Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อ่านอีกครั้งก็ยังชอบ
•
ติดตาม
13 เม.ย. เวลา 16:10 • ครอบครัว & เด็ก
ห ล า น ม่ า
หนังแนวแฟมมิลี่ดร่ามา
วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ปีนี้แอดขอแนะนำหนังเรื่อง "หลานม่า" หรือ How To Make Millions Before Grandma Dies (2024) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของค่าย GDH ที่กำลังกล่าวขานกันทั่วประเทศไทยหลังเข้าฉายเพียงไม่นานแฟนเพจหลายคนอาจจะได้ชมหนังเรื่องนี้มาแล้ว
.
เรื่องนี้เหมาะกับวันผู้สูงอายุแห่งชาติคือวันนี้ และวันครอบครัว ๑๔ เม.ย. ด้วย มีผู้ไปชม "หลานม่า" อย่างเนืองแน่นตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉายคือ ๔ เม.ย. ซึ่งตรงกับวันเช็งเม้งที่ครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีนจะเดินทางไปเคารพสุสานของบรรพบุรุษประจำทุกปี จนถึงวันนี้ก็ยังทำรายได้ต่อเนื่อง
.
หากดูจากชื่อเรื่องภาษาอังกฤษก็จะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของหนัง ซึ่งดูจะเป็นแนวดาร์กก็ว่าได้ แต่ถ้าดูโปสเตอร์หนังและคำโปรยจะสื่อโทนอบอุ่นมากค่ะ
.
ธีมเรื่องเล่าว่า ลูกทั้งสามคนของอาม่าโตแล้วก็แยกไปมีครอบครัวกันหมด ไม่มีเวลามาดูแลอาม่า และปล่อยให้อาม่าอยู่ที่บ้านตึกแถวเก่าๆ แถวตลาดพลูตามลำพัง อาม่ามีรถเข็นไปขายโจ๊กคนเดียวทุกวัน
.
ฉากเปิดของเรื่องเป็นวันเช็งเม้งที่ครอบครัวมีคนสามรุ่นคืออาม่า ลูกชายคือกู๋เคี้ยง ลูกสาวคนกลางคือซิว (แม่เอ็ม) ลูกชายคนเล็กคือกู๋โส่ย และเอ็ม มาพร้อมกัน แต่ดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจกับงานมีอาม่าคนเดียวที่คอยบอกให้จัดวางของโน่นนี่นั่น
วันเช็งเม้ง
เอ็ม เด็กหนุ่มที่เรียนไม่จบและฝันจะเป็นเกมเมอร์ แต่ก็ล้มเหลวเคยถามมุ่ย ลูกพี่ลูกน้องว่ามีงานอะไรที่สบายๆ และรวยเร็ว มุ่ยจึงบอกเอ็มว่า สิ่งที่คนแก่ต้องการแต่ไม่มีใครให้ได้คือ "เวลา" เธอจึงดูแลปรนนิบัติอากงที่นอนติดเตียงอย่างดี และเธอก็เป็นที่หนึ่งในใจอากง เมื่ออากงตายเธอจึงได้รับมรดกเป็นบ้านหลังใหญ่และเธอขายได้ราคาสิบล้าน
.
เอ็มได้ไอเดีย....อยากได้สมบัติคือตึกแถวของอาม่า จึงมาทำดีกับอาม่า หน้าที่ของหลานม่าจึงเริ่มขึ้นเมื่อเอ็มแวะเวียนไปหาอาม่าที่บ้าน อาม่าแปลกใจว่ามาทำไม เอ็มบอกว่าคิดถึงและก็จะมาดูแลอาม่า... เอ็มจึงตามติดอาม่าตลอด ไม่ว่าตื่นเช้าไปช่วยขายโจ๊ก พาอาม่าไปโรงพยาบาล เล่นไพ่กับอาม่าฯลฯ
.
ลูกๆ ไม่มีใครกล้าบอกว่าอาม่าป่วยเป็นอะไรหลังตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง แต่เอ็มบอกอาม่าตั้งแต่มาอยู่ด้วยกันวันแรกๆ เขาคิดว่าอาม่าควรต้องรู้เพราะเป็นสิทธิ์ของอาม่าและร่างกายของอาม่าเอง
อาม่าและซิว
.
แม้เอ็มจะไม่ได้เติบโตอย่างใกล้ชิดอาม่า ไม่รู้ว่าอาม่ากินเจ ไม่เคยอาบน้ำให้อาม่า และไม่เคยนอนกับอาม่าฯลฯ แต่เขาก็ปรับตัวอยู่กับอาม่าได้อย่างดี อาม่ายังแปลกใจที่หลานคนนี้มาดูแลเพื่ออะไร วันหนึ่งจึงถามเอ็มว่า "มึงก็หว่านพืชเพื่อหวังผลใช่มั้ย" อาเอ็มนิ่งเงียบ
.
แอดเชื่อว่าผู้ชม "หลานม่า" ต่างรู้สึกต่อหนังและตัวละครต่างกันขึ้นกับประสบการณ์ในชีวิตที่แตกต่างทั้งวัยและเพศด้วย สิ่งที่ตัวละครแสดงออกจึงมีผลค่ออารมณ์ผู้ชมแตกต่างกัน แอดจะขอยกตัวอย่างถ้อยคำที่สื่อความหมายบางช่วงมาแชร์กัน
.
ฉากที่กู๋เคี้ยงและครอบครัวพาอาม่าไปทำบุญสื่อความสำคัญของบุคคลในชีวิตแต่ละคนได้อย่างดีทีเดียว ลูกชายคนโตและครอบครัวไม่มีใครเขียนขอพรให้อาม่าเลย ขณะที่เอ็มเขียนว่าขอให้อาม่าถูกหวย อาม่าเขียนขอพรให้ลูกๆและหลานครบทุกคน เอ็มต้องทักว่า
เอ็ม : ครอบครัวนี้ไม่เห็นมีใครขอพรให้อาม่าเลย
อาม่า : เขาก็เขียนให้ครอบครัวของเขา
เอ็ม : อ้าว แล้วอาม่าไม่ใช่ครอบครัวเขาเหรอ!!!
.
ความใกล้ชิดค่อยๆ สร้างความรู้สึกรัก ความผูกพันและห่วงใยต่ออาม่า ปกติลูก ๆ อาม่าจะแวะไปบ้านอาม่าที่ตลาดพลูทุกวันอาทิตย์ เมื่อเอ็มมาอยู่กับอาม่า เขาสงสัยทำไมอาม่าแต่งตัวด้วยชุดสวยผิดปกติจากวันอื่นๆ ภายหลังจึงรู้ว่าอาม่าแต่งตัวรอลูกๆ ที่จะมาหา โดยเฉพาะโส่ย บางครั้งอาโส่ยไม่แวะมา อาม่าเปรยกับเอ็มขณะที่รอฟังเสียงมอเตอร์ไซค์ของโส่ยว่า เขาไม่แวะมาก็แสดงว่าเขามีความสุขดี... ถ้าใครได้ดูแอดเชื่อว่าจะรู้สึกซาบซึ้งกับบทสนทนาของเอ็มกับอาม่ามากๆ
เอ็ม : กู๋โส่ยนี่ ไม่น่ามาหาอาม่าเลยเนอะ มาที่ไรได้เรื่องทุกที
อาม่า : อาโส่ย อีไม่มาดีที่สุด อีไม่มาก็แสดงว่าอีสบายดี!!!
อาม่ารอคอยลูกๆ
.
“หลานม่า” เป็นหนังที่ไม่เพียงสะท้อนเรื่องความรักและความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว แต่ยังเอ่ยถึงความเชื่อและวิถีชีวิตของคนจีนที่ยังคงไม่เปลี่ยนไป เช่น ความรักลูกผู้ชายมากกว่าลูกสาว เห็นได้จากอาม่ารักกู๋เคี้ยงมากกว่าซิว ที่ห่วงใยดูแลแม่อย่างใกล้ชิดมากกว่า แต่ลึกๆ ในใจอาม่าในฐานะแม่ก็รักและห่วงใยลูกทุกคน
.
เช่นเมื่ออาม่าได้ย้ายมาอยู่บ้านอาซิว ลูกสาวคนกลาง อาม่าคุยกับอาซิวว่า "อาเอ็มอีถามอั๊วบ่อย ๆ ว่ารักลูกคนไหนมากที่สุด อั๊วตอบไม่ได้หรอกนะ แต่อั๊วอยากอยู่กับลื้อที่สุด"!!!
.
"หลานม่า" ยังสะท้อนถึงรุ่นลูกหลานที่ไม่ได้ซึบซับวัฒนธรรมจีนในชีวิตประจำวันให้เห็นชัดเจนขึ้น เช่นการที่ลูกหลานคนจีนพูดภาษาแต้จิ๋วไม่ได้ก็ปรากฏอยู่บางฉากที่เอ็มไม่เข้าใจว่าอาม่าพูดอะไร
อาม่า: "กูโจ่ยเซี่ยมึงนะ"
เอ็ม: "อาม่าด่าอะไรเอ็ม"
อาม่า: "กูขอบใจ เป็นคนจีนภาษาอะไร ฟังไม่ออกสักอย่าง"
เอ็ม: "คนจีนภาษาไทยไงม่า"
ขณะที่มุ่ยนั้นเข้าใจและสื่อสารกับอาม่าได้อย่างที่อาม่าคุยด้วยแล้วมีความสุข
.
หนังเรื่องนี้เก็บรายละเอียดทั้งความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ฉากย่านตลาดพลู ความไม่เท่าเทียมระหว่างเพศหญิงและชาย (อาม่าไปขอเงินพี่ชายเพื่อซื้อฮวงซุ้ย) และการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัยเพียงลำพังในแง่มุมต่างๆ ในสังคมไทยยุคปัจจุบันได้ดีทีเดียว ฉากไปโรงพยาบาลก็ยังสื่อถึงสภาพสวัสดิการที่ขาดแคลนในสังคมแก่คนชรา หรือการทำโจ๊กขายของอาม่าก็แทรกบทเรียนสอนเอ็มด้วยว่าอย่าดูถูกอาชีพที่ต่ำต้อย
.
หากใครสังเกตในหนังเรื่อง "หลานม่า" มีฉากเปิดเรื่องในงานวันเช็งเม้งที่ฮวงซุ้ยและก็ฉากจบที่สอดรับกันมากทีเดียว ในฉากเปิดเรื่องเอ็มนั่งเล่นเกมมือถือ พออาม่าให้ช่วยโปรยดอกไม้ เอ็มก็โปรยส่งเดชให้เสร็จๆ อาม่าต้องเดินขึ้นเนินเหนือฮวงซุ้ยเพื่อมาหยิบดอกไม้โปรยใหม่ และบ่นว่าถ้าอาม่าตายไปและเอ็มโปรยดอกไม้ไม่ดีละก็อาม่าจะมาหาเอ็ม...
.
ฉากจบเรื่องปิดที่ฮวงซุ้ยเช่นกัน แอดไม่เล่าและขอให้ไปชมกันเองค่ะว่า ทำไมคนเขียนบทจัดให้ฉากจบที่ฮวงซุ้ยด้วย อยากขอแนะนำให้ชม "หลานม่า" ค่ะ เป็นหนังที่ส่งเสริมความเข้าใจและความรักระหว่างคนต่างวัยที่ช่วยสร้างพลังใจดีๆ ให้ผู้ชม
ขอบคุณรูปจาก GDH
#อ่านอีกครั้งก็ยังชอบ #หลานม่า #สถาบันครอบครัว #GDH #ความรักของพ่อแม่ #ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่น #คนไทยเชื้อสายจีน #วันผู้สูงอายุแห่งชาติ #วันครอบครัว #วันเช็งเม้ง #ความไม่เท่าเทียมระหว่างหญิงชาย #สวัสดิการผู้สูงวัย
2
ครอบครัว
ผู้สูงอายุ
ความรักความสัมพันธ์
บันทึก
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย