20 เม.ย. เวลา 08:57 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Ghostbusters: Frozen Empire ดูแล้วหนาว กลัวจะต่อไปอีก

อาจจะดูใจร้ายไปหน่อย ถ้าจะบอกว่าฉากที่ทำให้ผมรู้สึกดีที่สุดกับ Ghostbusters: Frozen Empire ก็คือฉากจบเมื่อบรรดาเหล่าพลพรรคนักปราบผีเดินออกมาจากอาคารดับเพลิงที่ทำเป็นสำนักงานบริษัทกำจัดผีแล้วได้รับการโห่ร้องยินดีจากชาวนิวยอร์กพร้อมกับเพลง Ghostbuster ดังขึ้น ฉากนี้เป็นฉากจบเดียวกันกับ Ghostbuster ปี1984
เพราะเอาเข้าจริงสิ่งที่ผมรู้สึกสนุกที่สุดกับหนัง Ghostbuster ตั้งแต่ปี 1984 เป็นต้นมาก็คือเพลงนำที่ทำออกมาดูสนุกสนานจริงๆ แต่กับตัวหนังแล้วต้องบอกว่า ghostbuster ทั้ง 5 ภาค ไม่มีภาคใดเลยที่สร้างความรู้สึกตื่นเต้นหรือสนุกไปกับหนังได้จนถึงขีดสุด หนังมีอารมณ์ครึกครื้นจริง แต่แบบครึ่งๆ กลางๆ มาตลอด เรียกว่าจะตื่นเต้นก็ไม่เท่าไหร่ จะตลกก็ไม่เต็มที่ ซ้ำร้ายเนื้อเรื่องยังมาอีหรอบเดียวกันเหมือนทุกภาค เมื่อปีศาจร้ายจากโบราณกาลพยายามจะครองโลกคนเป็น
โดยส่วนตัวแล้วหนังภาคก่อน Ghostbuster : Afterlife สร้างความรู้สึกที่ดีขึ้น เมื่อเปลี่ยนฉากจากเมืองนิวยอร์คมาเป็นเมืองเล็กๆ ในชนบทของโอกลาโฮมา แล้วตัวหนังก็ดูจริงจังขึ้นจนทำให้อนาคตของหนังชุดนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้น หลังจากที่ภาคนักปราบผีผู้หญิงทำเอาคนดูรู้สึกเหวอไปตามๆ กันว่ามันใช่บริษัทกำจัดผีที่เรารู้จักเหรอ
พอมาภาคล่าสุด Ghostbusters: Frozen Empire ตัวหนังก็กลับไปสู่ความรู้สึกเดิมๆ ที่ไม่สามารถพาผู้ชมไปให้สุดได้เลยสักด้าน บางทีถ้าจะให้หนังชุดนี้มีอนาคต อาจจะต้องล้างระบบล้างวิธีคิดของหนังขุดที่อยู่มานานถึง 40 ปี แล้วไปหาสิ่งใหม่ๆมากขึ้นกว่านี้
เพราะสิ่งที่ Ghostbusters: Frozen Empire พยายามเป็นอยู่คือการหาจุดสมดุลระหว่างซีรีส์ชุดเก่ากับความเป็นหนังยุคใหม่ ซึ่งการกลับไปจุดเดิมไม่ว่าจะเป็นการใส่ฉาก ตัวละคร หรืออารมณ์ที่ทำให้เรารู้สึกไปถึงหนังปี 1984 กลับกลายเป็นตัวที่ทำให้ตัวหนังไม่เดินหน้า เหมือนกับเอาวิธีคิดของหนังยุค 80 มาใส่ในหนังที่สร้างยุค 2020 มันจึงดูเชยเกินกว่าจะคิดว่านี่คือหนังในยุคปัจจุบัน
5 เต็ม 10
โฆษณา