หวงซาน .. ความงดงามในตำนาน ราวภาพวาดในจิตรกรรมจีน (01)
ความงามของ “เขาหวงซาน” เป็นที่เลื่องลือ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับท็อปของประเทศจีน จนมีคำกล่าวว่า .. หากมาเยือนหวงซานแล้ว คุณจะไม่อยากเห็นภูเขาที่ไหนอีก
ความสวยงามมหัศจรรย์ทุกฤดูกาลของภูมิประเทศในเขต “เขาหวงซาน” นี่เองทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติขององค์การยูเนสโก เมื่อปี 1990
Credit ภาพ : Black Tiger
ตำนานและเสียงเล่าลือถึงความงดงามมหัศจรรย์ของ “เขาหวงซาน” ทำให้การไปเยือนจีนในทริปล่าสุดของเรา รับเอา “หวงซาน” เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่ต้องอยู่ในโปรแกรมทริป แทนที่เมืองโบราณสวยๆบางแห่ง .. เมื่อมีเวลาจำกัด การเลือกเป็นสิ่งที่ต้องทำและตัดสินใจค่ะ
เราเดินทางตรงไปที่ “หวงซาน” ผ่านเมืองถุนซี มุ่งหน้าสู่หวงซาน .. วิธีที่ง่ายที่สุดในการขึ้นไปชมความสวยงามของ หวงซาน คือใช้บริการของกระเช้าลอยฟ้า
.. ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปแนะนำว่า ควรแยกเสื้อผ้า สิ่งของจำเป็นให้น้อยที่สุด แต่เพียงพอกับสภาพภูมิประเทศของภูเขาสูงที่มีทางเดินขึ้น-ลงที่ชันและลื่น รวมถึงต้องพร้อมรับมือกับสายฝนที่อาจจะโปรยปรายลงมาได้ทั้งวัน .. ส่วนกระเป๋าเดินทางใบหลักก็ฝากไว้ที่ร้านขายของฝากหน้าทางเข้าสู่หวงซาน
.. สภาพทางเดินที่แม้จะเป็นบันไดหิน แต่ด้วยความสูงการเดินต้องใช้พลังขามากมายที่จะต้องรับน้ำหนักของตัวเราเอง รวมถึงสิ่งของที่เรานำติดตัวไปด้วย (หากถือเอง) .. ฉันเลือกใช้บริการของลูกหาบ
กระเป๋าที่ฝากลูกหาบนำไปส่งเราต้องจ่ายค่าบริการที่ต่างกันระหว่าง กระเป๋าผ้าขนาดเล็ก (ค่าบริการ 60 หยวน/เที่ยว) และกระเป๋าที่เป็น Harde Cover (ค่าบริการ 120 หยวน/เที่ยว) แม้จะมีขนาดเท่ากัน .. ดังนั้นใช้กระเป๋าผ้าจะประหยัดเงินได้เที่ยวละหลายสิบหยวนค่ะ
.. อนึ่ง กระเป๋าเหล่านี้ที่เราเตรียมไป จะต้องถือขึ้นกระเช้าไปด้วยตัวเองก่อน เมื่อถึงสถานีกระเช้าด้านบน จึงจะไปติดต่อรับบริการขนส่ง
การเดินทางขึ้นสู่ “เขาหวงซาน” มีขั้นตอนตามลำดับ .. เมื่อเรามีตั๋วแล้ว ต้องไปผ่านการตรวจเช๊ค Passport สำหรับชาวต่างชาติ
.. แล้วต้องไปเข้าแถวขึ้นรถบัส ซึ่งจะนำนักท่องเที่ยวลดเลี้ยวไปตามเส้นทางคดโค้งไต่ความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยมีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นฉากผ่าน
.. ในบางครั้งไกด์จีนของเราชี้ให้ดู แล้วบอกว่า “ผมอยู่ในบริเวณนี้ ที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อน มาระยะหนึ่ง”
.. ลงรถ แล้วก็เดินมุ่งหน้าไปยังสถานีกระเช้าลอยฟ้า .. วันนี้บรรยากาศโดยทั่วไปมีหมอกหนาปกคลุมทั่วไป ทัศนวิสัยมองเห็นได้ราว 10+ เมตรเท่านั้น
แม้จะสวยและน่าตื่นตา ตื่นใจสำหรับพวกเราที่มาจากเขตร้อง แต่ก็ทำให้เราต้องมีคำถามในใจว่า เมื่อขึ้นไปด้วนบนภูเข่ที่สูงมากๆเราจะเห็นทิวทัศน์สวยๆที่ตั้งใจมาชม มาถ่ายภาพหรือไม่?
.. เนื่องจากเราไปเยือน ภูเขาที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติ จึงอาจจะต้องรออยู่ในถานานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงเทศกาล
กระเช้าลอยฟ้า พาเราเหาะเหินขึ้นไปเหมือนนกบินสู่ที่สูง
.. มองออกไปด้านนอก เห็นแต่หมอกหนา มีเงารางๆของบางสิ่งผ่านเข้ามาในสายตาบ้าง แต่เหมือนภาพฝันมากกว่าความเป็นจริงที่เราอยากจะให้เป็น
จากสถานีกระเช้าลอยฟ้า Baieling ด้านบน .. เราดำเนินการฝากกระเป๋าและจ่าค่าบริการ จากนั้นก็เป็นการเริ่มต้นเดินทางเข้าสู่พื้นที่ด้านในของภูเขาในตำนาน
ฝนยังคงโปรบปรายลงมาต่อเนื่อง .. ไม่หนักหนาสาหัส แต่ทำให้ไร้โอกาสในการเก็บภาพสวยๆในรายทาง
รวมถึงการเดินต้องระมัดระวังมากๆ ด้วยเหตุที่การหกล้มสำหรับผู้สูงอายุ อาจจะกลายเป็นฝันร้ายและร้ายเรงได้ โดยเฉพาพหากเหิดในช่วงการเดินทางในถิ่นทุรกันดารในต่างแดน
การท่องเที่ยว บ่อยครั้งที่เราคงหลีกเลี่ยงฤดูกาลไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทุกฤดูต่างมีความน่าสนใจ ความงดงาม รวมทั้งความหมายที่ซ่อนไว้มากมาย
มีหลายคนเคยถามว่า “หากไปแล้วลำบากขนาดนั้น จะไปทำไม”
สำหรับฉัน ความลำบาก เหนื่อยล้า อันตราย เป็นเครื่องย้ำเตือนให้กับเราเสมอว่า “ชีวิต…เหมือนกับการเดินทางฤดูฝนนี่แหละ” ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องผ่านไปให้ได้ อาจจะต้องเปลี่ยนทาง ปรับวิธีคิด จนถึงรอให้อุปสรรคที่ไม่อาจควบคุมผ่านไป แล้วค่อยไปกันต่อ…
“หวงซาน” (จีน: 黄山) เป็นเทือกเขาที่ทอดตัวอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของสาธารณรัฐประชาชนจีน .. มีชื่อเสียงจากทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามจับใจ โดยเฉพาะหมู่หินแกรนิตขนาดใหญ่ และต้นสนเก่าแก่รูปร่างแปลกตาเรียงรายเป็นแถว ซึ่งมักถูกห่มคลุมด้วยเมฆหมอกขาว
“หวงซาน” ประกอบไปด้วยยอดเขาจำนวนมาก มียอดภูเขาที่มีชื่อ 72 ยอด และมีอยู่ 77 ยอดที่มีความสูงมากกว่า 1,000 เมตร
.. ยอดเขาที่สูงที่สุด 3 อันดับแรกในเทือกเขาคือ ยอดเขาเหลียนฮวา (ยอดเขาดอกบัว ความสูง 1,864 เมตร) ยอดเขากวงหมิง (光明顶 ยอดเขาสว่าง สูง 1,840 เมตร) และ ยอดเขาเทียนตู่ (天都峰 เทียนตู่เฟิง แปลว่า ยอดเขาเมืองหลวงแห่งสวรรค์ มีความสูง 1,829 เมตร) เขตที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกประกอบด้วยบริเวณเทือกเขาซึ่งมีพื้นที่ 154 ตารางกิโลเมตร และรอบๆเทือกเขาอีก 142 ตารางกิโลเมตร
.. เราเดินตามทางมาเรื่อยๆ ในบางช่วงเราผ่านคนจีนหลายคนที่มีอาชีพหาบสิ่งของขึ้น-ลงภูเขาแห่งนี้ .. เป็นอาชีพที่ต้องใช้แรงกายและความอุตสาหะมากจริงๆ
.. บางช่วงเราผ่านคนที่ให้บริการแบกเกี๊ยว .. ผู้โดยสารจะนั่งบนแคร่ แล้วมีคนแบกขึ้น-ลงเขา คงนั่งสบาย แค่จ่ายค่าบริการราว 450-500 หยวนต่อเที่ยว สำหรับฉันไม่เหมาะเพราะต้องการถ่ายภาพที่น่าสนใจในรายทาง
เราเดินทางมาถึงจุด Black Tiger Pine Tree อันเป็นต้นสนชนิดหนึ่งในต้นสน 10 อันดับแรกของภูเขาหวงซาน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยตั้งอยู่ในป่าสิงโตที่ระดับความสูง 1,650 เมตรจากสถานีกระเช้าลอยฟ้าไป่หลิง (Baieling) ลงเนินไปจนถึงทางแยกสือซินเฟิง
ว่ากันว่า ..สนต้นนี้มีอายุถึง 700 ปีทีเดียว และเป็นจุดชมวิวพิเศษบนภูเขาหวงซานอีกด้วย
ตำนานที่เล่าขานกัน กล่าวว่า .. ว่าวันหนึ่งมีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินผ่านมาที่นี่ จู่ๆ ก็เห็นเสือดำตัวหนึ่งนอนอยู่บนต้นสนจึงตกใจมาก แต่เมื่อพระองค์นั้นมองอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่เห็นเดสือดำ
.. พระภิกษุมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ต้นสนโบราณที่สูงและแข็งแรง กิ่งก้านแห้งของมันนั้นสง่างาม ราวกับเต็มไปด้วยพละกำลังเสือโคร่ง และมงกุฎเป็นสีเขียวเข้มขดเป็นสีดำ คล้ายเสือดำนอนอยู่ใต้เนิน ด้วยเหตุนี้จึงได้ชื่อว่า “สนเสือดำ”
เราเดินลงเนินมาเรื่อยๆ .. ทักทายต้นสน แนวของวัน ยอดเขาที่ดูขมุกขมัวในม่านหมอก
.. เก็บภาพบนระเบียงหินที่มีแนวต้นสนบางชนิดเรียงรายในสายหมอก และเขาหินที่โผล่เพียงยอด
.. ชอบยอดเขาหินรูปร่างแปลกตาที่มีต้นสนโดดเดี่ยวตระหง่านอยู่ ณ จุดยอดเขา เหมือนเป็นมงกุฏ
กุญแจที่ไขออกไม่ได้ .. บอกว่า หัวใจเราทั้งคู่จะอยู่เคียงกันตลอดไป .. concept นี้พบเห็นได้ทั่วไปในโลก
“We are going to have lunch in a restaurant near by. It’s a buffet lunch” .. ไกด์ของเราประกาศ
ทางเข้าสู่ร้านอาหาร .. เราเดินผ่าน Photos Gallery ภาพถ่ายที่รับการคัดสรรแล้วจากหลากหลายสถานที่ภายใน “เขาหวงซาน” ที่ได้รับการบันทึกเป็นภาพนิ่งจากหลากมุมมองของช่างภาพมือโปรหลายคน
… เป็นภาพสถานที่ทั้งที่เราเดินผ่าน และบางส่วนคงจะเป็น View Points ที่สวยงามน่าสนใจในหลายบรรยากาศและฤดูกาล .. เป็น Suggested Tour Guide ได้อย่างดีเลยค่ะ
ภัตตาคาร และ buffet lunch ของเรา .. อร่อยค่ะ
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
