25 เม.ย. เวลา 13:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ค่าแรงขั้นต่ำ“400 บาทถ้วนหน้า”ยังอีกยาวไกล

คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,986 ระหว่างวันที่ 25-27 เม.ย. 2567 “ว.เชิงดอย” ประจำการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร ที่มีสาระ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นเคย
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง สร้างความมั่นใจในการเดินหน้า “โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท” ให้กับคนไทยที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป รวมวงเงิน 500,000 ล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล และแกนนำพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ร่วมรับประทาอาหารเที่ยงร่วมกันที่ตึกไทยคู่ฟ้า ภายในทำเนียบรัฐบาล และได้มีการพูดถึงนโยบายของรัฐบาลในเรื่องดังกล่าว
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ออกมาเล่าถึงการพูดคุยเรื่อง “แจงเงินดิจิทัล” ว่า มารับทราบรายละเอียดของหลักการของโครงการดังกล่าว ก่อนที่จะนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณา บรรยากาศในการหารือกันเป็นไปได้ด้วยดี ได้มีการสอบถามในประเด็นต่างๆ จากผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อแนะนำจากองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งได้มีการชี้แจงและยืนยันกระบวนการ และขั้นตอนของการดำเนินโครงการ ว่าเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งผลประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้ คือ ตัวเลขทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น คาดว่าน่าจะเพิ่มการเติบโตของ GDP ได้อีก โดยภาพรวมของโครงการจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจให้กับทุกฝ่าย ฉะนั้นทุกพรรคการเมืองที่ร่วมก็ให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการดำเนินการโครงการนี้ ให้เกิดประโยชน์โดยส่วนรวมทั้ง เศรษฐกิจ พี่น้องประชาชน และ ผู้ประกอบการ
สำหรับแหล่งที่มาของเงินที่ “รัฐบาลเศรษฐา” นำมาใช้ “แจกเงินดิจิทัล” นั้น จะมาจากจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท, จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท และ ก้อนสุดท้ายมาจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 172,300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เส้นทางนโยบาย “แจกเงินดิจิทัล” ก็ยังไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เพราะสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธ.ก.ส. ออกมาตั้งคำถามถึงข้อกฎหมายในการดำเนินการ และส่งหนังสือสอบถามความเห็นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ตีความ พ.ร.บ.ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า สามารถนำเงิน ธ.ก.ส. มาใช้เงินในโครงการนี้ทำได้หรือไม่ ...ดูดูแล้วก็ยังคงมีปัญหาอุปสรรคอยู่เหมือนกันสำหรับการแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล
ไปดูเรื่อง “ค่าแรงขั้นต่ำ” ของแรงงานไทยกันหน่อย ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ออกมาพูดถึง “ของขวัญ” สำหรับผู้ใช้แรงงานในวันแรงงาน 1 พ.ค.2567 นี้ว่า จะมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” แน่นอน โดยของขวัญชิ้นสำคัญคือ จะมีรายละเอียดเรื่องค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 400 บาท โดยผ่านคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งจะดำเนินการเร็วขึ้นจากแผนงานที่วางเอาไว้
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2567 ไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ว่า ได้มอบหมายให้อนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดทุกจังหวัด ไปศึกษาว่าแต่ละจังหวัดมีประเภทกิจการใดบ้างที่มีความพร้อม และสามารถปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำได้ถึงวันละ 400 บาท จากนั้นให้เสนอข้อมูลมายังบอร์ดค่าจ้าง และจะมีการศึกษาการปรับขึ้นค่าจ้างโดยอาจารย์จาก ม.ธรรมศาสตร์ โดยกำหนดให้อนุฯ ศึกษาข้อมูลภายใน 2 เดือน แล้วจะมีความชัดเจนในเดือน ก.ค. 2567
พรรคเพื่อไทยมีนโยบายจะผลักดัน “ค่าแรงขั้นต่ำ” ให้ไปอยู่ที่ 600 บาทต่อวัน ภายใน 4 ปี แต่ค่าแรงยัง “ต่วมเตี้ยม” ไม่ถึง 400 บาทถ้วนหน้า แล้วเวลารัฐบาลที่เหลืออีก 3 ปีกว่า จะทำให้ไปถึงเป้า 600 บาท ได้ตามที่หาเสียงไว้ได้หรือไม่ นี่คือคำถาม???
โฆษณา