Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Cashury
•
ติดตาม
26 เม.ย. 2024 เวลา 11:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เปลี่ยนบ้านเป็นเงินบำนาญ ด้วย “Reverse Mortgage” อีกหนึ่งทางเลือกของแหล่งรายได้คนวัยเกษียณ
ปัญหาหลักของผู้สูงอายุไทยที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน คือ มีเงินไม่พอเกษียณ ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจากการเริ่มเก็บเงินช้าเกินไป หรือบางคนก็เก็บเงินออมน้อยเกินไป จึงทำให้เงินที่เก็บออมหมดก่อน
ซึ่งปัญหานี้กลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทางภาครัฐเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้และได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งเพื่อเป็นอีกทางเลือกให้ผู้สูงอายุมีเงินใช้ในช่วงเกษียณ คือ “Reverse Mortgage” สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
ต้องเกริ่นก่อนว่า Reverse Mortgage ถือเป็นหนึ่งในทางออกที่ช่วยให้ผู้สูงอายุที่ขาดแหล่งรายได้มีไว้เงินใช้จ่ายยามเกษียณ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะยังไม่ค่อยได้ยินชื่อสินเชื่อรูปแบบนี้สักเท่าไหร่ เพราะในปัจจุบันมีเพียง 2 ธนาคารที่ให้บริการ คือ ธนาคารออมสิน และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “Reverse Mortgage” ให้มากยิ่งขึ้น สินเชื่อนี้จะน่าสนใจ ช่วยให้มีเงินบำนาญใช้ตอนเกษียณอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง ตามมาอ่านต่อกัน!
“Reverse Mortgage” หรือสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
คือ รูปแบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบย้อนกลับ โดยเราเอาที่อยู่อาศัยไปจำนองไว้กับธนาคาร ธนาคารจะให้กู้ยืมและจ่ายเงินเป็นรายเดือนให้ ในระหว่างที่กู้อยู่นั้นผู้กู้ก็ยังมีบ้านอยู่อาศัยเหมือนเดิม เมื่อครบกำหนดงวดสุดท้าย บ้านก็จะตกเป็นของธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารก็จะเอาไปขายทอดตลาด
สรุปสั้นๆ ได้ว่า เป็นการเปลี่ยนบ้านเป็นเงินไว้ใช้ตอนเกษียณ โดยเราเอาบ้านไปจำนองกับธนาคาร แล้วธนาคารจะจ่ายเงินให้เราทุกเดือน เสมือนว่าธนาคารเป็นผู้ซื้อบ้านและเราทยอยขายบ้านให้ ต่างจากการจำนองแบบปกติที่เราเอาทรัพย์สินที่มีไปค้ำประกัน แล้วทุกเดือนก็นำเงินมาผ่อนคืนธนาคารพร้อมอัตราดอกเบี้ยตามที่กำหนด
จากที่ไปศึกษาข้อมูล Reverse Mortgage ของธนาคารออมสินและธนาคารอาคารสงเคราะห์ สรุปข้อมูลสำคัญได้ดังนี้
- วงเงินกู้ที่อนุมัติสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินให้วงเงินกู้อยู่ที่ 60-70% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ ส่วนธอส ให้ 50% ของราคาประเมินหลักทรัพย์
- อัตราดอกเบี้ยของธนาคารออมสินจะคิดแบบ Float Rate โดยอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา (EIR) อยู่ระหว่าง 4.24 - 4.39% ต่อปี ส่วนธอส คิดแบบ Fix Rate ที่ 6.25% ต่อปี ตลอดอายุสัญญากู้เงิน
- ระยะเวลาชำระเงินกู้ สูงสุดไม่เกิน 25 ปี โดยอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาขอกู้ต้องไม่เกิน 85 ปี
ในกรณีที่ครบกำหนดแล้วและผู้กู้ยังมีชีวิต ก็สามารถขอกู้เงินเพิ่มเติม เพื่อเป็นรายได้ต่อไป โดยวงเงินและระยะเวลากู้เพิ่มขึ้นอยู่กับธนาคารพิจารณา หรือจะขอไถ่ถอนจำนองคืนก็ได้เช่นกัน โดยชำระเงินต้นรวมกับดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอื่นๆ
หรือ หากผู้กู้เสียชีวิต ก็มีทางเลือกให้กับทายาท 2 ทางเลือก คือ
- ทายาทนำเงินมาชำระหนี้เพื่อไถ่บ้านคืน
- ทายาทไม่นำเงินมาปิดบัญชี ธนาคารจะนำบ้านไปขายทอดตลาด หากขายได้สูงกว่ายอดหนี้ก็จะคืนส่วนต่างให้กับทายาท แตถ้าขายได้ต่ำกว่ายอดหนี้ธนาคารจะรับผิดชอบส่วนต่างเองทั้งหมด
Reverse Mortgage เหมาะกับใคร
- ผู้สูงอายุที่ไม่มีเงินบำเหน็จ บำนาญ หรือกองทุนเลี้ยงชีพชราภาพ หรือมีเงินไม่เพียงพอ
- คนโสด ไม่มีลูกหลานหรือครอบครัวใหญ่ มีบ้านเป็นของตนเองแต่ไม่ต้องการส่งต่อมรดกให้คนอื่น
- อยากมีรายได้เป็นรายเดือน ไว้ใช้จ่ายประจำวันตอนเกษียณ
- อยากเสริมสภาพคล่องทางการเงินตอนเกษียณ
คุณสมบัติผู้กู้ Reverse Mortgage
- บุคคลธรรมดา สัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 60 ปี แต่ไม่เกิน 80 ปี
- ต้องไม่เป็นผู้ไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
- มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยที่ปลอดภาระจำนอง
ในความเห็นส่วนตัว มองว่าเป็นสินเชื่อที่เหมาะกับผู้สูงอายุบางกลุ่มเท่านั้น (อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน) และอยากให้เป็นทางเลือกท้ายๆ สำหรับเป็นแหล่งรายได้ในวัยเกษียณ เนื่องจากมีเงื่อนไข ความเสี่ยง และข้อจำกัดเฉพาะ ดังนั้นคนที่สนใจอย่าลืมศึกษาและทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจนะ
นอกจากนี้ อีกประเด็นที่ต้องระวัง คือ ระยะเวลาสัญญาจะสิ้นสุดที่อายุ 85 ปี ดังนั้นถ้าใครที่คิดว่าตัวเองน่าจะมีอายุยืนยาวมากกว่าอายุ 85 ปี ก็อาจจะต้องเตรียมแผนหลังจากนี้เผื่อไว้ด้วย ทั้งเรื่องแหล่งรายได้และที่อยู่อาศัยหลังจากที่อายุ 85 ปี จะจัดการอย่างไรต่อไป
วางแผนการเงิน
การเงิน
การลงทุน
1 บันทึก
4
3
1
4
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย