12 เม.ย. เวลา 01:08 • ข่าวรอบโลก

ยูเครนจะสามารถ “เกณฑ์ทหารใหม่” โดยไม่ต้อง “สูญสิ้นคนหนึ่งรุ่น” ได้หรือไม่?

มีการเผยแพร่บทความของ NYT เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2024 เกี่ยวกับการจัดหาทหารใหม่ของยูเครนเข้ากองทัพประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน “เซเลนสกี” ตัดสินใจและอนุมัติให้ลดอายุของการเกณฑ์ชายชาวยูเครนเข้ารับใช้ชาติ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากเพื่อเติมกำลังพลในการทำสงครามกับรัสเซียซึ่งกินเวลามานานกว่าสองปีแล้ว ทั้งสูญเสียและเหนื่อยล้า หนำซ้ำยังมีทหารที่ผ่านศึกพิการกลับมาไม่สามารถสู้รบได้ต่อจำนวนมาก
2
แต่ยูเครนกำลังเผชิญกับ “ข้อจำกัดด้านประชากรศาสตร์ของประเทศ” ที่สำคัญ ซึ่งมันสั่งสมกันมาเป็นเวลานานแล้วนั่นคือ “ชายหนุ่มในประเทศมีไม่เพียงพอ”
ชายยูเครนที่มีสุขภาพแข็งแรงซึ่งมีอายุต่ำกว่า 30 ปี นับเป็นกระดูกสันหลังของกองทัพประเทศ จัดว่าเป็นสัดส่วนของคนรุ่นที่มีจำนวนน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของยูเครน ดังนั้นยูเครนจะต้องสร้างสมดุลระหว่าง “ความจำเป็นในการโจมตีตอบโต้รัสเซีย” ด้วยการเพิ่มกำลังทหารของประเทศ แต่ในทางหนึ่งก็ต้องรับมือกับ “ความเสี่ยงที่จะสูญเสียคนทั้งรุ่นไป”
1
เครดิตภาพ: NYT
“เซเลนสกี” ตัดสินใจเมื่อต้นเดือนนี้ด้วยการลดอายุการเกณฑ์ทหารลงเหลือ 25 ปี จากเดิม 27 ปี ซึ่งยังคงถือว่าอายุมากตามมาตรฐานของทหารเกณฑ์ในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกาผู้ชายสมัครใจเข้าเป็นทหารได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี
การที่เซเลนสกีตัดใจยอมลดอายุเกณฑ์ทหารลง 2 ปี เขารู้ว่ามีความเสี่ยงเพราะมันไปดึงกลุ่มคนวัยแรงงานที่มีจำนวนน้อยที่สุดของประเทศมาอยู่ในความเสี่ยงจากสงคราม แต่มันไม่มีทางเลือกเพราะตัดสินใจว่าจะสู้ต่อ ตัวเลขการสูญเสียของกำลังพลจากสงครามมันก็เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว ในส่วนของทหารอาสามันก็เต็มที่แล้วไม่รู้จะไปรับเพิ่มจากที่ไหน
2
การที่ยูเครนไม่ค่อยอยากลดอายุการเกณฑ์ทหารยังคงสะท้อนถึงผลกระทบที่ยังคงมีอยู่ในด้านตัวเลขประชากรศาสตร์ของประเทศ สาเหตุของปัญหาดังกล่าวในปัจจุบันสั่งสมมานานแล้ว
2
อัตราการเกิดที่ลดลงอย่างมากของยูเครนในช่วงทศวรรษแรกหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงที่เดียว การลดลงที่คล้ายกันนี้พบเห็นได้ในหลายประเทศหลังยุคโซเวียต รวมถึงรัสเซียเองด้วย เศรษฐกิจถดถอย และอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มผู้สูงอายุ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากโรคหลอดเลือดหัวใจที่ไม่ได้รับการรักษา โรคพิษสุราเรื้อรัง และการบาดเจ็บจากการทำงาน
ในช่วงทศวรรษ 1990 ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตปรากฏขึ้นเหนือชีวิตความเป็นอยู่ของคนยูเครน ยูเครนตกอยู่ภายใต้ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนดังกล่าว “ทำให้คนไม่อยากมีลูก” ในปีที่ยูเครนได้รับเอกราชหลังโซเวียตล่มสลายคือปี 1991 ผู้หญิงยูเครนมีลูกโดยเฉลี่ย 1.9 คน หนึ่งทศวรรษต่อมาอัตราการเกิดลดลงเหลือเพียง 1.1 คน
ภาพถ่ายชาวยูเครนเมื่อปี 1991 เครดิตภาพ: Peter Turnley/Corbis/VCG via Getty Images
เมื่อผ่านไป 20 ปี จากช่วงปี 2000 ซึ่งยูเครนมีอัตราการเกิดอยู่ที่ 1.1 คน เด็กที่เกิดช่วงมิลเลเนียมก็อายุประมาณ 20 ปี จึงมีจำนวนน้อยลงไม่เพียงพอในด้านแรงงาน และส่งผลตามมาอย่างมากหลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนในปี 2022
ดังนั้นความท้าทายด้านประชากรศาสตร์ของยูเครนในช่วงสงครามนั้นเลวร้ายยิ่งกว่ารัสเซียมาก เพราะรัสเซียมีจำนวนประชากรมากกว่าเกือบสี่เท่า ดังนั้นรัสเซียจึงสามารถดึงชายชาวรัสเซียเข้ามาเติมในกองทัพได้เรื่อยๆ ผิดกับยูเครน มากไปกว่านั้นอีกคือ ในดินแดนที่รัสเซียผนวกเพิ่มมาจากยูเครนเดิม รัสเซียก็มีการเกณฑ์ชายในพื้นที่เพื่อมาสู้รบกับกองทัพยูเครน โดยเกณฑ์ที่อายุตั้งแต่ 18 ปี
1
นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนยูเครนรุ่นที่เกิดในขณะนั้นมีจำนวนน้อย ทำให้ไม่สามารถรับมือกับความท้าทายที่เคียฟกำลังเผชิญอยู่ได้ “การตัดสินใจในการระดมพลครั้งใหญ่ครั้งใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว แม้ว่าจะสายเกินไปก็ตาม” นายพันยูเครนคนหนึ่งกล่าว
ผลกระทบของสงครามต่อชาวยูเครนรุ่นต่อไปเริ่มชัดเจนแล้ว จำนวนการเกิดลดลงเกือบครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2021 ถึง 2023 ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการลดลงนี้ นักประชากรศาสตร์กล่าวว่า ผู้หญิงยูเครนประมาณ 800,000 คน อายุระหว่าง 18 ถึง 34 ปี หลบหนีไปยังประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป ในตอนนี้การขาดประชากรผู้หญิงกำลังมีบทบาทสำคัญต่ออัตราการเกิดของยูเครนมากกว่าการเกณฑ์ทหารชายชาวยูเครน
3
อ่านจบบทความต้นเรื่องของ NYT แล้วก็ยังไม่คำตอบตามชื่อเรื่องของบทความที่พาดหัวไว้เลย รู้แต่ว่ายูเครนตกที่นั่งลำบาก ก็ขออย่าให้เป็นไปตามคำที่พูดกันไว้ว่า “จนถึงยูเครนคนสุดท้าย”
5
เรียบเรียงโดย Right Style
12th Apr 2024
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Reuters>
โฆษณา