5 พ.ค. เวลา 02:00 • ไลฟ์สไตล์

CASA LAPIN Flagship Store รีโนเวตพื้นที่โรงเรียนเก่าสู่คาเฟ่ไวบ์ดีย่านเจริญนคร

คาเฟ่สัญลักษณ์รูปกระต่ายหูยาวสาขาที่ 28 กับความพิเศษด้านโลเคชั่น เอาใจคอกาแฟ Specialty Coffee ชาวธนบุรี ภายในโครงการ OURS คอมมูนิตี้ย่านเจริญนคร กับพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 600 ตารางเมตร เกิดขึ้นจากการรีโนเวตพื้นที่อาคารโรงเรียนเก่าให้กลายเป็นพื้นที่ที่มอบประสบการณ์การพักผ่อน แบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายโซนเพื่อเติมเต็มสุนทรียภาพแห่งความสุขและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เป็นได้มากกว่าแค่สถานที่ดื่มกาแฟชิล ๆ อย่างเดียว แต่ยังสามารถมาแฮ้งเอ๊าต์ และนั่งทำงานได้
ออกแบบโดยสตูดิโอ VILAA ซึ่งเคยฝากผลงานกับคาซ่า ลาแปง มาแล้วหลายสาขา การออกแบบครั้งนี้มาพร้อมความท้าทายเพราะต้องปรับปรุงอาคารเรียนเก่าที่มีสภาพโครงสร้างทรุดโทรมให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ภายใต้โจทย์การใช้งานใหม่ที่ทั้งผู้ออกแบบและเจ้าของคาเฟ่ต่างเห็นพ้องกันว่า ต้องการเก็บโครงสร้างอาคารเก่าพร้อมกับโชว์วัสดุดั้งเดิมของที่นี่ ผสมกับวัสดุที่สื่อถึงความทันสมัย เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานพื้นที่ที่หลากหลาย
ด้านหน้าทักทายด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ที่โครงการเก็บรักษาไว้ จากภายนอกมองเข้าไปเห็นกิจกรรมภายในผ่านผนังกระจกใสขนาดใหญ่ที่ตั้งใจสร้างความปลอดโปร่งและเป็นผลลัพธ์ด้านมุมมอง ทันทีที่เข้ามาจะเจอกับเคาน์เตอร์บาร์ขนาดยาว 9 เมตร วางตัวตามความยาวของสแปนเสา (Span) เสมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เว้นระยะความสูงไม่ให้ชนกับฝ้า เพื่อโชว์โครงสร้างของคานและพื้นไม้เดิมของชั้น 2 ด้านบน
ตัวเคาน์เตอร์ใช้สีสเตนเลสมาผสมผสานให้ดูโดดเด่น สะท้อนแนวคิดการนำความเป็นสมัยใหม่มาผสมกับความเก่าของอาคาร พื้นที่หน้าเคาน์เตอร์เจาะพื้นชั้น 2 ออก เพื่อทำดับเบิลสเปซเชื่อมมุมมอง และช่วยให้บรรยากาศชั้นล่างปลอดโปร่งขึ้น
เนื่องจากเป็นโรงเรียนเก่า มีส่วนที่เป็นห้องน้ำอยู่หลังพื้นที่ที่วางเคาน์เตอร์บาร์ ผู้ออกแบบอยากให้พื้นที่ตรงนี้ดูเคลียร์ และซ่อนฟังก์ชันที่ไม่สวยไว้ข้างหลัง จึงออกแบบให้ด้านหลังสำหรับเก็บของและล้างอุปกรณ์ทำกาแฟ แบ่งพื้นที่ครึ่งหนึ่งเป็นก้อนสีขาวสำหรับวางสินค้า โชว์เมล็ด และติดโลโก้หูกระต่ายสีขาว บนเคาน์เตอร์แบ่งเป็นโซนสปีดบาร์อยู่ทางขวา
มองเห็นว่ามีเครื่องเอสเปรสโซตั้งอยู่ ส่วนทางซ้ายเป็นก้อนปูนมีโลหะครอบอยู่สำหรับเป็นส่วนของสโลว์บาร์เพื่อให้ตรงนี้ดูเด่นขึ้นมา แถมยังรับกับตัวฉากหลังที่เป็นก้อนสีขาว โดยพื้นที่สโลบาร์นี้สามารถปรับให้เวลากลางคืนกลายเป็นบู๊ธดีเจ ส่วนอาหารจะปรุงที่ครัวที่ซ่อนอยู่ด้านหลังอีกทีหนึ่ง
นอกจากกาแฟยังมีเบเกอรี่ สังเกตด้านซ้ายมือจะมีก้อนที่เป็นไม้อยู่ สำหรับเป็นครัวทำเบเกอรี่ซึ่งเป็นไลน์ใหม่เพิ่มขึ้นมา โซนนี้ใช้ผนังไม้อัดมีการเจาะช่องเพื่อให้มองเห็นนักทำขนมอยู่ภายใน ส่วนนี้ไม่ได้วางตามกริดของอาคารอย่างเดียว แต่มีการยื่นทะลุออกมาข้างนอก โดยใช้ส่วนที่ยื่นออกไปนี้เป็นฉากหลังสำหรับติดโลโก้หูกระต่ายสีขาวเพื่อเป็นจุดสังเกตให้แก่ลูกค้า
อีกโซนที่เป็นจุดเด่น และสร้างสีสันสนุก ๆ นั่นคือร้านคุกกี้สไตล์อเมริกันชื่อ Crunchhh ธีมอเมริกันยุค 50’s จากที่สาขาอื่น ๆเคยปูกระเบื้องพื้นสีแดง สำหรับที่นี่เพื่อไม่ให้ตัดขาดจากโซนอื่นเกินไป จึงยังคงให้เป็นพื้นเดิมแต่เปลี่ยนสีแดงให้อยู่ที่ฝ้าแทน เพื่อไม่ให้มองเห็นฝ้าพื้นไม้ คงภาษาที่มีความเป็นอเมริกัน ส่วนผนังบางส่วนที่มีความไม่เนี้ยบก็ยังคงเก็บไว้ แล้วใส่โลโก้ให้รู้ว่านี่เป็นอีกโซนหนึ่ง ร่วมกับการใช้วัสดุอย่างสเตนเลสดูต่อเนื่องกันกับเคาน์เตอร์บาร์ที่อยู่ด้านนอก
ขึ้นชั้น 2 จากตัวบันไดด้านนอก ผ่านระเบียงทางเดินด้านนอก ก่อนแจกจ่ายไปยังโซนพื้นที่ด้านใน โซนแรกที่เข้าถึงนั่นคือโซนโคเวิร์กกิ้งสเปซ เชื่อมมุมมองจากข้างล่างผ่านโถงดับเบิลสเปซ พื้นที่โซนนี้ดีไซน์ตัวโต๊ะเข้าไปเสียบอยู่กับเสาตรงกลาง ใช้ทั้งนั่งทำงาน หรือจะจัดเป็นพื้นที่คับปิ้งสอนการชงกาแฟก็ได้
เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ใช้โต๊ะและเก้าอี้แบบลอยตัวสไตล์มิดเซนจูรี่ นั่งได้ยาว ๆ ต่างจากชั้นล่างที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ทรงลูกบาศก์ออกแบบเองสำหรับนั่งคนเดียว โดยส่วนใหญ่จะอยู่ตรงหน้าบาร์ แต่สำหรับชั้น 2 ตั้งใจให้เป็นที่นั่งแบบนั่งได้นาน ๆ
ดึงบรรยากาศภายนอกเข้ามาด้วยการทุบผนัง หรือหน้าต่างบางส่วนออกไป เพื่อให้ฟังก์ชันทะลุหากันได้ ชั้นนี้จึงมีส่วนของช่องต่าง ๆ ที่เจาะเพิ่มเยอะขึ้น อาทิ การเจาะช่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสให้มองทะลุพื้นที่ต่าง ๆ โดยตัวผนังเดิมยังคงไว้ แล้วทำผนังใหม่ซ้อนทับด้านหน้าอีกที โดยใช้สีพ่นให้เกิดผิวที่มีเท็กซ์เจอร์ เพื่อบอกเล่าว่านี่เป็นวัสดุใหม่
ผนังใหม่ที่ว่าจะอยู่หน้าผนังเดิมแต่ไม่ยาวลงไปถึงพื้น เพื่อให้ยังคเห็นผนังเก่า แล้วซ่อนไฟให้มองเห็นความแตกต่างของผนังว่ามีสองเลเยอร์ ส่งนด้านบนโชว์คานไม้ที่เป็นรูปจั่วพ่นเป็นสีดำเช่นเดียวกับใต้หลังคา
ออกแบบไลท์ติ้งให้มีทั้งแบบห้อยลงมาจากตัวโครงสร้างเดิม และใช้ไฟให้ส่องขึ้นไปด้านบนอีกชุดหนึ่ง และส่องลงมาที่ด้านล่างเป็นฟังก์ชันอีกชุดหนึ่ง เปิด-ปิดได้ตามฟังก์ชัน หากปรับเป็นบาร์ตอนกลางคืนก็ปรับให้ไฟส่องขึ้นข้างบนเพียงอย่างเดียว ร่วมกับโคมไฟตั้งโต๊ะมาตั้งแทนในแต่ละจุด
ใครที่เคยไปคาซ่า ลาแปง สาขาอื่น ๆ จะพบว่า แต่ละสาขามีบรรยากาศที่ไม่เหมือนกันเลย เป็นความสนุกในการหยิบความพิเศษของพื้นที่มาเล่าเรื่องราว สำหรับสาขานี้ลูกค้าจะได้พบเห็นประสบการณ์การใช้งานผ่านสเปซซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุด พร้อมการออกแบบที่พยายามใช้สเปซของเดิม อย่างการใช้ประโยชน์ของ Long Span ที่ไม่ค่อยได้พบเจอในอาคารลักษณะนี้
เหนืออื่นใดคือการผสมของเก่ากับใหม่ให้มีความคอนทราสต์กันชัดเจน เพื่อแสดงให้เห็นและรับรู้ว่าแต่ก่อนที่นี่เคยเป็นอะไรมาก่อน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของการรีโนเวตอาคารเก่าที่ผู้ออกแบบมองเห็น
ที่ตั้ง
อยู่ภายในโครงการ OURS ซอยเจริญนคร 10 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
โทร. 06-1029-8951
เปิดวันอาทิตย์ - พฤหัสบดี เวลา 9.00 - 20.00 น. และวันศุกร์ - เสาร์ เวลา 9.00 - 22.00 น.
ออกแบบ-ตกแต่ง: ฐิติ พนาจรัส, ธันยวัต ชิตเพิ่ม และสุชัญญา เดชะรักษา จาก สตูดิโอ VILAA (https://www.facebook.com/studiovilaa)
ภาพ: PanoramicStudio
เรื่อง: Phattaraphon
คลังสาระความรู้เรื่องบ้านและพรรณไม้ยังมีอีกมากมาย อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ www.baanlaesuan.com
โฆษณา