21 เม.ย. เวลา 08:17 • ท่องเที่ยว

หวงซาน … ความงดงามในตำนาน ราวจืตนกรรมจีน (03)

ฉันเชื่อว่า "ชีวิต" มักจะมีที่ทางและคำตอบของมันเสมอ ... ฉันเชื่อเสมอว่า "การเดินทาง" คือการได้เปิดโลกทัศน์ เปิดทัศนคติใหม่ๆสำหรับผู้คน วัฒนธรรม และธรรมชาติรอบๆตัว
อันเป็นสิ่งที่เราอาจจะไม่เคยได้รับรู้ ได้สัมผัส ณ เวลาช่วงที่เรายังต้องยุ่งอยู่กับ "ชีวิตการทำงาน" ในเมืองใหญ่ที่ซับซ้อน และเร่งรีบ
มากมายหลายเหตุผล ... มากกว่าการได้เดินทาง หรือถ่ายรูป
ลึกเข้าไปในพื้นที่ระหว่างภูเขาโอบล้อม มีม่านหมอกสีฟ้าน้ำเงินห่มไอหนาวในยามเช้า มีธารน้ำหลากไหลพัดพาสรรพชีวิตให้เคลื่อนไหวเหมือนบทเพลงที่มากมายด้วยท่วงทำนองและจังหวะแห่งชีวิต ...
จังหวะ ..ที่บางทีเราอาจจะต้องใช้หัวใจฟัง นอกเหนือจากสิ่งที่เห็นด้วยตา และได้ยินด้วยหู จึงจะได้คุณค่าที่รื่นรมย์ของความเคลื่อนไหวอันเรียบง่าย
เช้าวันที่สองของการเยือน “เขาหวงซาน” .. เพื่อนร่วมทริปพร้อมใจกันไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาแห่งหนึ่งในเส้นทางที่เราไปเดินเมื่อวานนี้ ส่วนฉันเองเลือกที่จะรอชมพระอาทิตย์แถวโรงแรมที่พัก
ภาพพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา จากฝีมือเพื่อนร่วมทริปที่นำมาแบ่งปัน
Cr. ภาพจาก คุณบี Black Tiger และ Travel Life Thailand
บรรยากาศยามเช้าปกคลุมด้วยหมอก .. แต่ทัศนวิสัยดีกว่าเมื่อวารมนด
รุ่งอรุณของวันใหม่ในความหนาวในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ .. หมู่มวลหมอกและละอองฝน ปลุกเร้าความรู้สึกสดชื่น สีขาวดั่งปุยนุ่นของคลื่นหมอกกระทบแสงแรกจากระยะไกล ดูสวยงามจับใจ ระลอกหมอกที่ดูนิ่งสงบ พอๆกับความเงียบในยามเช้าตรู่
ทะเลหมอกที่ผู้คนแถบนี้อาจเห็นจนชินตา แต่สำหรับพวกเรานี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกครั้งหนึ่ง .. และในขณะที่ชาวบ้านกำลังเริ่มต้นเดินหน้าทำกิจวัตรประจำวันของวันใหม่ ส่วนฉันกำลังหยุดนิ่งเก็บเกี่ยวเรื่องราวแห่งความงดงาม
เช้าตรู่ ... ภูเขาเขียวครึ้มสูงตระหง่านยามเช้าที่อาบไล้ด้วยแสงอาทิตย์ส่องสาด แลเห็นหลืบเงามืดและด้านสว่างของภูเขาที่ปกคุมด้วยพืชสีเขียว
.. แสงอาทิตย์ยามอรุณรุ่งสาดส่องหุบเขา ก่อเกิดฉากทัศน์เหมือน แสงทอง ส่องภูผา สวยวามตระการตา
ภาพวิวทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้า ตามสายตาที่ทอดยาวไปกว้างไกล สร้างความรู้สึกโปร่งโล่งและเป็นอิสระ
สร้างความรู้สึกสดชื่นไร้ขอบเขตที่ส่องสะท้อนเข้ามาในใจของผู้พิศมอง
ภาพโรงแรมที่พัก ยามเช้า
จากความฝันสู่อีกฝันหนึ่ง จากป่าคอนกรีตสู่ภูเขาสูงเสีนดฟ้า .. ไอหมอกยังคงทำหน้าที่เชื่อมโยงความฝันให้เป็นเรื่องจริง เป็นความสุขในการชื่นชมธรรมชาติของนักเดินทาง
หลังรับประทานอาหารเช้า เราเริ่มต้นออกเดินทางกลับ .. เช้านี้อากาศดีมาก ท้องฟ้าเปิด ทำให้ความหวังที่จะได้เก็บภาพสวยๆของ “หวงซาน” ใกล้ความจริงมากขึ้น
เราออกเดินทาง โดยวางแผนที่จะไปแวะชมทิวทัศน์ 2 แห่ง คือ Stone monkey gazing at the sea of cloud หรือไปชมวิวที่ Bright Peak แบ่งกันเป็น 2 กลุ่ม .. ใครใคร่ไปทางไหนก็ไป แล้วนัดพบกันเพื่อรวมกลุ่มไปลงกระเช้าไฟฟ้าด้วยกัน
จากเดินลงเขา .. ขากลับเราต้องเดินขึ้นเขา แต่น่าประหลาดใจที่ฉันพบว่า ตัวเองนั้น เดินขึ้นเขาได้สบายกว่าตอนเดินลงเขามาก โดยไม่มีคำอธิบายที่ดี .. นอกจากว่า ร่างกายมีเวลาปรับตัวผ่านมาแล้ว 2 วัน ช่วงหลังเลยเดินสบายขึ้น?
.. อย่างไรก็ตาม อาจจะด้วยการเข้าใจไม่ตรงกันในเรื่องการสื่อสาร ทำให้การเดินชมทิวทัศน์ทำได้เพียงที่เดียว และมีสมาชิกต้องรอ
เส้นทางที่คดเคี้ยวลัดเลาะขึ้นลงภูเขา ความระมัดระวังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ... ธรรมชาติที่รายล้อมระหว่างการเดินทาง บางครั้งเราก็รีบร้อนหรือละเลยที่จะสนใจ
ทำให้เราพลาดหลายๆสิ่งที่ดีๆไป การเดินให้ช้าลง สนใจสิ่งรอบข้างให้มากขึ้น น่าจะช่วยทำให้เรามองโลกที่เราอยู่ได้ดีขึ้น
การได้สูดอากาศที่แสนบริสุทธิ์มากกว่าอากาศในเมืองที่ฉันเรียกว่า “บ้าน” ... ได้ยืนมองความเคลื่อนไหวของไอหมอกสีขาวนวลที่ดูอ่อนโยนแต่มีพลัง เป็นความสุขที่คุ้มค่ากับการเดินทาง …
ธรรมชาติที่งดงามชวนให้สัมผัส .. เรื่องราวจากผู้คนที่พานพบ มิตรภาพ ความรักและความผูกพัน หล่อหลอมให้บน “เขาหวงซาน” ยามนี้อบอวลไปด้วยความสุข
ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ “เขาหวงซาน” ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ .. เมื่อมีโอกาสฉันจึงมักเก็บความงดงามในช่วงเวลาของความมหัศจรรย์นั้นๆอยู่เสมอ
ปุยเมฆและไอหมอกกำลังโอบกอดขุนเขาหลังสายฝนเมื่อวานหยุดทำหน้าที่ .. “เขาหวงซาน” คงเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สวยงามจนยากที่จะบรรยายเป็นตัวอักษร
ยอดเฟิงหลาย
เมื่อออกมาเดิน ตั้งความหวังเล็กๆว่าอาจจะมีโอกาสเห็นทะเลเมฆ (Sea of cloud) ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นตัวอย่างทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่สร้างแรงบันดาลใจเท่านั้น
… แต่ยังเป็นของในตำนานด้วยคุณสมบัติอันลึกลับในสายตาของชาวจีน เช่น ทะเลเมฆปกคลุมป่าบนยอดเขาหวงซานที่ เผิงไหล (蓬莱) ซึ่งเป็นที่อาศัยในตำนานของผู้เป็นอมตะซึ่งมีรูปร่างคล้ายเกาะบนภูเขาที่ลอยอยู่ในเมฆ
.. แต่สถานที่ที่ฉันยืนอยู่ตอนนี้คงอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป จึงไม่มีทะเลเมฆให้เห็น
.. อย่างไรก็ตาม แนวสน เทิอกเขาที่ปรากฏในสายตาก็งดงามมาก จนยากที่จะบรรยายออกมาให้ตรงกับสิ่งที่เห็น และความรู้สึก
“ภูเขา” .. สิ่งแรกที่เราคิดถึง และที่เป็นเอกลักษณ์คือ “ความสูง”
ทุกสิ่งดูเล็กลงถนัดตาเมื่อเทียบกับภูเขาสูง … เมื่อเห็นภูเขา เราก็เริ่มตระหนักถึงความต่ำต้อยของการเป็นมนุษย์
“เขาหวงซาน” ถือกำเนิดขึ้นในมหายุคเมโซโซอิก เมื่อประมาณ 100 ล้านปีก่อน โดยเกิดจากพื้นก้นทะเลยกตัวขึ้นสูง
ต่อมาในยุคควอเทอร์นารี พื้นผิวของเทือกเขาถูกธารน้ำแข็งกัดเซาะเป็นเวลานาน จนเกิดเป็นเสาหินขึ้นทั่วไป และต่อมาก็เกิดป่าขึ้นบนเสาหินเหล่านั้น
ในสมัยราชวงศ์จิ๋น เทือกเขาหวงมีชื่อเรียกว่า ยี่ซาน ชื่อในปัจจุบันได้รับการตั้งขึ้นใหม่ โดยนักประวัติศาสตร์พบข้อเท็จจริงนี้จากกวีนิพนธ์ของ Li Po ซึ่งได้กล่าวถึงเทือกเขาหวงด้วยชื่อในปัจจุบัน
จุดชมวิวบน “เขาหวงซาน” ครอบคลุมภูมิประเทศและลักษณะทางภูมิศาสตร์อื่นๆ อย่างกว้างขวาง
ภูเขาสูงตระหง่านสู่ท้องฟ้าทำให้มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขา
... ด้วยทัศนวิสัยที่ดีในเช้าวันนี้ ทำให้เราเห็นภาพของภูเขา และพืชพรรณต่างๆได้ชัดเจนมาก ..
พืชที่ขึ้นอยู่ในบริเวณเทือกเขาหวงจะแตกต่างกันไปตามระดับความสูง ที่ความสูงต่ำกว่า 1,100 เมตร จะเป็นป่าชื้น ความสูงระหว่าง 1,100-1,800 เมตร จะเป็นป่าผลัดใบ และความสูงตั้งแต่ 1,800 เมตรขึ้นไป จะเป็นทุ่งหญ้าในลักษณะที่ขึ้นอยู่ตามที่สูง
ว่ากันว่า ... บริเวณเทือกเขามีพรรณไม้หลากหลายชนิด
จากการสำรวจพบว่ามีพืชจำพวกพืชไม่มีท่อลำเลียงจำนวน 1 ใน 3 จากตระกูลที่มีอยู่ในจีน และตระกูลเฟิร์นถึงครึ่งหนึ่งจากจำนวนตระกูลทั้งหมดในจีน อยู่ในเทือกเขานี้
ปรากฏการณ์แสงพระพุทธ
ยอดเขาต่างๆในกลุ่ม “เขาหวงซาน” มักจะอยู่เหนือระดับของเมฆ ทำให้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของก้อนเมฆได้จากยอดเขา และทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงอันน่าอัศจรรย์
… ทั้งปรากฏการณ์ทะเลเมฆ และแสงพระพุทธ เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาชม โดยเฉลี่ยแล้ว จะเกิดปรากฏการณ์แสงพระพุทธขึ้นเดือนละ 2 ครั้ง
เขาหวงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกใน พ.ศ. 2533 … เนื่องมาจากทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม และเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่หายากและถูกคุกคามหลายชนิด
เรากำลังจะโบกมือลา และลงจากเขาไปอย่างไม่เต็มใจมากนัก ... หวงซานสวยงามเกินกว่าจะมองเห็นได้มากพอ
Ref : Wikipedia
โฆษณา