22 เม.ย. เวลา 08:41 • ท่องเที่ยว

หมู่บ้านหวงหลิง .. A Colorful Mountain Village

หมู่บ้านหวงหลิง (Huangling Village) .. A Colorful Mountain Village
หมู่บ้านหวงหลิง (Huangling Village) อำเภอ Wuyuan เมือง Shangrao มณฑล Jiangxi ประเทศจีน.. เป็นหมู่บ้านที่มีฉายาว่า “หมู่บ้านโบราณบนหน้าผา ลานตากแห้งธรรมชาติใต้ท้องฟ้า”
หมู่บ้านที่มีลักษณะเป็นรูปตัว ยู (U) มีพื้นที่ราว 5 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่บนหน้าผา โอบล้อมด้วยภูเขา Shier เป็นทิวทัศน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่มีพื้นราบ มีบรรยากาศแห่งความเรียบง่ายและสง่างาม
.. มีอายุยาวนานในยุคกลางของราชวงศ์หมิง และมีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบ 600 ปี .. แต่เมื่อราวสิบกว่าปีที่ผ่านมา จากจำนวนครัวเรือนราว 180 หลังคา ชาวบ้านได้ย้ายออกไปที่อื่นเพื่อหลีกหนีความยากจน จนเหลือเพียงแค่ 68 ครัวเรือน
.. พื้นที่ในหมู่บ้านแร้งร้าง พื้นที่เกษตรกรรมและที่นาโดดเดี่ยว ว่างเปล่า
ต่อมาหมู่บ้านหวงหลิงได้เข้าร่วมโครงการ “ร่วมกันขจัดความยากจน” ..
ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่หมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในแนวหมู่บ้านโบราณ เพื่อให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์
กระแสความนิยมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กำลังมาแรง .. ปัจจุบันหมู่บ้านโบราณแห่งนี้ซึ่งเป็น ต้นกำเนิดของวัฒนธรรม “การอบแห้งพืชผลในแสงแดดฤดูใบไม้ร่วง” กลายเป็นจุดชมวิวระดับ 4A ที่มีนักท่องเที่ยวมาชมถึง 30,000 คนต่อวัน
ธุรกิจขนาดเล็กที่ชาวบ้านสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว ได้สร้างรายได้ให้ผู้คนที่นี่จากเดิม 3,500 หยวนต่อหัว พุ่งขึ้นเป็น 35,000 หยวน ในปีค.ศ. 2017
ซึ่งนับว่าแรงกาย แรงใจของชาวบ้านที่มุ่งมั่น ทุ่มเท ได้ให้ผลลัพท์ที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
“หวงหลิงโมเดล” ของการท่องเที่ยวในชนบทเพื่อขจัดความยากจน ได้กลายเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นเมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวในหมู่บ้านหวงหลิงเกินหนึ่งล้านคน
เราเดินทางไปถึงหมู่บ้านหวงหลิง ในวันที่ฝนตก .. หมู่บ้านโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาและนาขั้นบันได
การไปเดินเที่ยวในหมู่บ้าน จะให้รวดเร็วและสะดวก ก็ต้องใช้บริการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไป
.. วันที่เราไปเยือนตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากพร้อมใจกันมา เมื่อได้ตั๋วกระเช้าแล้ว จึงอาจจะติดอยู่ในแถวรอขึ้นกระเช้าค่อนข้างนานพอสมควร
จากสถานีกระเช้าด้านบน .. เรเดินตามทางเลียบเขามาเรื่อยๆ สิ่งที่น่าสนใจในพื้นที่ตรงนี้ นอกจากนาขั้นบันไดเบื้องล่างแล้ว ยังมีต้นไม้อายุ 300-420 ปีที่ได้รับการดูแล อนุรักษ์ไว้อย่างดี
ฝนตก และตกไม่หยุดเมื่อเราไปถึง .. เราจึงเลือกที่จะไปรับประทานอาหารในภัตตาคารแห่งหนึ่ง เพื่อรอให้ฝนหยุด แล้วจึงจะเดินเก็บภาพบรรยากาศภายในหมู่บ้าน
เมนูต่างๆที่เราสั่งมารับประทานในวันนี้ค่ะ
ฝนหยุดแล้ว เย้ๆๆๆๆ .. เราจะออกไปเดินชมหมู่บ้านกันนะคะ
หมู่บ้านแห่งนี้ ในปัจจุบันประกอบไปด้วยบ้านเรือนสไตล์ Huizhou หลายร้อยหลังคาเรือนกระจัดกระจายอยู่บนพื้นที่ลาดเอียงโดยมีความสูงหลายร้อยเมตร
Heaven Sreet ซึ่งเป็นถนน Old Street ที่สวยงามกลางแจ้ง
… มีร้านค้าน่ารักและสแน็คบาร์มากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านน้ำชาดีๆ อีกด้วย
แม้ว่าคุณอาจชื่นชมความงามภายนอกของหน้าร้าน แต่ภายในคุณจะพบของที่ระลึกแกะสลักไม้หรือแกะสลักไม้ไผ่มากมาย
… ที่คุณสามารถนำกลับบ้านเพื่อเตือนให้คุณนึกถึงการเดินทางที่ยอดเยี่ยมที่คุณเพิ่งมีโอกาสมาเยือน
ภายในหมู่บ้านเรียงรายไปด้วยอาคารโบราณเชื่อมต่อกันราวกับเข็มขัดหยกรอบๆหมู่บ้าน มีร้านค้า ขายของที่ระลึก ร้านอาหาร อยู่มากให้ต้องกลัวอด อีกทั้งยังมีร้าน KFC ด้วยนะคะ เดินเที่ยวกันยาวๆ ได้ทั้งวัน
... และเดินเมื่อเข้าไปลึกเข้าไปอีก เส้นทางจะแบ่งออกเป็นหลายเส้นทางขึ้นลงผ่านหมู่บ้าน หากคุณเดินเก่ง ก็จะสนุกกับการสำรวจ!
หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีอาคารเก่าแก่ตามแบบฉบับสถาปัตยกรรมพื้นบ้านแนวฮุยโจวที่อนุรักษ์เอาไว้จำนวนหนึ่ง ..
Zhuxu Hall (Bamboo Hall ) : บ้านหลังนี้น่าสนใจ ใครบางคนบอกว่ามีอายุราว 300 ปีแล้ว .. มีจุดเด่นที่การประดับด้วยไม้แกะสลักที่มีเสน่ห์ สวยงาม และคลาสสิกมาก
เจ้าของคือ Cao Yuangong ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการศึกษาจากสถาบันการศึกษาชั้นสูง ในปี ค.ศ.1635 (ราชวงศ์หมิง) และเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้พิพากษาของเทศมณฑลชิงซาน (มณฑลหูเป่ย).
Zhuxu Hall ครอบคลุมพื้นทีประมาญ 100 ตำรางเมตร โดยมี 3 ห้องพัก .. อาคารด้านทีหันไปทางถนนเต็มไปด้วยไม้แกะสลัก:
บ้านไม้อันวิจิตรบรรจงหลังนี้สร้างขึ้นด้วยเส้นสายและองค์ประกอบที่ซับซ้อน สื่อถึงรสนิยมอันวิลัยของอดีตของเจ้าของบ้าน และเน้นย้ำธีมอันสูงส่งของไม้ไผ่ที่ไร้มลทิน เช่นเดียวกับดอกบ๊วยที่บริสุทธิ์ .. อาคารหลังนี้จึงเป็นผลงานชิ้นเอกที่น่าทึ่งจริงๆ
Caos Ancestor Hall
อาคารหลังนี้เป็นที่พักของขุนนางชั้นสูง ของครอบครัว Caos เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของเกีบรติยศ และลำดับชั้นของสมาชิกในครอบครัวที่ต้องจากไปรับราชการในราชสำนัก
สร้างในสมัยราชวงศ์ชิง สมัยจักรพรรดิ Jiaqing
โรงเรียนนสมัยโบราณ
ว่ากันว่า .. หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตนักปราชญ์และนักศึกษาที่เก่งๆมากมาย เรามีโอกาสไปเยี่ยมชม แต่ไม่มีรายละเอียดมากเท่าที่อยากรู้ค่ะ
ถนนสายน้ำ ...
ลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเช็คอิน และโพสท่าถ่ายรูป .. บริเวณสองฝั่งของธารน้ำด้านล่างมีร้านค้าสวยๆ ร้านกาแฟเก๋ๆให้ไปนั่งละเลียดจิบกาแฟ และคุยกัน
Huangling เป็นหมู่บ้านโบราณบนยอดเขา จุดเด่นของหมู่บ้านนี้คือ “พืชแห้งในฤดูใบไม้ร่วง”
.. วิถีการตากพืชผลใต้แสงแดด เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น พืชผล ธัญญาหารหลากสีจากการเก็บเกี่ยวถูกนำเอามาตาก และทำให้แห้งบนลาน หรือระเบียงที่ทำเป็นไม้ยื่นออกมาจากตัวอาคาร รองรับถาดพริก
.. อันเป็นวิธีการที่ชาวบ้านใช้วิธีถนอมผลผลิตของปีให้อยู่ได้นาน .. ส่งเสริมภูมิทัศน์พื้นบ้าน "ไช่ชิว" ทำให้เป็นชนบทที่มีเอกลักษณ์และเป็นสัญลักษณ์ทั่วไปของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่งดงามอย่างแท้จริง
.. ถาดพริกสีสันจัดจ้าน ธัญพืชหลากสี และผลผลิตทางการเกษตรหลายอย่าง ที่อยู่ในถาดตาก วางตัวอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ โดยมีฉากหลังเป็นอาคารโบราณคลาสสิกที่เรียงรายลดหลั่นกันไปตามระดับความสูงของแต่ละบ้าน
.. ภาพที่ออกมาจึงสวยงามเหมือน “ศิลปะบนหลังคา” ดึงดูดให้คนส่วนใหญ่เข้ามาโพสท่าถ่ายรูปกับ “เอิร์ธอาร์ต” อันน่าทึ่งในทุกฤดูกาล เพื่อเก็บไปเป็นที่ระลึก
ตั้งแต่ปี 2015 หมู่บ้าน Huangling ได้เป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลวัฒนธรรมอาบแดด ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองประเพณีประจำปีในการตากพืชผลสีสันสดใสบนหลังคาที่กระจัดกระจาย
.. เทศกาลที่ไม่เหมือนใครนี้ได้กลายเป็นงานระดับภูมิภาคที่น่าดึงดูดใจ โดยดึงดูดผู้เข้าชมมากกว่า 700,000 คนในปี 2565
การประชุมสุดยอดหัวหน้าหมู่บ้านการท่องเที่ยวนานาชาติซึ่งจัดขึ้นในปี 2561 และ 2565 ได้นำหมู่บ้านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงกว่า 100 แห่งทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์การพัฒนาของพวกเขา ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมวัฒนธรรมข้ามวัฒนธรรม การเรียนรู้และการทำงานร่วมกัน
.. ฉันนึกชื่นชมคนที่คิดนำเอาสิ่งที่ดูธรรมดามากๆ และเป็นวิถีชีวิตประจำวันง่ายๆของชาวบ้าน มาโปรโมทเป็นจุดขาย
… เป็นจุดดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวต่างถิ่นให้เข้ามาชม มาใช้จ่ายสร้างรายได้เป็นกอบ เป็นกำได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก .. ปรบมือให้หลายๆครั้งค่ะ
Huangling Village หมู่บ้านท่ามกลางภูเขา และนาขั้นบันได (อาจจะปลูกต้น Rapeseed) .. ทุ่งนาที่นี่งดงามมาก สีเขียวขจีของ Rapeseed ที่ยังไม่ออกดอก บ่งบอกอาชีพการทำเกษตรกรรมของชาวบ้านเป็นงานหลัก
หมู่บ้านหวงหลิง .. ดูแลรักษาทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งรวมถึงการปกป้องอาคารโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ 43 หลัง และเลี้ยงดูผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ 32 ราย ซึ่งรับประกันความต่อเนื่องของประเพณี
เชิดชูมรดกอันยาวนานของหมู่บ้าน จัดกิจกรรมเทศกาลที่มีชีวิตชีวา รวมถึงเทศกาลทางวัฒนธรรมและการเฉลิมฉลองการเต้นรำ เป็นการรำลึกถึงมรดกเพิ่มเติม
... นับเป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมด้วยความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่อ้าแขนรับเอาความเจริญรุ่งเรืองมาอยู่ร่วมกัน เป็นการการแลกเปลี่ยนข้ามวัฒนธรรม ที่โดดเด่นในฐานะสัญลักษณ์แห่งนวัตกรรมในบริบทและขอบเขตของการท่องเที่ยว
หมู่บ้านแห่งนี้ กลายเป็นต้นแบบของการอนุรักษ์มรดกแบบองค์รวม การพัฒนาเศรษฐกิจ และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นต่อประเพณีและนวัตกรรม สามารถสร้างชุมชนที่เจริญรุ่งเรืองและความสามัคคีได้
.. รวมถึงสามารถยกระดับชาวบ้านด้วยการสร้างโอกาสในการจ้างงาน ส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในชนบท มุ่งเน้นไปที่ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
.. การท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างโดดเด่น ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดประโยชน์หลายประการแก่ชุมชนท้องถิ่น รวมถึงการยกระดับความเป็นอยู่ โดยรวม
ในปีนี้ 2023 หมู่บ้านหวงหลิ่ง (Huangling Village) ได้รับเลือกให้เป็น “หมู่บ้านการท่องเที่ยวที่ดีที่สุด” จากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO)
หมู่บ้านหวงหลิงซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางภูมิทัศน์อันงดงามของมณฑลเจียงซี ประเทศจีน .. พื้นที่ชมวิว Wuyuan Huangling ตั้งอยู่ในเทือกเขา Shier ซึ่งครอบคลุมมีเนื้อที่ 7.8 ตารางกิโลเมตร
อยู่ในระหว่างทางที่เราเดินทางเพื่อไปนั่งกระเช้าไฟฟ้าลงเขา มีสวนดอกกุหลาบพันปีหลากสีเป็นลานกว้างมาก
.. ต้นดอกกุหลาบพันปีหลากสีสัน ได้เข้าสู่ช่วงผลิดอกสีสวยๆเต็มกิ่งก้าน ดึงดูดผู้คนให้เข้าไปใกล้ เพื่อถ่ายภาพความงามของธรรมชาติ โดยมีฉากหลังเป็นนาขั้นบันได และในอีกุมหนึ่งเป็นสะพานแขวนแสนสวย
Huangling เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการไปเยือนในฤดูใบไม้ผลิ ในช่วงต้นถึงกลางเดือนมีนาคม คุณจะเห็นดอกคาโนลาสีเหลืองปกคลุมทั่วทิวเขาครอบคลุมพื้นที่นับพันเอเคอร์ .. ในช่วงที่เราไปเยือนท่องทุ่งยัวเป็นสีเขียว .. ไม่แน่ใจว่าเป็นนาข้าวกรือไม่ค่ะ
.. ในฤดูที่ดอกไม้ออกดอก จินตนาการได้เลยว่า ทุ่งสีเหลืองทองขนาดมหึมานี้ จะสวยงามแค่ไหน
สะพานแขวนในบริเวณนี้มี 2 สะพาน .. ด้านล่างใกล้กับนาข้าวขั้นบันไดมีขนาดเล็กกว่าสะพานขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านบน ซึ่งเป็นทางสัญจรและใช้เดินข้ามไปนั่งกระเช้าไฟฟ้าเพื่อกลับลงไปด้านล่างด้วย
สะพานลอยฟ้านั้นแทบจะลอยอยู่กลางอากาศ ทอดยาวกว่า 200 เมตร ข้ามยอดเขาสองลูก โดยมีแผงกระจกอยู่ตรงกลาง
คุณต้องรวบรวมความกล้าที่จะเหยียบแผงกระจกแล้วมอง – รางวัลสำหรับมุมมอง 360 องศาที่ลอยอยู่ในอากาศ มันรู้สึกสุดยอดมาก!
หากคุณพักในหมู่บ้าน อาจจะเป็นโอกาสที่ดีในการชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือเพื่อชมแสงสีมหัศจรรย์ยามเย็นได้ โดยมีทุ่งดอกคาโนลาที่เบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่บานสะพรั่ง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง
โฆษณา