23 เม.ย. เวลา 01:18 • ข่าวรอบโลก

“โหงวเฮ้ง” สำคัญไฉน? เมื่อบริษัทในสิงคโปร์จ้างซินแซมาดูผู้สมัครเข้าทำงาน

การเข้าสมัครทำงานจะที่ไหนก็ตาม หลายบริษัทจะมีกฎเกณฑ์ในการคัดเลือกคนเข้ามาทำงานคล้ายๆ กัน
ทั้งเลือกเอาจากประวัติการศึกษา ประสบการณ์ ความสามารถ บุคลิกภาพ แต่มันยังมีปัจจัยอย่างอื่นที่บริษัทนำมาใช้เป็นตัวชี้วัดคนเข้ามาทำงานด้วย นั่นคือ “โหงวเฮ้ง”
เมื่อทาง CNBC ได้เปิดเผยว่าบริษัท Way Fengshui Group บริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับฮวงจุ้ย ได้รับการว่าจ้างจากบริษัทกว่า 100 แห่งในสิงคโปร์ให้มาแนะนำเพื่อประกอบการตัดสินใจในการคัดเลือกผู้สมัครเข้าทำงาน
3
โดยทาง มาร์ค ตัน CEO ของ Way Fengshui Group ได้กล่าวว่าบริษัทเหล่านี้จะส่งรายละเอียดของผู้สมัครมาให้ทั้งวันเกิด รูปถ่าย เพื่อให้ทาง Way Fengshui Group วิเคราะห์โหงวเฮ้งของผู้สมัครแต่ละคนว่าเป็นอย่างไร เหมาะหรือไม่เหมาะที่จะเข้าทำงานในตำแหน่งนั้นๆ กับบริษัทมากน้อยแค่ไหน ก่อนที่บริษัทจะนำผลไปประกอบการพิจารณาในด้านอื่นๆ ซึ่งถ้าผ่านเกณฑ์ก็จะเรียกเข้ามาสัมภาษณ์งานแล้วตัดสินใจเลือกคนเข้าทำงาน
2
มาร์ค ตัน ยังได้กล่าวอีกว่า บริษัทของเขาไม่ได้ดูแค่โหงวเฮ้งของผู้สมัครงานเท่านั้น พวกเขายังมีซินแสให้คำปรึกษากับบริษัทเพื่อประกอบการตัดสินใจในเชิงธุรกิจ เช่น การลงทุนเปิดโรงงานใหม่ ฤกษ์งามยามดีต่างๆ สถานที่ตั้งโรงงาน โดยทางซินแสจะพิจารณาจากความเหมาะสมของที่ดิน ความสูง สิ่งแวดล้อมรอบข้างว่าเป็นที่ที่มีพลังฮวงจุ้ยในด้านดีไหม
จากข่าวที่กล่าวมาทำให้การสมัครเข้าทำงาน หรือการลงทุนทำธุรกิจ ในสิงคโปร์จะอาศัยแค่ความเก่ง ความสามารถอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะในบริษัทเหล่านี้มีความเชื่อเกี่ยวกับพลังฮวงจุ้ย
ซึ่งนอกจากจะพวกบริษัทจะสนใจเรื่องดูดวง เรื่องฮวงจุ้ยแล้ว ประชาชนคนทั่วไปในสิงคโปร์ก็เชื่อในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยคนทั่วไปมักจะไปหาซินแซเพื่อสอบถามเรื่องเมื่อไรจะรวย หรือไปดูเรื่องงาน เรื่องความรัก ด้วยเหตุนี้ทำให้อุตสาหกรรมการดูดวง ดูฮวงจุ้ยในสิงคโปร์เติบโตขึ้นกว่า 32.6% ในระหว่างปี 2017-2021 โดยที่รายได้ของอุตสาหกรรมนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เติบโตขึ้นเกือบ 70% คิดเป็นเม็ดเงินมูลค่ากว่า 76.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 2,000 ล้านบาทเลยทีเดียว
แม้โลกเราจะวิวัฒนาการก้าวหน้าไปไกลแค่ไหน มีเทคโนโลยีล้ำสมัยมากอย่างไร ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับดวงก็ยังได้รับความนิยมและยิ่งมีมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ประเทศไทยเราเองก็มีชื่อเสียงในด้านสายมู หากเรานำมาพัฒนาในเชิงอุตสาหกรรมก็คงสร้างเม็ดเงินได้มหาศาลให้กับประเทศเราได้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่นำความเชื่อที่คนมี มาหลอกหลวง สร้างความเบียดเบียน จนใครต้องเดือดร้อนด้วยครับ
 
อ้างอิง
 
2
โฆษณา