21 เม.ย. เวลา 05:28 • นิยาย เรื่องสั้น

เรื่องเล่าวันฝนตก#20

ครืน…น.น.นนนนนนนนน
เสียงฟ้าคำรามเหนือกระท่อมสำเร็จรูปที่ตั้งอยู่ตรงท้ายผืนดินรก ไม่ไกลจากตัวตึกร้าง เม็ดฝนร่วงหลนลงกระทบหลังคาสังกะสีที่ยังส่องแสงวาววับยามรับกับแสงฟ้าแล็บออกมาเป็นระยะๆ นี่อาจเป็นฝนแรกของปีที่หลังคาแห่งนี้ได้ทำหน้าที่ของมัน กระท่อมหลังนี้ตั้งหลบมุมอยู่หลังดงหญ้าและกลุ่มวัชพืชที่เติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติ ความสูงของกลุ่มหญ้าเหล่านี้เหมือนแยกพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ออกจากโลกภายนอก
ฐานที่มั่นที่เป็นดั่งเซฟเฮ้าส์ วางแผนการทำงานต่างๆของกำนันและลูกน้องชาวต่างด้าวโดนยึดครองเสียแล้ว….
บนพื้นไม้กระดาน(ที่ผสมเศษพลาสติก)สำเร็จรูป ปรากฎร่างของชายสามคนนั่งอยู่รวมกัน มือของทั้งสามถูกรัดด้วยสายพลาสติกที่ข้อมือ ในลักษณะที่แขนโดนไขว้ไปทางด้านหลัง และแน่นอนว่า ตามสูตรของการจับตัว ทั้งสามคนต้องโดนปิดปากด้วยเทปกาวแล็คซีน
สองชายชุดดำ และชาวต่างด้าว คือเหยื่อรายล่าสุดที่พลาดท่าให้แก่ป้าแกร็บฟู้ด
ทั้งสามส่งสายตาวิงวอน มาสู่ป้าแกร็บฟู้ด ที่นั่งดูดบุหรี่ไฟฟ้า รสเลม่อน พ่นควันสีขาวออกมาระบายอากาศตรงมุมหนึ่งของกระท่อม หากมองดูสีหน้าและอารมณ์ของหญิงม่ายเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวในนาทีนี้ ก็บอกได้ว่า…หล่อนกำลังรอเวลาเดินทางไปสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ ด้วยแววตามุ่งมั่นต่อผลที่คาดการณ์ไว้ โดยไม่ใยดีกับใครหน้าไหนที่มาขวางทาง
ย้อนหลังกลับไปราวครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา ตอนที่สายฟ้าฟ้าดลงมาตรงผืนดินสักแห่งใกล้ตัวตึก เสียงนั้นดังชัดเจนจน เด็กชายตัวน้อยในอ้อมกอดตกใจร้องไห้จ้า มือเล็กๆผลักอกหล่อนออกจากตัว แล้วหวีดร้อง ภาพเด็กชายที่เมื่อนาทีก่อนหน้านี้น่ารักน่ากอด แปรเปลี่ยนไปเป็นเด็กชายน่ารำคาญ ออกอาการลนลานหวาดกลัวกับเสียงดังของฟ้า
หล่อนพยายามปลอบเท่าที่จะทำได้ ทว่า..เด็กชายยังคงหวีดร้อง โวยวายสู้เสียงบนฟ้าที่ คำรามออกมา…
ครืน….นนนนนนนน เสียงฟ้าดังคำรามก้องเหนือตึก อีกครั้ง….
เด็กชายคงมีปมบางอย่างในใจ ทำให้หวาดกลัวเสียงฟ้าผ่าได้ขนาดนี้ หล่อนมองภาพนั้นพร้อมกับการพยายามอดทนฟังเสียงหวีดร้องโวยวายของเด็กชาย(ด้วยใจหวังว่า… เด็กจะนิ่งเงียบลง)
ในขณะเดียวกัน หล่อนเองก็รู้ปมในใจตัวเองดีและกำลังต่อสู้กับอาการที่กำลังจะกำเริบ เพราะก่อนที่ชีวิตจะยื่นความเป็นม่ายมาให้ หล่อนเคยประสบพบเจอเรื่องเลวร้าย ลูกชายหล่อนหวีดร้อง ดินทุรนทุราย ล้มลงกลิ้งเกลือกบนพื้นดิน และโดนทำร้ายต่อหน้าต่อตา จากน้ำมือผู้เป็นพ่อที่คลุ้มคลั่งทุบตีลูกในอกของหล่อนและเขา จากพิษของสุรายาเมาเผาทั้งเงินทองและอนาคตของชีวิต
หล่อนทำอะไรไม่ได้ เพราะตัวเองถูกมัดตรึงไว้กับเสาโดยผู้เป็นพ่อเด็ก ที่ตั้งใจไม่ให้หล่อนพาลูกหลบหนีไปไกล ด้านลูกชายหล่อน ที่มองเห็นแม่โดนมัดไว้ ก็พยายามจะเข้ามากอดแม่ แต่พิษสุรายาเมาปลดสติให้ผู้เป็นพ่อขัดขวางด้วยการทุบตี ครั้งแล้ว ครั้งเล่า เด็กชายที่หวีดร้องโวยวายขัดขืน หนักขึ้น หนักขึ้น....และหนักขึ้น
ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงเด็กชายก็เงียบลงฉับพลัน ด้วยแรงของลำแข้งผู้เป็นพ่อ
ภาพลูกชาย ที่ฟุบลงนอนนิ่งกับพื้น ทำให้หล่อนช็อคและกรีดร้องออกมา….
หล่อนร้องอยู่อย่างนั้น…นานหลายนาทีกว่าเพื่อนบ้านจะโชะโงกหน้าเข้ามาดูในบริเวณบ้านหล่อน และอีกหลายนาทีต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจค่อยมาถึงที่เกิดเหตุ ตอนนั้นหล่อนยังตาค้าง สติหลุดลอย พูดจาไม่รู้เรื่อง ทั้งแม่และลูกถูกนำส่งโรงพยาบาล เวลาต่อมาเหมือนหล่อนตกอยู่ในโลกอีกใบ คล้ายว่ามันเป็นนรก ทุกอย่างเต็มไปด้วยสีแดง ดำ ภาพตรงหน้าบิดเบี้ยว พร่ามัว แต่แล้วไม่นาน ทุกอย่างกลับพลันสว่างว้าบ… เหมือนว่าหล่อนกำลังก้าวเดินทางไปสวรรค์
หล่อนตื่นขึ้นมาอีกสองวันให้หลัง และอีกราวสามวันต่อมา ญาติพี่น้องของหล่อนถึงกล้าบอกความจริงว่า ลูกชายหล่อนได้จากไปแล้ว ตำรวจตามจับตัวผัวหล่อนได้ ตอนที่หล่อนนอนสลบอยู่โรงพยาบาล และยัดมันเข้าคุกทันที
หล่อนได้รับสถานะม่าย(ผัวติดคุก) พร้อมกับการเข้าสถานบำบัดจิตใจอยู่นานหลายเดือน ถึงออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการค้าขาย
หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้น ภาวะตื่นตระหนกก็ถูกฝังไว้ในใจหล่อนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา หล่อนไม่เคยไว้ใจใคร ระแวดระวังกับชีวิตอยู่เสมอ ค้าขายด้วยการไม่วางใจคนรอบข้าง ถึงกระนั้น…ชีวิตก็ยังคิดเล่นตลกกับหล่อน..เช้าวันหนึ่งคนทำงานสีเทาก็มาทาบทามให้เข้าร่วมทีม ด้วยการเอาผลตอบแทนที่มากมายเข้าหลอกล่อ…
หล่อนติดกับนั้น ด้วยเงินทองที่ มาวางกองตรงหน้า(ที่ชาตินี้ทั้งชาติ หล่อนไม่มีวันหาได้)และนั่นเป็นสาเหตุให้หล่อนมาเจอนายคนนี้ คนที่พาหล่อนมายืนที่ตึกร้างแห่งนี้ กับแผนการส่งของล็อตใหญ่แห่งปี
ครืน..นนนนนนน….
เสียงฟ้าร้องคำรามชวนให้เด็กชายหวาดผวา…และหวีดร้องหนักขึ้น หนักขึ้น…และหนักขึ้น
นาทีต่อจากนี้ไป...หล่อนกำลังจะทนไม่ไหวกับเสียงหวีดร้องของเด็กชาย เพราะเสียงหวีดครานี้ เหมือนกรีดแผลในอตีดให้ปริแตกอีกครั้ง
เปรี้ยง!!!!! เสียงฟ้าผ่าลงมาซ้ำสอง ครั้งนี้มันทำให้ทั้งหล่อนและเด็กชายร้องเสียงหลงออกมาพร้อมกัน สติที่หลุดลอยไป…ผลักให้หล่อนพาตัวเองพุ่งเข้าหาเด็กชาย หล่อนจับแขนเด็กชายทั้งสองข้าง บีบด้วยแรงผ่ามือที่สั่นเทา สายตามีแววหวาดกลัวประสานกันและกัน
หล่อนพยายามทำให้เด็กชายหยุดร้องด้วยแรงแขนเขย่าตัวเด็ก แต่ด้วยเพราะหล่อนเองก็หวาดกลัว จากแรงที่พยายามเตือนสติ กลับกลายเป็นแรงกด หล่อนจิกเล็บลงไปที่ผิวเนื้อเด็กชาย จนเลือดไหลซิบ เด็กชายเริ่มรู้สึกว่าตัวเองโดนทำร้าย ร้องโวยวาย กรี๊ด..ดดด… ออกมาสุดเสียง
หล่อนตัวสั่นงันงก เริ่มพูดจาไม่ชัด ฟังไม่ค่อยได้ศัพท์ ทว่าจับใจความสั้นๆ ได้ว่า
“ รอพ่อมึงอยู่ตรงนี้ กูจะไปตามให้ “ หล่อนเว้นจังหวะ สูดหายใจลึก แล้วพยายามพูดต่อ
“ หยุด ระ ระ..ร้อง…แล้วนั่งอยู่ตรงนี้ ถ้าตามไป พ่อมึงไม่กลับมานะ “ แล้วหล่อนก็วิ่งหนีออกมาจากที่ตรงนั้น ทุกการสาวเท้า คล้ายว่าหล่อนกำลังวิ่งหนีอดีตของตัวเอง ระหว่างทางหล่อนกรีดร้องโวยวาย เสียงนั้นวิ่งมาถึงห้องโถงคลังแสง…ก่อนตัวหล่อนจะตามมาทีหลัง
สองชายชุดดำและชายต่างด้าาวที่นั่งอยู่ตกใจกับเสียงหล่อน
เมื่อป้าแกร็บฟู้ดมาถึงห้องคลังแสง หล่อนมองทั้งสามด้วยอาการหวาดกลัว พูดเสียงสั่นเครือ
“กำนัน ไอ้กำนัน…มะ..มันอยู่ไหน “ ทั้งสามคนยัง งงๆ กับอาการของหล่อน เลยไม่รู้จะตอบยังไง
เมื่อไม่ได้คำตอบ ป้าแกร็บฟู้ดก็กรี๊ด..ดดดดด ออกมาสุดเสียง แล้ววิ่งหนีออกไปทางด้านหลังตัวตึก ชายทั้งสามมองหน้ากันไปมา ทั้งหมดตัดสินใจวิ่งตามหล่อนออกไป
ข้างนอกตัวตึก
ต้นหญ้าสูงและวัชพืชหลากชนิด กำลังอิ่มน้ำ สายฝนโปรยลงมาอย่างไม่ขาดสาย ป้าแกร็บฟู้ด ไม่สนใจสิ่งรอบตัว หล่อนหันซ้ายขวา มองหาเป้าหมาย
“กำนัน ไอ้กำนัน มึงอยู่ไหน “ หล่อนร้องเรียก แล้วออกวิ่งต่อไป
กลุ่มหญ้าสูงถูกหล่อนพุงตัวเข้าหา ยอดหญ้าเปียกน้ำฝน ลูบไล้ใบหน้าและตัวหล่อน บางครั้งมันเหมือนมีดกรีดไปที่ผิวหล่อน ครั้งแล้วครั้งเล่า
หล่อน วิ่ง วิ่ง วิ่ง จนกระทั่ง สายตาหล่อน พบเจอกับ กระท่อมสำเร็จรูปที่ตั้งอยู่ ท้ายที่รกร้างแห่งนี้
หล่อนหยุดมองภาพนั้น ด้วยอาการหายใจเหนื่อยหอบ
รู้สึกเหมือนว่าตัวเองทะลุมิติเวลาเข้ามายืนอยู่ที่ตรงนี้…. แล้วหล่อนก็หัวเราะ..ออกมา แบบไม่มีเหตุผล.. แหงนหน้ามองท้องฟ้า
ชายสามคนที่วิ่งตามกันออกมา พบกับภาพป้าแกร็บฟู้ดตรงหน้า ทั้งหมดชะลอความเร็วและเบรกตัวเองแทบล้มหน้าคะมำ
“ ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ “ ชายชุดดำร่างท้วมร้องออกมา
“ แม่งเหนื่อยชิดหาย “ ชายชุดดำร่างเล็กบ่น พร้อมกับอาการหอบเหนื่อย
ชายต่างด้าว ที่หยุดวิ่งก่อนใคร ยืนนิ่ง ผ่อนลมหายใจ แล้วมองไปทางกระท่อมสำเร็จรูป สีหน้าออกอาการกังวล
“ซวยละ ทีนี้ นายด่าแน่เลย เชฟเฮาส์ ถูกเปิดเผยแล้ว" ชายต่างด้าวเผยความกังวล
“เซฟเว้ย เซฟ ไม่ใช่ เชฟ ถ้าเชฟ มันหมายถึงพ่อครัว" ชายชุดดำร่างเล็ก พยายามบอกสอนการใช้คำให้กับชาวต่างด้าว
ป๊าบบบ…บบบบบบ ชายชุดดำร่างท้วมตบหัวคู่หู
“เขาพูดได้เท่านี้ก็ดีแล้ว…ทำเป็นสอน…ยังกะมึงเก่งนักนี่”
“ก็ดู เชฟกระทะเหล็กมาเลยจำได้ “ ชายชุดดำร่างเล็กบอก
ครืน…นนนน..
เสียงฟ้าร้องคำรามออกมาอีกครั้ง พร้อมกับสายฝนที่เทลงมาหนักอีกครั้ง ชายทั้งสามไม่สนใจเสียงฟ้า และสายฝน ต่างจ้องมองไปที่ป้าแกร็บฟู้ด ที่ยามนี้แหงนหน้ามองฟ้า และอ้าปากรอน้ำฝนหยดลงลำคอ…
“ป้าแกหิวน้ำแน่ๆ ในกระท่อมมีน้ำมั้ย" ชายชุดดำร่างเล็กถาม
“ มีๆ วางอยู่ที่ ห้องเก็บของ ใน เชฟ..เฮ้ย เซฟเฮาส์ “ ชายต่างด้าวพยามตอบให้ ตรงเสียงวรรณยุกต์ไทย
เปรี้ยง !!!!!!!!!! เสียงฟ้าผ่าลงมาตรงข้างตัวตึก ชายทั้งสามสะดุ้งกับเสียงเล็กน้อย แต่ที่ตกใจเพิ่มขึ้น ก็เห็นจะเป็นเสียง กรี๊ดดดดด ..ของป้าแกร็บฟู้ด หล่อนอยู่ในอาการผวา ปิดหูตัวเองด้วยมือทั้งสองข้าง ก้มหน้าก้มตาวิ่งหนีเสียงฟ้าผ่าที่พาสติหลุดตรงไปยังกระท่อม
ชายทั้งสามวิ่งตามไปโดยไม่ได้นัดหมาย
ตรงมุมหนึ่งของห้องเก็บของในกระท่อม ทั้งสามพบกับภาพป้าแกร็บฟู้ด..นอนหมอบก้มหน้าลงพื้น….มีเสียงร้องสะอื้นออกมาปนกับเสียงเม็ดฝนหล่นลงกระทบหลังคา…..
ชายทั้งสามมองหน้ากัน ไม่มีการส่งสัญญานอะไรในแววตา ทว่า…ต่างคนต่างก้าวท้าวย่องเข้าหาตัวหล่อน หมายจะปลอบประโลม ชายต่างด้าวย่องเฉไปอีกทาง เพื่อหยิบน้ำขวดให้หล่อนได้ดื่ม ด้วยหวังว่า หากหล่อนได้ดื่มน้ำ อาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น อาจจะจางหายไปจากตัวหล่อน บ้าง…
กรี๊ดดดด…หล่อนร้องเสียงหลง ออกมาอีกครั้ง แล้วหันหน้ามาทางชายชุดดำทั้งสอง ในมือหล่อนถือสเปรย์ขวดเล็ก หล่อนไม่รอช้า พ่นเข้าที่ใบหน้าของชายชุดดำสองคน…
ความแสบทำให้ทั้งสองชายชุดดำ รู้เลยว่า กำลังเจอกับบสเปรย์แอลกอฮอล์ หล่อนหยิบมันมาจากมุมหนึ่งของห้องเก็บของ ชายต่างด้าวมองภาพนั้นด้วยความตกใจ แต่ว่าระยะเวลาที่เกิดมันสั้นเกินกว่าจะหลบภัย วินาทีต่อมา ไอสเปร์ยก็เข้าตาเขา เหมือนกับสองชายชุดดำ
ความแสบตา นำพาให้ชายทั้งสามพาตัวเองออกมาจากห้องเก็บของ ทั้งหมดมองอะไรไม่ค่อยถนัด จึงทรุดตัวลงนั่งกับพื้น และนั่นเป็นจังหวะที่พอเหมาะ ที่ป้าแกร็ปฟู้ดเอาสายรัดพลาสติก(ที่กองไว้ที่มุมห้อง) มัดที่ข้อมือชายทั้งสามคน
ทั้งสามร้องโวยวาย กับการโดนกระทำที่ไร้เหตุผล ทว่าเสียงนั้นยิ่งทำให้หล่อนโมโห
สุดท้าย เทปกาวแล็คซีนที่วางอยู่ในห้องเก็บของ ก็ถูกหยิบมาใช้ปิดปากชายทั้งสามคน….
ทุกอย่างเลยเงียบเสียงลง…..
ครืน..นนนนน…..เสียงฟ้าร้องคำรามเหนือกระท่อมสำเร็จรูป มาพร้อมกับสายฝน ที่ร่วงหล่น ตกลงมากระทบหลังคาสังกะสี เม็ดแล้ว เม็ดเล่า …เป็นอยู่อย่างนี้เฉกเช่นนาทีที่แล้ว และนาทีถัดไป…หมุนวนไปนาทีแล้ว นาทีเล่า
ป้าแกร็บฟู้ด นั่งลงตรงข้ามกับชายทั้งสามคน ปากร้องเรียก “ ไอ้กำนัน มึงอยู่ไหน ลูกมึงร้องไห้…ลูกมึงร้องไห้ “
หล่อนร้องเรียกหากำนันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งฝนซา…และสายลมได้พัดพาละอองฝนเข้ากระทบใบหน้าหล่อน…เวลาที่ล่วงเลย นำพาสติกลับเข้าหาหล่อนอีกครั้ง
หล่อนตัดสินใจนั่งลงกับพื้น…. เลิกเรียกหา กำนัน พ่อของเด็กชายคนนั้น….แล้วหล่อนก็ล้วงบุหรี่ไฟฟ้าในกระเป๋าขึ้นมาจุดสูบ… หล่อนสูบมันวันละหนเพื่อผ่อนคลายความเครียด เห็นทีวันนี้หล่อนต้องใช้เวลากับควันสังเคราะห์รสเลม่อนนานกว่าทุกวัน…..
กลุ่มควันมีขาวลอยคว้างในอากาศ หล่อนแหงนหน้ามองการละลายและสลายตัวของมัน และเริ่มรอคอย….
ไอ้กำนันมันต้องมาที่นี่….หล่อนมั่นใจ
โฆษณา