Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นิทานเรื่องจริง ตำนานการลวง หลอกล่อ ลงหม้อตุ๋น
•
ติดตาม
10 พ.ค. 2024 เวลา 04:04 • การเมือง
“เจ็บนี้อีกนาน…เจ็บช้ำไม่ลืม”
(10)
หลังจากเกิดเรื่องสงคราม 6 วัน… นัสเซอร์ได้พยายามพูดคุย
ให้พวกอาหรับที่แบ่งค่ายและทะเลาะกันเองบ่อยๆ
จากการยุแยงของพวกตะวันตก ให้จัดการปรองดองและคืนดีกัน
แต่ดูเหมือนไม่ประสบผลสำเร็จ
และนัสเซอร์ ก็ถึงแก่กรรมด้วยอาการหัวใจวาย ใน ปี คศ 1970
ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของชาวอียิปต์
และชาวอาหรับอื่นมากมาย
การตายของนัสเซอร์ มีข่าวลือว่าเขาถูกวางยา แต่ก็ไม่มีข้อพิสูจน์
และ อันวาร์ ซาดัต (Anwar Sadat) ซึ่งก็อยู่ในพวกกลุ่มทหารเสรี
ที่ทำการปฏิวัติไล่กษัตริย์ฟารุคออกไป และเป็นลูกน้องคนสนิท
ของนัสเซอร์และเป็นรองประธานาธิบดีในสมัยนัสเซอร์ด้วย …
ก็ได้ขึ้นมาเป็น ประธานาธิบดีของอียิปต์ คนต่อไป
แต่ดูเหมือนซาดัต จะมีความต่างกับนัสเซอร์ไม่น้อย แม้จะเป็นลูกน้องคนสนิท
ยิ่งภายหลังที่ซาดัตขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแล้ว ดูเหมือนเขาจะกลายพันธุ์
กลายเป็นคนพันธ์ุต้นอ้อ โอนเอนลู่ไปมา ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับนัสเซอร์
อันวาร์ ซาดัต แสดงความพร้อมใจ …ที่จับมือรอมชอมกับไอ้อิส
ตามที่บ้านปากเหม็น “บีบ” … เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือรายปี
ที่บ้านปากเหม็นสัญญาว่าจะให้แก่อียิปต์ ในจำนวนที่ “เพิ่มมากขึ้นอีก”
ถ้าอียิปต์ตกลงรอมชอมกับไอ้อิส
เรื่องทำนองนี้ คุ้นจัง มึงเล่นเอาเงินล่ออย่างนี้ มาตลอดเลยนะ
และก็ดันมีเหยื่อโง่บัดซบหรือเลวระยำ กินเบ็ดทำนองนี้ ได้ทุกถิ่นสิน่ะ
ไอ้อิสได้ที บอกว่าถึงจะญาติดีกัน แต่เราก็จะไม่ถอนทหารของเรา
ออกจากแนวด้านตะวันออกของคลองสุเอซนะ
อ้าว เฮ้ย แล้วจะเรียกว่ารอมชอมยังไง(วะ)
คราวนี้ ซีเรียรีบบอกอียิปต์ ไอ้อิสมันมาแบบนี้
เรายอมไม่ได้นะ เดี๋ยวก็จะยิ่งฉิบหายไปกว่าคราวที่แล้วอีก
แล้วซาดัตที่ปกครองอียิปต์ แบบไม่ได้ใจคนอียิปต์
และการเมืองในอียิปต์ก็กำลังปั่นป่วน …ก็เลยตัดสินใจ
ทำสงครามกับไอ้อิสอีกรอบใน วันที่ 6 ตุลาคม คศ 1973 …
สงครามดังกล่าวโด่งดังมาก เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Yom Kippur War
ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาของยิว
โดยซาดัต ไม่ได้ปรึกษาหารือ กับสหภาพโซเวียตแต่อย่างใด
ฝ่ายอาหรับ โดยกองทัพซีเรีย เริ่มนำการต่อสู้ก่อน
โดยบุกเข้าไปในบริเวณที่ราบสูงโกราน ที่เป็นของตัว …
แต่ถูกไอ้อิสหน้าด้านยึดเอาไป เมื่อตอนทำสงคราม 6 วัน
ส่วนอียิปต์ ก็ออกโรงด้วยการยกทัพ ไปขับไล่กองทัพของไอ้อิส
ที่ยังอยู่ในบริเวณฝั่งตรงกันข้ามกับคลองสุเอซออกไปได้
คราวนี้อียิปต์ ก็เลยบุกไปถึงด้านแหลม Sanai…
โดยไอ้อิสตั้งตัวไม่ทัน ทำท่าจะเสียทีอียิปต์
ไอ้อิสเลยไปฟ้องพ่อปากเหม็น…
คราวนี้พ่อปากเหม็นรีบส่งอาวุธ พร้อมกองกำลังมาช่วยไอ้อิส
อย่างเต็มอัตรา …แล้วกองทัพของไอ้อิส ก็เลยบุกกลับ
จนใกล้จะมาถึงกรุงไคโรของอียิปต์เอาด้วยซ้ำ
สหภาพโซเวียต ที่ตอนแรกไม่ได้คิดจะยุ่งเกี่ยวกับการรบครั้งนี้
เห็นไอ้ปากเหม็นเสือกหน้าเข้ามาอย่างนั้น จนอียิปต์เสียท่า
ใกล้จะเสียเมืองแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนั้นต่อไป
ฝ่ายอาหรับทั้งหมด อาจจะรักษาเมืองไว้ไม่ได้
สหภาพโซเวียตเลยตัดสินใจส่งอาวุธทางอากาศมาให้อียิปต์และซีเรีย
อย่างจัดเต็มเหมือนกัน
ไอ้ปากเหม็นเห็นอย่างนั้น ก็เลยเปลี่ยนแผน
เฮ้ย พวกเด็กๆ เลิกรบกันได้แล้วเว้ย มาจับมือดีกันดีกว่า
โดยให้ยูเอนมาเป็นตัวกลาง จับสองฝ่ายมาทำสัญญาสงบศึก
ไอ้ปากเหม็นเปลี่ยนแผนรวดเร็วอย่างนั้น
เพราะมันเกรงว่าสหภาพโซเวียต จะเข้ามาร่วมด้วยอย่างเต็มตัว
และจะถือโอกาส ไม่ออกไปจากตะวันออกกลาง
กลายเป็นก้างขวางคอมันอยู่ในตะวันออกกลาง
มันไม่ใช่เพราะความปรารถนาดีต่ออีอิปต์ หรือ พวกตะวันออกกลาง
แต่อย่างใดทั้งสิ้น
1
และการสู้รบครั้งนี้ นอกจากจะทำให้ ฝ่ายอาหรับ
โดยเฉพาะอียิปต์ เสียหน้าอย่างหนักแล้ว …
และสัมพันธ์ระหว่างไอ้ปากเหม็น กับ สหภาพโซเวียต
ก็ยิ่งเลวลงไปอีก
และการสู้รบ ระหว่างฝ่ายอาหรับ กับ ไอ้อิส
ก็ไม่ได้จบลงอย่างจริงจัง …
แถมความแค้นที่ค้างคา กลับยิ่งฝังในลึกเข้าไปอีก
คนที่ “บีบ” ให้ซาดัต รอมชอมกับไอ้อิส
และ “บีบ” ให้ ฝ่ายอาหรับ กับ ฝ่ายไอ้อิส ทำสัญญาสงบศึกกัน
ในครั้งสงคราม Yom Kipper นั้น
เขาว่า ชื่อ เฮนรี่ คิสซิงเจอร์ (Henry Kissinger)
ที่ได้รับคำสั่งมาจากท่านร้อกกี้หินร่วง …
ซึ่งช่วงนั้นกำลังมีอำนาจเต็มเปี่ยม และกำกับชักใย
อยู่เบื้องหลังการเมืองของบ้านปากเหม็นทุกเรื่อง
และ เป็นคนเลือกเอาไอ้แก่หนังเหนียวคิสซิงเจอร์ ซึ่งตอนนั้น
ยังเป็นหนุ่มละอ่อน แต่มีแววฉลาดตอแหลเต็มเปี่ยม และเหี้ย ม สุดๆ
ให้มาเป็นที่ปรึกษาทางด้านความมั่นคง ให้กับนายนิกสัน (Richard Nixon)
ที่เป็นประธานาธิบดีของบ้านปากเหม็นตอนนั้น
และใช้นโยบายการทูต ที่มีผู้เรียกภายหลัง ว่า Shuttel diplomacy
หรือการวิ่งรอกเจรจาทีละฝ่าย ในเรื่องที่ต่างฝ่าย มีผลประโยชน์ขัดกัน
หรือ จริงๆ น่าจะเรียกว่า การทูตแบบตอแหล “หลอก” ที่ละฝ่ายมากกว่า
หลังจากนั้น นโยบายต่างประเทศของอียิปต์
ก็เลยค่อยๆ เปลี่ยนทิศ เอนมาใกล้ชิดกับบ้านปากเหม็นแทน
อะไรที่ซาดัตอ้าปากขอจากสหภาพโซเวียต …
ไอ้ปากเหม็นรู้เข้า ก็ประเคนให้มากกว่า
และซาดัต ก็เลยอ้าปากขอ…บ่อยมากและขอมันทุกอย่าง
ไอ้ปากเหม็น บอกว่า …ได้สิ
แต่เอ็งต้องไล่ไอ้พวกเคราแดง ให้ออกไปให้หมดจากอียิปต์
และ เปิดคลองสุเอซ ด้วยนะเว้ย
และบรรดาที่ปรึกษาชาวโซเวียต และชาวโซเวียตที่ทำมาค้าขาย
ที่อยู่ในอียิปต์ประมาณ 2 หมื่นคน ก็ต้องรีบเก็บของออกไปจากอียิปต์
และ สหภาพโซเวียต ก็ค่อยๆห่างจากอียิปต์ไป
หลังจากนั้น อียิปต์ก็ได้เงินช่วยเหลือรายปีจำนวนมากขึ้น
อาวุธชั้นดีขึ้น และปริมาณมากขึ้น ฯลฯ
และ ซาดัตก็อ่อนระทวย สงบนิ่งอยู่ในมือของไอ้ปากเหม็น
เขาว่าในช่วงนั้น บ้านปากเหม็นใช้กรุงไคโร
ไม่ต่างกับเป็นสถานที่ทำการสาขาหนึ่ง ของกรุงวอชิงตัน…
สถานทูตของมันที่กรุงไคโร ใหญ่ยิ่งและ มีพร้อมทุกด้าน
มากกว่าในบ้านพวกตะวันออกกลางอื่น
แม้กระทั่งของบ้านลูกรักบนหิ้งของมัน
ที่ตอนนั้นเหมือนเป็นเด็กรวยที่เพิ่งหัดเดิน ใช้ทำอะไรคงไม่ได้มาก
แค่(หลอก) สูบเอาน้ำมันของพวกเขาเอาไปขาย …
ไอ้ปากเหม็น บอกว่า แค่นั้น กูก็เกินคุ้มแล้ว
สวัสดีครับ
จาก คนเล่านิทาน
6 พฤษภาคม 2567
เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจากกูเกิล
บันทึก
19
1
3
19
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย