สำรวจกองทุน B-BHARATA หลังตลาดหุ้นอินเดียทำ New High ยังน่าสนใจหรือรอก่อน ?
ภาพรวมตลาดหุ้นอินเดีย
ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ดัชนี S&P BSE SENSEX และ NIFTY50 ของ #ตลาดหุ้นอินเดีย ได้สร้างความใจฟูให้กับนักลงทุนด้วยการทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ และถ้านับตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้เป็นต้นมา ดัชนีให้ผลตอบแทน 1.95% และ 2.74% ตามลำดับ (ข้อมูล ณ สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2567)
แล้วเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลอย่างไรกับกองทุน B-BHARATA บ้าง ? บทความนี้ #BBLAM อัปเดตข้อมูลของกองทุนและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พร้อมเผยกลยุทธ์การลงทุนหลังตลาดหุ้นอินเดียทำ New High
สำรวจกองทุน B-BHARATA
การที่ตลาดหุ้นอินเดียสามารถทำ New High ได้ BBLAM มองว่าตลาดนี้ยังอยู่ในทิศทางดีต่อเนื่องจากปี 2023 ที่ให้ผลตอบแทน 18.7% และยังคงเป็นตลาดที่มีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง สะท้อนภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวและมีทิศทางเติบโต
โดยกองทุน RAMS Investment Unit Trust – India Equities Portfolio Fund II ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุน B-BHARATA ให้ผลตอบแทน 4.17% นับตั้งแต่ต้นปี 2024 เมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิงคือ MSCI India USD ที่ 5.91% (ข้อมูล ณ สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2567)
ในระยะสั้นนี้ กองทุนหลักของ B-BHARATA ยังคงมีทิศทางให้ผลตอบแทนต่ำกว่าดัชนีอ้างอิง เนื่องจาก 2 ปัจจัยด้วยกัน นั่นก็คือ (1) การปรับฐานของหุ้นขนาดกลางและเล็กในอินเดีย ซึ่งกองทุนหลักมีการลงทุนอยู่ในสัดส่วนราว 25% ในขณะที่ดัชนีอ้างอิงมีสัดส่วนของหุ้นขนาดกลางและเล็กแค่เล็กน้อย และ (2) การปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงานบางตัวที่รัฐบาลอินเดียเป็นเจ้าของ เนื่องจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งกองทุนหลักไม่ได้มีการลงทุนในส่วนนี้เอาไว้ครับ
สำหรับสัดส่วนการลงทุนรายอุตสาหกรรม ปัจจุบัน กองทุนหลักได้ปรับลดน้ำหนักกลุ่มพลังงาน ระบบสาธารณูปโภค และสินค้าอุปโภคบริโภคลง พร้อมกันนี้ก็ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มการเงิน สุขภาพ และสินค้าฟุ่มเฟือย เพื่อรองรับเศรษฐกิจอินเดียที่กำลังขยายตัวในอนาคต โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือกำลังซื้อของกลุ่มคนหนุ่มสาววัยแรงงานที่เป็นประชากรส่วนใหญ่
กองทุนหุ้นอินเดียยังน่าสนใจหรือรอก่อน ?
นักวิเคราะห์ของ Bloomberg คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียในปีนี้จะขยายตัว 7.5% ซึ่งมากกว่าปี 2023 ที่ระดับ 7.0% ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับลดลงมาอยู่ที่ 5.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 5.7% และแม้ว่าจะยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางอินเดียที่ 2.0% ถึง 6.0% แต่ก็ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยเป้าหมายที่ 4.0% ดังนั้น นักลงทุนก็น่าจะเห็นนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง รวมถึงลดอัตราดอกเบี้ยจากปัจจุบันที่ 6.5% ลงมาอยู่ที่ 6.0% ครับ
ทางด้าน BBLAM มองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียยังมีความน่าสนใจ โดยมีปัจจัยสนับสนุนระยะสั้น คือการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่เริ่มขึ้นช่วงเดือนเมษายนนี้ โดยนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของอินเดีย ที่มาจากพรรค BJP นั้นมีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เกิดความต่อเนื่องของนโยบาย
ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยสนับสนุนระยะยาว คือข้อขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตมายังอินเดีย ส่งผลให้เกิดเงินลงทุนไหลเข้าต่อเนื่อง
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมในประเทศยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ยารักษาโรคและโรงพยาบาล อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอื่น ๆ ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจอินเดียที่กำลังขยายตัว เมื่อประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้นก็จับจ่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย นักลงทุนก็ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และผลการเลือกตั้งที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนการปรับฐานของหุ้นขนาดกลางและเล็กที่กำลังกดดันผลตอบแทนให้ต่ำกว่าดัชนีอ้างอิงนั้น BBLAM มองว่าเป็นการปรับฐานบ้างจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและทิศทางของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ทำให้ส่งผลกระทบในระยะสั้น ๆ เท่านั้น
สนใจลงทุนตลาดหุ้นอินเดีย
นักลงทุนที่สนใจการลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย BBLAM ขอแนะนำกองทุน B-BHARATA ที่มีการกระจายการลงทุนทั้งในส่วนของหุ้นขนาดใหญ่ (ประมาณ 70%) และหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก (30%) ของอินเดีย โดยเน้นลงทุนในกิจการที่มีอัตราการเติบโตดี ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจและคาดว่าจะให้ผลตอบแทนเหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในภูมิภาคอื่น ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ BBLAM
👉 โทร. 0 2674 6488 กด 8
👉 เว็บไซต์ www.bblam.co.th หรือ https://www.bblam.co.th/search?query=B-BHARATA
👉 ลงทุนด้วยตนเองง่าย ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ หรือแอป BF Fund Trading จาก BBLAM ได้ที่ https://www.bblam.co.th/BFTTrade
คำเตือน : การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
#BBLAM #กองทุนบัวหลวง #BFFundTrading #MobileBanking #ธนาคารกรุงเทพ #BBHARATA #NewHigh
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
