21 เม.ย. เวลา 05:43 • ท่องเที่ยว

หวงซาน .. ความงดงามในตำนาน ราวจิตรกรรมจีน (02)

บันทึกการเดินทางของฉันหลายครั้ง เริ่มขึ้นจากแรงจูงใจผ่านภาพถ่ายของใครบางคน ซึ่งเป็นเสมือนเชื้อไฟโหมกระตุ้นทำให้อยากออกเดินทาง
.. เช่นเดียวกันกับบทบันทึกเล็กๆชิ้นนี้ ที่จุดประกายโดยนักรีวิวรุ่นก่อน รวมถึงการบอกเล่าในความงดงามผ่านภาพถ่ายและบทความ ที่ทำให้ฉันตัดสินใจมายืนยังดินแดนแห่งนี้
“เขาหวงซาน” เมื่อเอ่ยชื่อนี้ออกมา หลายคนคงนึกถึงขุนเขาสูง .. แต่เมื่อฉันได้สัมผัส “เขาหวงซาน” เพิ่มมากขึ้น ฉันเชื่อว่าเสน่ห์ของ “หวงซาน” มีมากกว่านั้น สำคัญอยู่ที่ว่าคุณจะหาเสน่ห์ของ “หวงซาน” เจอหรือไม่
ฉันตั้งใจ ที่จะเก็บภาพความประทับใจ แล้วบันทึกลงในส่วนลึกของความทรงจำ และพร้อมจะถ่ายทอดอีกครั้งเมื่อต้องการ
วันนี้เราจะขอหยุดพักการเดินทางไว้กับที่พักแห่งหนึ่งบน “ภูเขาหวงซาน” .. โรงแรมนี้ถือว่าใหญ่และทันสมัยพอสมควรในพื้นที่นี้ .. เราประทับใจทันทีที่เข้ามาในส่วนของล๊อบบี้ การตกแต่งทำได้สวยสะดุดตาด้วยโคมไฟระย้าห้อยจากเพดาน ซึ่งไม่ได้อลังการแต่ส่วนประกอบโดยรวมลงตัวมาก
อาคารของโรงแรมแบ่งออกเป็น 2 หลัง ลดหลั่นกันลงไปตามลักษณะของภูมิประเทศ
.. แต่สามารถเดินต่อเนื่องถึงกันได้ง่ายๆด้วยการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น ลิฟท์ สะพาน และบันได .. รูปลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของทั้ง 2 อาคารแตกต่างกัน
ทางน้ำไหลลดระดับ และภาพทางเดินสะพานโค้งซึ่งอยู่ ณ จุดเชื่อมอาคารของโรงแรมสวยและสะดุดตามาก ..
เป็นภาพภูมิประเทศแบบจีนในหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยค่ะ .. แต่สายหมอกทำให้ภาพที่เห็นเลือนราง พร่ามัวไปบ้าง
เราวางแผนที่จะออกไปเดินในอีกด้านหนึ่งของเทิอกเขาหวงซาน หลังการเช๊คอิน ..
เราหวังว่าในช่วงเวลาที่เราเดินชม จะมีบางช่วงที่ฟ้าเปิดให้เราเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของยอดเขาสลับซับซ้อนท่ามกลางแนวต้นสน อันเป็นภาพลักษณ์ของเทือกเขาแห่งนี้
หมอกยังคงปกคลุมตลอดทางเดิน .. ช่วงเวลานี้อย่าหมายว่าจะเห็นภูเขาหลายๆยอดเลยค่ะ .. แม้ทางเดินข้างหน้าแค่ 10 เมตรก็ยังมองไม่เห็นเลย
ภูเขาหวงซาน .. มีชื่อเสียงจากทางสัญจร สะพาน และศาลาโบราณ รวมถึงผลงานแกะสลักและจารึกบนภูเขา ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจของงานวรรณกรรมจำนวนมาก
.. วันนี้หมอกรักหวงซานมาก โอบกอดไว้แน่นไม่ยอมให้ใครเห็น .. หรือ หวงซาน จะเป็น หวงภูเขา กันนะ?
ตั้งแต่สมัยโบราณ Huangshan หรือเทือกเขาเหลือง ถูกเรียกว่าทะเลเมฆ (Sea of Cloud) .. ทะเลเมฆจึงน่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในบรรดา 4 สิ่งมหัศจรรย์แห่งเทือกเขาเหลือง ส่วนอีก 3 แห่ง ได้แก่ ต้นสนรูปร่างแปลก หินรูปร่างแปลก และน้ำพุร้อน
Sea of Cloud วันนี้ … ไม่มียอดแหลมๆของภูเขาแม้แต่ลูกเดียวที่สามารถทะยานทะลุเมฆขึ้นมาได้ ... แงๆๆๆ
เรามาถึงแค่ราวครึ่งทาง โดยที่มองเห็นอะไรน้อยมาก .. ทัศนวิสัยโดยรอบมีแต่หมอกขาว
“เราจะเดินต่อขึ้นไปด้านบนภูเขานะครับ .. อาจจะไม่เห็นอะไร”
“หากใครต้องการรอที่ศาลา Ranked Cloud Pavillion ตรงนี้ก็ได้เลยนะครับ” .. ไกด์ของเราแจ้ง
ฉันตัดสินใจที่จะเดินขึ้นไปช้าๆเพียงลำพัง จะไม่เร่งเดินขึ้นที่สูงเร็วๆเหมือนเพื่อนร่วมทางที่เป็นหนุ่มสาว .. ข้างทางมีต้นไม้ทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่
.. ส่วนที่ดีที่สุดคือ บนเขามีนกเยอะมากๆ พวกมันส่งเสียง และกระโดดไปมา บางครั้งก็รวมตัวเกาะอยู่ตามกิ่งไม้ บ้างก็กระโดดออกมาหาอาหารบนพื้นดิน ทำให้คิดถึงช่วงเวลาที่ยังแบกกล้องไปส่องนกเลยค่ะ
บนสะพานข้ามหุบที่ไม่กว้างนัก ฉันเจอกับเจ้าหน้าที่ที่เดินไปมา ดูเหมือนจะคอยระแวดระวังความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในบริเวณนี้ .. แต่มีอะไรที่น่ากลัว?
.. เดินมาได้อีกสัก 10 เมตร ฉันมองเห็นนักท่องเที่ยวจีนกำลังส่งเสียงเบาๆเรียกอะไรบางอย่างจากด้านล่าง .. ฉันเดินเข้าไปใกล้ จึงเห็นสิ่งนี้ค่ะ .. ลิงหลายตัว มีลูกเล็กๆด้วย
นักท่องเที่ยวจินพยายามเรียกลิง ซึ่งตัวใหญ่กว่าลิงปกติที่เราเคยเห็นในเมืองไทยหลายเท่า .. ลิงตัวผู้ ก็ดูจะกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
.. คนจีนโยนขนมให้ลิง แล้วเจ้าลิงตัวนั้นก็วิ่งลงไปด้านล่าง คงเอาอาหารไปแบ่งให้สนมาชิดครอบครัว .. ฮันที่จริงการให้อาหารสัตว์ป่าเป็นเรื่องต้องห้ามนะคะ ไม่ควรทำ เพราะการไปสร้างความคาดหวังให้กับสัตว์ป่านั้น อาจจะนำมาซึ่งอันตรายได้
.. เมื่อสัตว์เห็นคน ก็อาจจะหวังว่าจะได้อาหาร และเมื่อผิดหวัง ก็อาจจะมีพฤติกรรมก้าวร้าว เข้ามาแย่งชิง หรือทำร้ายคนก็ได้
เราทุกคนรวมตัวกันที่จุดนัดพบอีกครั้ง แล้วรวมตัวกันเดินลง .. แต่ในระหว่างทาง เพื่อนส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินขึ้นไปตามทางเดินที่ลาดชันอีกแห่งหนี่ง เพื่อไปชมยอด เฟยไหล (Feilai) ซึ่งเป็นหินที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ หวงซาน
Feilai เป็นก้อนหินที่มีน่ำกนึก 600 ตัน สูง 12 เมตร … หลุมและยอดถูกแยกออกจากกัน คล้ายบินมาจากอวกาศ จึวเแ็นที่มาของชื่อ หินบิน
.. ส่วนฉันเดินลงมาคนเดียวจนถึงที่พัก
ยอดเฟยไหล
ภาพทิวทัศน์ที่เพื่อนร่วมทริปนำมาฝากค่ะ
พื้นที่ด้านหน้าของโรงแรมที่เราพักเป็นพื้นที่เปิดโล่งลงสู่หุบเขา .. บริเวณนี้มีบันไดให้เดินลงไปด้านล่าง ระหว่างทางจะมองเห็นธารน้ำที่ไหลลงมาจากธารน้ำจากภูเขา
.. ฉันเดินลดระดับลงมาเรื่อยๆ บริเวณนี้คาดเดาเองว่า น่าจะเป็นที่พักของพนักงาน และเป็นส่วนทำงานเกี่ยวกับการซักผ้าต่างๆ
.. บนหลังคาบ้านบางหลังทำเป็น Platform ลานโล่งๆที่เราสามารถไปยืนเก็บภาพมุมสูงของหุบเขาด้านล่างได้สวยงาม
ทิวทัศน์ด้านล่าง .. ดอกไม้เริ่มผลิดอกชูชันรับแสงแดดและสายลม ใบหญ้าพริ้วไหวไปในทิศทางที่สายลมพาไป สวยมากค่ะ
“ภูเขาหวงซาน” .. มักมีภาพที่งดงามอวดโฉมอยู่จิตรกรรมพู่กรรมจีน รวมถึงปรากฏชื่อในวรรณกรรมอยู่บ่อยครั้ง
ทัศนียภาพในเดือนเมษายนของ “ภูเขาหวงซาน” หรือภูเขาเหลือง ซึ่งตั้งตระหง่าน อยู่ที่มณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน .. ไม่ใช่ภาพวาดลายพู่กันจีน แต่เป็นภาพของหมอกและเมฆที่ลอยอยู่ใกล้ยอดเขาจริงๆ ฉันกดชัตเตอร์กล้องเก็บความงามของภูเขาในตำนานแบบรัวๆ
ณ จุดสุดท้ายที่ฉันลงไปได้ มีอาคารซึ่งเดา (อีกนั่นแหละ) ว่าอาจจะเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่โรงแรม .. บริเวณบ้านสวยน่ามอง เลยได้กดชัตเตอร์กล้องเก็นภาพมาแบบไม่ยั้งค่ะ
การได้อยู่กับธรรมชาติ กับผืนป่า .. เราได้รับสิ่งดีงามมากมาย สอนเราให้เติบโต ทั้งยังให้ทุกอย่างกับชีวิต และสำนึกอยู่เสมอถึงความเล็กจ้อยของตัวเราเอง เมื่ออยู่ในธรรมชาติ ไม่ว่าเวลานั้นจะเป็นฤดูใด…
“ธรรมชาติสอนให้เข้าใจชีวิต ฤดูกาลสอนให้เข้าใจเรื่องของเวลา”
ความมืดเริ่มเข้ามาเยือน .. แต่ในความสะลึมสะลือก็ยังไม่สามารถที่จะบั่นทอนความงามของเทือกเขาสูงเสียดฟ้าที่เป็นฉากหลังของเมืองลงไปได้
… ท้องฟ้าดูเหมือนจะอยู่แค่เอื้อมเมื่อยืนอยู่ที่นี่ เป็นเหมือนวิมานที่อยู่ของหมู่เทพในภูเขาโอลิมปัส และเหมือนกับจิตใจของเรากำลังจะเดินทางกลับไปสู่จุดที่จักรวาลเพิ่งจะเริ่มต้น
วูบหนึ่งที่ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวเมื่ออยู่สูงเทียมเมฆ … แต่ใครบางคนกล่าวว่า ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ความต่อเนื่องของสรรพสิ่งในโลกมีมากกว่าความผิวเผิน
เราไม่เคยอยู่โดดเดี่ยวในธรรมชาติ หากเราคิดว่าตัวเราเป็นเหมือนใบของต้นไม้ เราก็จะไม่มีวันโดดเดี่ยว … ภูเขาอาจจะอยู่ลำพัง แต่ใช่จะไร้เพื่อน
โฆษณา