Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Eat . Pray . Live
•
ติดตาม
29 เม.ย. 2024 เวลา 15:08 • หนังสือ
นักประพันธ์…วันวาน
‘ศุภร บุนนาค’ เป็นทั้งนามปากกาและชื่อจริง นามสกุลจริงของคุณศุภร (ศิวะศริยานนท์) บุนนาค เกิดในปี พ.ศ. 2464 ในช่วงต้นรัชสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นธิดาของศาสตราจารย์ พระวรเวทย์พิสิฐ เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนเสาวภา โรงเรียนสตรีวิทยา โรงเรียนราชินี เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่หนึ่ง และจบปริญญาตรีอักษรศาสตร์บัณทิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เนื่องจากเป็นคนสนใจทางด้านร้อยกรองทั้งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน มาตั้งแต่เด็ก ทำให้ท่านรักการอ่านการเขียน เริ่มเขียนผลงานชิ้นแรกขึ้น เป็นงานเขียนเรื่องสั้นชื่อ ‘ผ้าไหมผืนใหม่’ ตามมาด้วยเรื่องสั้นเรื่องที่สอง ‘วลัยกรมรกต’ ทั้งสองเรื่องได้ลงพิมพ์ใน ‘โฆษณาสาร’ ที่คุณชอุ่ม ปัญจพรรค์ เป็นบรรณาธิการ ในปี พ.ศ. 2493 ทำให้นามปากกา ‘ศุภร บุนนาค’ เริ่มเป็นที่รู้จัก และมีผลงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
‘ศุภร บุนนาค’ มีผลงานการประพันธ์ไม่มากนัก มีนวนิยายเรื่องยาวเพียงแค่ 10 เรื่อง แต่ทุกเรื่องเป็นที่ชื่นชอบของนักอ่าน ได้รับความนิยมตลอดมา นวนิยายเรื่องยาวเรื่องแรกของท่าน คือ ‘ปาริชาติลวง’ พิมพ์ขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2497 และ ‘ขอบฟ้าฤาจะกั้น’ คือนวนิยายเรื่องสุดท้ายในปี พ.ศ.2516
‘รถเมล์สายพระพุทธบาท’ เป็นอีกหนึ่งผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับท่าน งานเขียนชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์รวมเล่มเป็นครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2510 เรื่องราวของหญิงสาวสวยแปลกตาชื่อ ลำเพาพักตร์ ผู้มีชีวิตปากกัดตีนถีบ ขายของอยู่ริมถนนแถวสระบุรี จนวันหนึ่ง…จับพลัดจับผลูได้มาเป็นภรรยาของผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง ทำให้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
บุตรสาวของท่าน คือดร. คุณหญิงสุริยา รัตนกุล ได้เคยเขียนถึงวิธีการประพันธ์ของมารดาเอาไว้ว่า ‘คุณแม่ไม่เคยนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงไปเป็นเค้าโครงนวนิยายที่ท่านแต่งเลย แต่คุณแม่ชอบวาดภาพสร้างนวนิยายของท่านขึ้นในบรรยากาศที่ท่านคุ้นเคย
วิธีหาโครงเรื่องเขียนนวนิยายอีกอย่างหนึ่งซึ่งข้าพเจ้าสังเกตได้ว่าคุณแม่ชอบมาก ซึ่งท่านอาจจะมิได้รู้ตัวและจงใจกระทำก็คือ ท่านชอบได้แรงบันดาลใจจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ ซึ่งท่านจับมาเป็นจุดเริ่มต้นของจินตนาการของท่าน แต่เมื่อท่านได้แรงบันดาลใจนั้นแล้ว ท่านก็ไม่ได้ติดตามหาเค้าเรื่องจากของจริงอีกเลย เค้าเรื่องนวนิยายของท่านทั้งหมดออกมาจากจินตนาการของท่านทั้งสิ้น
ตัวอย่างที่ดีที่สุดในเรื่องนี้เห็นจะได้แก่ นวนิยายเรื่อง ‘รถเมล์สายพระพุทธบาท’ มูลเหตุที่นวนิยายเรื่องนี้จะมีชีวิตขึ้นก็คือ ในวันสุดสัปดาห์วันหนึ่งราว พ.ศ. 2507 - 2508 ครอบครัวเราพากันขับรถเที่ยวนอกเมืองตามที่เคยปฏิบัติมาเสมอ วันนั้นตกลงกันว่าจะไปนมัสการพระพุทธบาท เพราะคุณแม่บ่นว่าน่าเสียดายเหลือเกิน อยู่มาจนอายุป่านนี้แล้วยังไม่เคยไปพระพุทธบาทเลย
เมื่อไปถึงสระบุรีเป็นเวลาประมาณเที่ยง เราจอดรถลงที่ร้านโกโรโกโสข้างทาง เพื่อซื้อน้ำอัดลมไปสมทบกับอาหารปิกนิกที่คุณแม่เตรียมไป เมื่อรถจอดลงพวกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ ตั้งหน้าแต่จะซื้อของเพื่อไปเที่ยวต่อไปเท่านั้น
แต่สายตาช่างสังเกตของคุณแม่แลไปพบหญิงสาวงามหน้าตาประหลาด ผมแดงสุกก่ำ ตาสีเขียวมรกต ผิวสีน้ำตาลแดง เดินร่อนขายไก่ย่างอยู่ที่ท่ารถเมล์ เห็นเพียงแว่บเดียวเท่านั้นเอง คุณพ่อก็เข้าเกียร์รถเพื่อนำรถต่อไปยังพระพุทธบาท แว่บเดียวที่คุณแม่ได้เห็น ได้จุดประกายจินตนาการของท่านให้รุ่งโรจน์ขึ้น และแล้ว ‘อีเพา’ หรือ ‘คุณหญิงลำเพาพักตร์’ ก็ได้มีชีวิตขึ้นใน ‘รถเมล์สายพระพุทธบาท’ ด้วยเหตุนี้
คุณแม่ไม่เคยลงจากรถไปไต่ถามเรื่องราวของหญิงสาวผมแดง หน้าตาประหลาดคนนั้นเลย ชีวิตที่แท้จริงของเธอจะเป็นอย่างไรท่านก็ไม่ทราบ ท่านได้พบเธอเพียงชั่วเวลาไม่กี่นาที แต่เธอก็จุดจินตนาการของท่านขึ้นเพราะความหน้าตาแปลก มาอยู่ในสถานที่แปลกไม่เหมาะกับเนื้อตัวผิวพรรณของเธอ
อย่าลืมว่านั่นเป็นเวลาเกือบสิบกว่าปีมาแล้ว ก่อนสมัยทหารอเมริกันพลุกพล่าน ก่อนสมัยบาร์เต็มไปด้วยสาวบริการผุดขึ้นทุกหัวระแหง น่าสงสัยว่าถ้าคุณแม่ยังมีชีวิตอยู่เดินทางไปเที่ยวสระบุรีในระหว่างนี้แล้ว พบใครหน้าตาเหมือนแม่ลำเพาพักตร์ของท่านเข้า ท่านอาจจะไม่เกิดแรงบันดาลใจอะไรเลยก็ได้’ *
ครั้งหนึ่ง…คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ หรือ ‘ทมยันตี’ เคยให้สัมภาษณ์ว่าท่านชอบนวนิยายเรื่อง ‘รถเมล์สายพระพุทธบาท’ เป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้ท่านอยากเขียนหนังสือ
‘พงศกร’ นักเขียนที่เป็นที่รู้จักกันดีอีกท่านหนึ่ง เคยเขียนไว้ในบทความ แสดงความคิดเห็นถึงผลงานของ ‘ศุภร บุนนาค’ เอาไว้ว่า ‘นวนิยายของคุณศุภรนั้น มีความโดดเด่นในเรื่องของเนื้อหา ภาษา และสารัตถะ ‘ และ ‘นิยายของคุณศุภรไม่เหมาะกับการอ่านรวดเดียวจบ แต่เป็นนวนิยายที่ต้องละเลียดอ่าน เพราะมีความละมุนละไมสูง’ **
ความข้อนี้ของคุณหมอพงศกร เป็นความจริงแท้และแน่นอน เพราะตลอดเวลาที่อ่านงานเขียนของ ‘ศุภร บุนนาค’ นั้น คนเขียนมีความรู้สึกไม่ต่างไปจากการอ่านงานเขียนของ Jane Austen ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความโบร่ำโบราณของการใช้ภาษา ในขณะเดียวกันก็มีละเมียดละไมในระหว่างบรรทัด ซึ่งต้องใช้ความตั้งใจในการอ่าน เพราะวิธีการเขียนของ ‘ศุภร บุนนาค’ นั้น ออกจะแตกต่างจากนักประพันธ์ท่านอื่นๆอยู่บ้าง
วันนี้…29 เมษายน เป็นวันคล้ายวันเกิดของ ‘ศุภร บุนนาค’ เมื่อปี พ.ศ. 2464 เลยขอนำประวัติชีวิตและผลงานการประพันธ์ของท่าน ที่มีความละมุน ละเมียดละไมในสำนวนและภาษาตามแบบฉบับวรรณกรรมยุคคลาสสิก
มานำเสนอกันในวันนี้…ด้วยความเคารพและศรัทธา
………………………
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย