6 พ.ค. 2024 เวลา 06:19 • หนังสือ

ตอนที่ 5

ภารกิจขุดหลุมส้วมห้าสิบหลุมจบลง อิ๋นเอ๋อร์ก็กลับกระโจมแล้วหลับเหมือนคนตาย
นางเหนื่อยจนวิญญาณแทบออกจากร่าง ปวดไปทั้งเนื้อทั้งตัว ไหนจะฝ่ามือที่พองจนเป็นแผลอีก ดีหน่อยที่ซวงเอ๋อร์ไปขอยาทาสมานแผลจากแพทย์ทหารมาประคบให้ อีกทั้งสมุนไพรต้มคลายปวด ทำให้นางรู้สึกไม่ทรมานจนเกินนัก
แม้จะรู้สึกเมื่อยขบไปทั้งตัว แต่พอถึงเช้าอีกวัน อิ๋นเอ๋อร์ก็ยังคงทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่ปริปากบ่น นางเก็บขี้วัวใส่ถังไม้นำไปทิ้งอย่างกระฉับกระเฉง ไม่มีท่าทีเหมือนคุณหนูในห้องหอเลยแม้แต่น้อย
แม่ทัพเหล่ยหลางรู้สึกแปลกใจมาก เมื่อส่งคนไปสอดแนมว่านางอู้งานหรือให้คนทำแทนหรือไม่ แต่สิ่งที่เขาได้รับรายงานคือ นางตั้งใจเก็บขี้วัวในคอกล้อมไปทิ้งจนสะอาดเอี่ยม หลุมห้าสิบหลุม นางก็เป็นคนขุดเองจนเสร็จ ไม่ให้ใครยื่นมือเข้าไปช่วยแม้แต่นิดเดียว
นางเปลี่ยนไปมากจริงๆ
แม่ทัพเหล่ยหลางรู้สึกแปลกใจ ไม่คิดว่าสตรีบอบบางและเจ้าสำอางเช่นนั้น จะทำทุกอย่างที่เขาสั่งได้เพียงคนเดียว เกิดอะไรขึ้นกับนางกันแน่
ขณะที่คิดถึงเรื่องอิ๋นเอ๋อร์ ทหารม้าก็เข้ามารายงานในเรื่องที่เขาให้ไปสืบ
"ท่านแม่ทัพ ได้รับรายงานมาว่าแคว้นฉินจะส่งทหารเข้าโจมตีค่ายของเรา ในรูปแบบกองโจรขอรับ"
แม่ทัพเหล่ยหลางได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลง ก่อนออกคำสั่งเสียงเข้ม "สั่งทหารวางเวรยามอย่างเข้มงวด จัดหน่วยซุ่มโจมตีให้พร้อม เราจะตั้งรับด้วยวิธีที่แยบยลที่สุด โดยไม่ให้ฝ่ายนั้นรู้ตัว"
"ขอรับ" ทหารม้าก้มหน้ารับคำสั่ง ก่อนแม่ทัพหนุ่มจะนึกขึ้นได้แล้วออกคำสั่งอีกครั้ง
"ส่งทหารห้านาย คุ้มกันฮูหยินที่กระโจม วางเวรยามแถวนั้นมากขึ้น หากมีคนแปลกหน้าลักลอบเข้าไปให้สังหารซะ"
แล้วคืนนั้นที่กระโจมของอิ๋นเอ๋อร์ก็มีทหารห้านายวางเวรยามสลับสับเปลี่ยนกันอย่างเคร่งครัด นางรู้สึกสงสัยจึงให้ซวงเอ๋อร์ไปถาม ว่าเหตุใดหน้ากระโจมของนางจึงมีทหารคุ้มกันอยู่ด้านนอกเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีทหารอีกห้านายคุ้มกันอย่างใกล้ชิดหน้ากระโจม ราวกับกำลังจะมีอันตรายเกิดขึ้น
"ถามแล้วไม่มีผู้ใดตอบเลยเจ้าค่ะ พวกเขาบอกแค่ว่าเป็นคำสั่งของท่านแม่ทัพ" ซวงเอ๋อร์กลับมารายงานคุณหนูของนาง อิ๋นเอ๋อร์รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก นางหรี่ตาลงก่อนเอ่ยขึ้น
"ไปที่กระโจมท่านแม่ทัพ ข้าต้องการทราบเรื่องนี้จากปากของเขา" เพราะหากให้ทหารพูดเอง คงไม่มีทางรู้แน่ บางทีที่นี่อาจจะมีการซุ่มโจมตี แม่ทัพเหล่ยหลางจึงต้องเฝ้าระวังเช่นนี้
"จะดีหรือเจ้าคะ เดี๋ยวท่านแม่ทัพจะหาว่าเป็นสตรี ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการทหาร"
"เจ้าไม่ไปก็อยู่ที่นี่ แต่ข้าต้องการรู้เอาไว้ จะได้เตรียมแผนการรับมือได้" อิ๋นเอ๋อร์เอ่ย ซวงเอ๋อร์ได้แต่คิดว่าถึงคุณหนูของนางรู้ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ สู้อยู่ที่กระโจมในความคุ้มครองของทหารไม่ดีกว่าหรือ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าขัดความต้องการของผู้เป็นนายอยู่ดี
"ท่านแม่ทัพ ฮูหยินมาขอเข้าพบขอรับ"
คำรายงานของทหารทำให้แม่ทัพเหล่ยหลางรู้สึกไม่ค่อยชอบใจ เขาคิดว่านางอาจจะต้องการมาที่นี่เพื่อยั่วยวนเขาเหมือนเช่นที่ผ่านมา คิดไว้ไม่มีผิด คุณหนูอิ๋นเอ๋อร์ที่น่ารำคาญก็ยังเป็นคุณหนูคนเดิมอยู่ดี ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนนิสัยนางได้
"ไล่นางกลับไป" เขาออกคำสั่งโดยไม่คิดลังเล หากให้นางเข้ามาที่นี่ ทั้งกระโจมคงเต็มไปด้วยอากาศที่เป็นพิษ ไม่รู้ว่านางมีแผนการใดที่จะเข้าหาเขาอีก
"ขอรับ" ทหารเฝ้ายามรับคำสั่งในทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวออกนอกกระโจม ร่างบอบบางของฮูหยินแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นก็ก้าวเข้ามาด้านในเสียแล้ว
"ข้าภรรยาแค่ต้องการพบสามีแค่นี้ ถึงกับต้องขับไล่กันเลยหรือ" นางก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าเขา
"ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา!" เสียงห้วนดุดันเอ่ยถาม
"ข้าเข้ามาเอง ไม่มีใครอนุญาต" อิ๋นเอ๋อร์สบตากับแม่ทัพหนุ่มอย่างไม่คิดเกรงกลัว หากยิ่งกลัวเขาก็ยิ่งได้ใจน่ะสิ นางควรใช้สิทธิ์ในฐานะฮูหยินแม่ทัพเสียบ้าง ไม่ใช่ให้เขาออกคำสั่งอยู่แต่ฝ่ายเดียว
"มีธุระอะไร รีบๆ พูดแล้วกลับไปซะ"
อิ๋นเอ๋อร์เห็นเขาไล่ตั้งแต่ยังไม่ได้เอ่ยปากถึงเรื่องที่จะพูด ซ้ำยังหันหลังให้ราวไม่อยากเห็นหน้านาง ดวงตากลมโตก็กลอกขึ้นมองบนด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ ก่อนจะเอ่ยถาม
"ที่นี่กำลังจะถูกซุ่มโจมตีใช่หรือไม่ ท่านถึงส่งทหารไปคุ้มกันที่หน้ากระโจมของข้า แล้วห่างออกไปโดยรอบยังมีทหารเวรยามเพิ่มขึ้นอีกตั้งมากมาย"
คำถามของนางทำให้กายสูงองอาจหันมามองใบหน้างดงามนั้นด้วยความประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าสตรีโง่งมที่วันๆ จ้องแต่จะจับผู้ชาย จะรู้จักสังเกตถึงความผิดปกติและเดาเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำเช่นนี้ เพราะหากเป็นเมื่อก่อน นางคงเข้าใจผิดว่าเขาเป็นห่วงนางมากจึงส่งทหารไปคุ้มกันนางเช่นนั้น
คิ้วเข้มพาดเฉียงกระตุกเข้าหากันเล็กน้อย เขาจับจ้องสตรีตรงหน้าอย่างต้องการค้นหา เดิมทีคิดว่านางมาหาถึงที่กระโจมเพื่อต้องการยั่วยวน แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น น่าแปลกใจ น่าแปลกใจยิ่งนัก
"เจ้ารู้ได้อย่างไร"
"คนโง่เท่านั้นที่ไม่รู้ แค่ข้าเห็นท่านเพิ่มกำลังทหาร ข้าก็พอรู้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วนั่นไม่สำคัญเท่าท่านควรบอกข้า เพื่อข้าจะได้ระวังตัวแล้วหาวิธีรับมือ ไม่ใช่ปล่อยให้ไม่รู้อะไรเลยในยามมีภัยเช่นนี้"
"หึ" แม่ทัพเหล่ยหลางมองนางอย่างดูแคลน "สตรีโง่งมเช่นเจ้า รู้ไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้ อยู่ในกระโจมแล้วไม่สร้างปัญหาให้ข้า ก็นับว่าดีเท่าไหร่แล้ว"
ได้ยินคำดูถูกของอีกฝ่าย อิ๋นเอ๋อร์ก็รู้สึกโมโหไม่น้อย นางไม่คิดว่าบุรุษในยุคโบราณ จะมองสตรีเพศไร้ประโยชน์ถึงเพียงนี้
"ท่านดูถูกข้ามากเกินไป ถึงข้าจะเป็นสตรี ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ขนาดนั้น" อิ๋นเอ๋อร์เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกไม่พอใจ แม่ทัพเหล่ยหลางกระตุกยิ้มหยัน
"หึ มีอะไรที่ข้าดูเจ้าผิดบ้าง สตรีเช่นเจ้าจะมีปัญญาที่ไหนจัดการกับกลุ่มคนร้าย หากบอกว่าเป็นภาระ นั่นถึงจะถูกต้อง"
อิ๋นเอ๋อร์มองแม่ทัพหนุ่มด้วยความรู้สึกเจ็บใจ นางกำลังจะเถียงกลับ แต่ยังไม่ได้เอ่ยปากก็มีเงาร่างหนึ่งกระโจนเข้ามา ก่อนเงาดำนั้นจะเพิ่มจำนวนขึ้นนับสิบ ทหารที่อยู่ในกระโจมมีเพียงไม่กี่นาย พริบตาเดียวก็ถูกชายชุดดำซัดฝ่ามือเข้าใส่จนล้มลง
"หลบไป!" แม่ทัพเหล่ยหลางออกคำสั่งให้นางกับซวงเอ๋อร์เข้าไปหลบในกระโจมด้านใน แต่ชายชุดดำก็ล้อมเขากับนางเอาไว้ ทั้งสองฝั่งประจันหน้ากันโดยที่ชายชุดดำนับสิบจับจ้องมาที่ฮูหยินแม่ทัพ พวกมันคิดว่าหากจับนางเป็นตัวประกันก็จะสามารถจัดการกับแม่ทัพหนุ่มได้ เพราะหากในสถานการณ์ปกติ ก็ยากที่จะเข้าประชิดตัวเขา
แต่พวกมันคิดผิดอย่างมหันต์
"ข้าบอกให้หลบไป!" เมื่อเห็นนางยังยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ไม่คิดกลัว เขาก็ออกคำสั่งให้นางถอยไป เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายได้ ถึงเขาจะไม่ชอบหน้านางแต่ก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดให้นางต้องมาจบชีวิตโดยไม่จำเป็นเช่นนี้
"ไม่! สู้ย่อมดีกว่าหนี" อิ๋นเอ๋อร์ยืนกรานหนักแน่น
"เจ้าจะทำอะไรได้ ข้าบอกให้หลบไป ไม่ได้ยินหรือ" แม่ทัพหนุ่มเอ่ยด้วยความโมโห แต่นางกลับหันมามองเขาด้วยสีหน้าและแววตาอันเด็ดเดี่ยว
"เดี๋ยวท่านก็รู้ ว่าสตรีเช่นข้าจะทำอะไรพวกมันได้บ้าง" นางจะลบคำสบประมาทของเขาเอง
เอ่ยจบร่างบอบบางก็ตั้งท่ารับการโจมตี พวกมันเห็นดังนั้นก็ก้าวเข้ามาประชิด อิ๋นเอ๋อร์ใช้เทคนิควิชาเทควันโดจับชายชุดดำร่างใหญ่ทุ่มลงพื้นด้วยมือเปล่า พวกที่เหลือยืนมองด้วยความแปลกใจ หมัดมวยของสตรีผู้นี้ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก สตรีร่างเล็กสามารถจับบุรุษร่างใหญ่โตทุ่มลงพื้นได้หาใช่ธรรมดาแล้ว
"เข้ามา!" อิ๋นเอ๋อร์กวักมือตะโกน โดยมีแม่ทัพเหล่ยหลางกำลังฟาดฟันอยู่กับชายชุดดำหลายสิบคน อีกส่วนหนึ่งกรูเข้ามาหวังจับตัวฮูหยินแม่ทัพใหญ่ให้ได้ แต่นางสามารถรับมือได้ด้วยจังหวะหลบหลีกอันรวดเร็ว พร้อมกับวิชาโจมตีที่อาศัยแรงของคู่ต่อสู้ที่เหนือกว่าในการโจมตีกลับ ซึ่งเป็นเทคนิกการต่อสู้ที่นางถนัดมากตอนอยู่ในโลกก่อน
นางลืมบอกไปว่าตอนมีชีวิตอยู่นางเป็นครูสอนยูโด คาราเต้และหมัดมวยแทบทุกชนิด ถึงนางจะอ้วนแต่ก็มีพรสวรรค์ทางด้านนี้อย่างดีเยี่ยม เพราะฉะนั้นแค่วิชากากๆ ของกองกำลังพวกนี้ นางไม่สะท้านสะเทือนแม้แต่น้อย แล้วไม่นานอิ๋นเอ๋อร์ก็สามารถจัดการกับชายชุดดำที่คิดจะเข้ามาจับตัวนางได้อย่างราบคาบ แม่ทัพเหล่ยหลางที่ทำท่าจะเข้ามาปกป้องฮูหยินของตน ถึงกับยืนนิ่งมองนางต่อสู้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เหลืออย่างคล่องแคล่วด้วยสายตาตกตะลึง
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย อิ๋นเอ๋อร์จึงก้มลงปัดฝุ่นบนไหล่ตนเองสองสามครั้ง ก่อนหันไปทางแม่ทัพใหญ่แล้วยักยิ้มให้เขา
"คราวนี้รู้แล้วใช่หรือไม่ ว่าสตรีเช่นข้าก็มีประโยชน์"
นางเลิกคิ้วให้เขาเป็นการส่งท้าย ก่อนทำท่าจะก้าวออกจากกระโจมแม่ทัพใหญ่ แต่จังหวะนั้นมีชายชุดดำผู้หนึ่งกำลังจะลุกขึ้นหมายจับนางเป็นตัวประกัน อิ๋นเอ๋อร์เพียงเหล่ตามองแล้วฟาดด้วยลำแข้งเพียงครั้งเดียว อีกฝ่ายก็สลบเหมือด แล้วนางก็เดินต่อไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ภาพนั้นเล่นเอาหางตาของแม่ทัพใหญ่ถึงกับกระตุกอย่างแรง
โฆษณา