21 เม.ย. เวลา 04:57

เวลาที่คนใกล้ตัวของเราเสียชีวิต

ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง แฟน เพื่อนสนิท ญาติ หรือใครก็ตาม
ความตายของพวกเขาจะส่งผลกระทบเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกรณีที่มันเป็นความตายของคนใกล้ตัวที่เราประสบพบเจอกับตัวเองเป็นครั้งแรก
นั่นเป็นเพราะว่า เราไม่เพียงแค่สูญเสียคนใกล้ตัวของเราไปเท่านั้น
แต่เราจะยังสูญเสีย “ความใสซื่อบริสุทธิ์” (innocence) บางอย่างของเราไปอีกด้วย
มันทำให้เรามองเห็น (ด้วยสองตาของเราเอง) ว่าชีวิตเปราะบางเพียงใด
ความเชื่อว่าเราจะยังคงมีชีวิตอยู่ในวันพรุ่งนี้ หรือสัปดาห์หน้า หรือเดือนหน้าชัวร์ๆ หรือปีหน้าชัวร์ๆ (ที่แฝงอยู่ในคำพูดเช่น “เดี๋ยวเราเจอกันอีกทีเดือนหน้านะ”) จะเริ่มสั่นคลอน
ส่งผลให้เราเริ่มมีความกลัวก่อตัวขึ้นมาเป็นเงามืดในใจเรา
อย่างไรก็ตาม ความกลัว (ที่เกิดจากการตระหนักว่าชีวิตเปราะบางเพียงใด) ส่งผลกับเราแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
บางคนมีท่าทีที่ “ห่อเหี่ยว” อย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่บางคนมีท่าทีที่ “active” อย่างเห็นได้ชัด
นั่นเป็นเพราะว่า
เมื่อเผชิญหน้ากับความเปราะบางของชีวิต บางคนจะเกิดความคิดขึ้นมาในใจว่า “ในเมื่อชีวิตแสนจะเปราะบางถึงเพียงนี้ แล้วฉันจะพยายามดิ้นรนใช้ชีวิตไปเพื่ออะไรกัน?”
ส่งผลให้พวกเขามีท่าทีที่ “ห่อเหี่ยว” อย่างเห็นได้ชัด
แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อเผชิญหน้ากับความเปราะบางของชีวิต บางคนจะเกิดความคิดขึ้นมาในใจว่า “ในเมื่อชีวิตแสนจะเปราะบางถึงเพียงนี้ ฉันก็จะใช้ชีวิตที่มีอยู่ในตอนนี้ให้เต็มที่และมีความหมายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป”
ส่งผลให้พวกเขามีท่าทีที่ “active” อย่างเห็นได้ชัด
มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากการเสียชีวิตของคนใกล้ตัวก็จริง
แต่อย่างน้อยที่สุด มันก็ยังดีครับที่เรายังพอจะมีอำนาจในการควบคุมได้บ้างว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเรานั้นจะเป็นผลกระทบที่ทำให้เรา “ห่อเหี่ยว” หรือทำให้เรา “active” ในการใช้ชีวิตของเรามากขึ้นครับ
โฆษณา