พามาดู Pipeline ของ Merck กันหน่อยครับ
ก่อนที่จะไปดู Pipeline เราต้องรู้ก่อนว่า ก่อนยาจะออกมาขายต้องผ่านอะไรมาบ้าง
Phase
1. ศึกษาความปลอดภัยของยาและขนาดที่เหมาะสม โดยศึกษาในกลุ่มทดลองที่สุขภาพดี แพทย์จะดูผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นด้วย
2.ศึกษาประสิทธิภาพเบื้องต้นของยา ว่ามีผลต่อโรคนั้นมั้ย โดยจะทดลองในผู้ป่วยโรคนั้นๆ
3.เปรียบเทียบประสิทธิภาพยาใหม่กับยาที่มีอยู่แล้ว
4.ศึกษาผลข้างเคียงระยะยาวหลังจากวางขาย
ทีนี้มาดูของ MRK กันครับ
เฟส 2: 80+ โครงการ
เฟส 3: 30+ โครงการ
แล้วก็มี Under review ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Keytruda ที่เป็นพระเอกหลักของบริษัทที่จะเอาไปขายในโรคอื่นๆเพราะยานี้มันใช้ได้หลายโรค เหลือแค่รออนุมัติ
ยาในเฟส 2 ที่น่าสนใจ
ยา HIV เป็นยาที่ค่อนข้างน่าสนใจเพราะมี TAM ที่สูง ในยารักษา HIV มีอยู่ไม่กี่ตัว
ผู้ป่วย HIV มีประมาณ 37 ล้านคน เป็นตลาดที่ค่อนข้างกว้าง
ยาในเฟส 3
ส่วนใหญ่ยาในเฟส 3 จะเป็นยามะเร็งเกือบทั้งหมดเป็นส่วนเสริมทำให้พอร์ตยามะเร็งของ MRK แข็งแกร่ง
ซึ่งยามะเร็งที่เป็น immunotherapy นั้นมีราคาแพง
ราคาของ Keytruda พระเอกนั้น ผมไปหามาราคาต้นทุนของโรงพยาบาลได้มา หน่วยละ 99,510 บาท แพงมากครับ แล้วคนไข้ต้องฉีดแบบนี้ไปหลายเข็ม
ถ้าเป็นตลาดทาง ยุโรปหรืออะเมริกา สำหรับเขาถือว่าราคาไม่แรง
มาดู Value กันบ้าง
DCF value : 130 USD/หุ้น
Forward PE: 14-15
ปี 2023 งบ R&D: 30.5 bn
ปล. ห่างหายไปนาน555 ผมเพิ่งสอบ NL1 เสร็จเดี๋ยวช่วงนี้จะพยายามเขียนนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
