนนั้นก็เข้าถึงได้เร็ว
ใครหยุดนิ่งได้ช้า ก็เข้าถึงช้า
เราไม่มีปมด้อยในใจเลย
เรามีปมดีของเรา
เรากำลังจะทำความดีนะลูกนะ
โอวาทคุณครูไม่ใหญ่
๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๖
จากหนังสือ สิ่งที่ต้องแสวงหา ๓ (หน้า (๑๐๒-๑๐๕)
ภาพดีๆ ๐๗๒, เพจการบ้าน
โฆษณา