“เจ็บนี้อีกนาน…เจ็บช้ำไม่ลืม”

(15) “ตอนจบ”
1
อียิปต์ในยุคที่ ปธน ซิซิ เป็นผู้ปกครอง …ไม่ได้เพียงจับมือแน่น
กับรัสเซียเท่านั้น …ซิซิ ยังคิดไกลกว่านั้นอีก
ด้วยการเดินหน้า จับมือกับจีน คู่แฝดมหัศจรรย์ของรัสเซีย
อย่างแนบแน่นอีกด้วย
(ไม่รู้ว่า ซิซิ คิดเอง หรือ มีใครแนะนำ)
จริงๆ แล้ว อียิปต์ นั้นมีความสัมพันธ์กับจีน
มาตั้งแต่สมัย ท่านประธานเหมาปกครองจีนแล้ว (คือช่วง คศ 1949-1976)
โดยต่างก็นับว่าเป็นประเทศที่มีรากเหง้า มีอารยธรรมยาวนาน
เช่นเดียวกัน
ในปี คศ 1956 …ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ยังมองอะไรไม่ทะลุ
เห็นไกลแค่หลังคาบ้านของตัว …แต่เหมือนอียิปต์สามารถมองการณ์ไกล
โดยได้ประกาศยอมรับว่า “จีนมีหนึ่งเดียว” คือ จีนแผ่นดินใหญ่
(คือ ไม่ยอมรับไต้หวัน)
และในปี คศ 1971 …อียิปต์ ยังได้ออกเสียงสนับสนุน
ให้จีนเป็นหนึ่งในคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอนด้วย
และจีน ก็เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนในการที่อียิปต์ ยึดเอาคลองสุเอซ
มาเป็นของรัฐ ในปี คศ 1956 ในขณะที่พวกตะวันตก
พากันด่าทออียิปต์ รวมไปถึงคว่ำบาตรอียิปต์ด้วย
และเมื่ออียิปต์เซแซด จากการรบกับไอ้อิสในสงคราม Yom Kippur
(เดือน ตุลาคม ปี คศ 1973) จีนยังได้ช่วยส่งอาหาร และ อาวุธ
จำนวนไม่น้อย เพื่อประคองอียิปต์ไว้
อียิปต์ กับ จีน จึงมีไมตรีจิตต่อกันมาตลอด
เมื่อซิซิ ได้ปกครองอียิปต์ เขามีความคิดที่จะพัฒนาอียิปต์หลายด้าน
โดยเฉพาะ ทางด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของชาวอียิปต์
ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ติดลบ…
เนื่องมาจากสภาพภูมิประเทศของอียิปต์ ที่เป็นทะเลทรายส่วนใหญ่
ชาวอียิปต์จึงพากันมากระจุกตัว อยู่กันอย่างแออัดในบริเวณเมืองไคโร
และ เมืองใกล้เคียง ที่ไม่ใช่เป็นทะเลทราย
ชาวอียิปต์ จำนวนไม่น้อยจึงไม่มีที่อยู่อาศัยของตนเอง
ไม่มีงานทำและมีหนี้ติดตัว
แต่ซิซิ จะทำให้ความคิดนั้น เป็นความจริงได้อย่างไร
เพราะสถานะการเงินของอียิปต์ ไม่ใช่แค่กระเป๋าเบาโหวง
อียิปต์ ยังมีหนี้ค้างชำระรอบตัวอีกด้วย
อียิปต์จะหาเงินจากไหน มาพัฒนามาสร้างที่อยู่ให้กับชาวอียิปต์
ที่มีจำนวนมากกว่า 100 ล้านคน
แล้วจีนก็โผล่มา…จากนโยบาย Belt and Road (BRI) ของจีน
ที่มีเป้าหมายในการ “เชื่อม” การติดต่อค้าขายระหว่างประเทศ
ผ่านเส้นทางในรูปแบบต่างๆ… ตั้งแต่ ถนนหนทาง เส้นทางรถไฟ
เส้นทางเรือ ฯลฯ ที่จีนค่อยๆ เริ่มสร้างจากดินแดนของจีนเอง
และสร้างผ่านต่อไปยังประเทศที่เป็นพันธมิตรในเอเซีย
ยาวมาถึงตะวันออกกลาง เลยไปจนถึงยุโรป และอาฟริกาด้วย
และเพื่อให้นโยบายดังกล่าวของตน ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย
จีนได้ตั้ง ธนาคาร Asian Infrastructure Investment Bank (AIIB),
กองทุน the China-Southeast Asia Investment Fund (CAF),
the China Africa Investment Fund (CADF) และกองทุนอื่นๆ อีกมาก
และยังแสดงความพร้อมใจ ที่จะร่วมเป็นผู้ให้กู้ กับ World Bank
และ Asian Development Bank (ADB) อีกด้วย
1
จำนวนเงินที่จีนลงทุนและทำสัญญาผูกพันไปแล้ว ในการดำเนิน
โครงการตามเป้าหมายของ BRI นับตั้งแต่ปี คศ 2013 เป็นต้นมา
เป็นจำนวนโดยประมาณ น่าจะใกล้ 4 ล้านล้านเหรียญแล้ว
และตามโครงการของ BRI… บริเวณบ้านของของอียิปต์
ก็อยู่ในเส้นทางที่สามารถจะเชื่อมต่อได้ ทั้งทางตะวันออกกลาง
อาฟริกาและยุโรป …โดยผ่าน “คลองสุเอซ” ของอียิปต์
ในปี คศ 2014 …ปธน ซิซิ ได้ประกาศว่า อียิปต์มีแผนพัฒนาประเทศ
เริ่มด้วยการขยายคลองสุเอซ ให้กว้างขึ้น และ ลึกขึ้น เพื่อรองรับ
เรือบรรทุกสินค้าที่ขนาดใหญ่ขึ้น …ด้วย “แหล่งเงินทุนของตนเอง”
และในเดือนธันวาคม คศ 2014 … ปธน ซิซิ ก็เดินทางไปเยี่ยมจีน …
ซึ่งนับเป็นประเทศแรกที่อยู่ไกลจากอียิปต์มาก คือ อยู่ในทวีปเอเซีย
ที่เขาไปเยี่ยมในฐานะเป็น ปธน ของอียิปต์
(หวังว่าท่านผู้อ่านคงสังเกตเห็น “ช่วงเวลา” ที่ซิซิ ติดต่อกับจีน
ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียง กับช่วงเวลา ที่มีข่าว ว่า ซิซิ เดินทาง
ไปพบคุณพี่ปูตินที่รัสเซีย คือ ในปี คศ 2014 เช่นกัน)
ในการไปเยี่ยมครั้งนั้น อียิปต์ และ จีน ได้มีการทำสัญญา
การเป็นพันธมิตรทางด้านยุทธศาตร์ครบวงจร
(Joint Comprehensive Strategic Partnership)
นอกจากนั้น อียิปต์ยังได้ตกลงเป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้นส่วน
“ผู้ร่วมก่อตั้ง “ธนาคารเพื่อการพัฒนาสาธารณูประโภค
หรือ AIIB ร่วมกับจีน
1
คงพอเข้าใจนะครับ ว่าการขยายคลองสุเอซ ของอียิปต์
ให้กว้างขึ้น และ ลึกขึ้น ด้วยแหล่งเงินทุนของตนเอง ที่ทำให้อียิปต์
ไม่เสียหน้า และ ไม่สูญเสียความเป็นเจ้าของนั้น …ทำได้อย่างไร
3
เหมือนกับมีใคร…ช่วยปูทางไว้ล่วงหน้า
ให้อียิปต์ ได้เดินหน้าตามแผนของตัว
ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอุปสรรค…
1
และ ในปี คศ 2016 …ท่าน ปธน ของจีน หรือ อาเฮียสีของผม
ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมอียิปต์ อย่างเป็นทางการ พร้อมกับมีโครงการ
ร่วมพัฒนาอียิปต์ ติดกระเป๋าไปด้วยอีกมากมาย
1
รายการที่สำคัญ เช่น การตั้งเขตเศรฐกิจในบริเวณ 2 ข้างฝั่ง
ของคลองสุเอซ (Suez Canal Economic and Trade Zone ) หรือ SETC
โดยฝ่ายรัฐบาลและเอกชนจีน จะร่วมลงทุน…
ในการตั้งโรงงานผลิตวัสดุเคมี โรงงานทอผ้า โรงงานสร้างท่อส่ง
รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรม ผลิตอลูมิเนียม และเหล็ก ฯลฯ
ถ้าแค่นั้นยังไม่พอ…นักลงทุนจีนยังพร้อมที่จะมาร่วมลงทุน
สร้างโรงงานผลิตยา ผลิตเครื่องดื่มโซดา อุปกรณ์เกี่ยวกับรถยนตร์
และ อุตสาหกรรมด้านพลังงานเขียวอีกด้วย …
เรื่องทุน… ไม่มีปัญหานะ …กองทุนร่วมของรัฐบาลจีน
และ ธนาคาร AIIB พร้อมสนับสนุน
ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ การสร้างเขตเศรษฐกิจในบริเวณนี้ …
มันคือการสร้างที่อยู่อาศัยแหล่งใหม่ เพิ่มขึ้นให้กับชาวอียิปต์ด้วย
สามารถลดความแออัด ในบริเวณกรุงไคไรไปได้แยะ
และทำให้ชาวอียิปต์จำนวนมาก มีที่อยู่ใหม่ มีงานทำ และมีรายได้ อีกด้วย
ในขณะเดียวกัน จีนก็ได้ สินค้าที่ผลิตในเขตเศรษฐกิจนั้น
ในต้นทุนที่ถูกลง เพราะค่าแรงงานของชาวอียิปต์ ที่ตกงาน
เป็นจำนวนมากนั้น คงถูกกว่าอีกหลายประเทศ
นอกจากนี้ อียิปต์ยังได้ลงทุน สร้างท่าเรือเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
เรียงรายอยู่ทั้ง 2 ฝั่งคลองสุเอซ …ท่าเรือนี้ นับเป็นสมบัติของอียิปต์
แต่อียิปต์ ได้ทำสัญญาว่าจ้าง (อายุ 30 ปี) ให้บริษัทจีนเป็นผู้บริหาร
ท่าเรือเหล่านั้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยของจีน
ที่จะทำให้เรือบรรทุกสินค้า เทียบท่าในคลองสุเอซได้รวดเร็วขึ้น
ขนส่งได้สะดวกขึ้น และทำให้รายได้ จากค่าเดินเรือผ่านคลองสุเอซ
ของอียิปต์ ได้เพิ่มขึ้นอีกมากมายด้วย
ส่วนแหล่งทุน ในการลงทุนข้างต้นของอียิปต์
มาจากไหน …ท่านผู้อ่านคงคาดเดาได้
ความคิดหรือความฝัน ของซิซิ เริ่มเป็นรูปธรรมแล้ว
จีนนั้น เป็นประเทศ ที่มีเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่
มากเป็นอันดับสองของโลก รองลงมาจากกรีซ …
คงพอจำกันได้ พวกตระกูลโอนาซิส (Onasis) ของกรีซนั้น
เป็นหมายเลขหนึ่ง ของวงการนี้ และคุณผู้หญิงแจ๊กกี้ เคนเนดี
ก็ได้ไปแต่งงานกับนายอริสโตเติล โอนาซิส เจ้าของบริษัทเดินเรือ
หมายเลขหนึ่งนี้ หลังจากที่คุณผู้หญิงแจ๊กกี้เธอกลายเป็นหม้าย
เมื่อสามี คือ ท่าน ปธน จอห์น เอฟ เคนเนดีถูกยิงตาย …
ผมออกนอกเรื่องไปหน่อย เพราะผมมันคนรุ่นนั้น อดเล่าไม่ได้
เพราะมันเป็นข่าวดังบันลือโลก ทั้งเรื่องท่านปธน ถูกยิงตาย
และ เรื่องแม่หม้ายของท่าน ปธน ชาวอเมริกัน ไปได้ผัวใหม่
เป็นโคตรมหาเศรษฐีชาวกรีก …สื่อลงกันทั่วโลกแบบทุกช็อต
แต่จริงๆ ก็ตั้งใจจะบอกว่า จีนนั้นโตเร็วและขึ้นชั้นเร็วมาก
แม้กระทั่งเรื่องการเดินเรือเข้ามาในโซนยุโรป
และอาจจะแซงยุโรปได้ ในอีกไม่นานนัก …
ยู้ฮู … เรือบรรทุกสินค้าของบ้านปากเหม็นอยู่ไหนนะ…
ไหนว่าบ้านมึงใหญ่โตนัก มีมหาสมุทร อยู่ 2 ฝั่งเลยไง
และด้วยความที่จีน มีเรือแยะ และ ค้าขายมาก
คลองสุเอซ จึงเหมือนเป็นเส้นทางประจำ ที่จีนใช้ขนสินค้า
ทั้งขาไปและขากลับ จีนก็เลยเป็นขาใหญ่ของคลองสุเอซ
และเพื่อความอำนวยความสะดวกให้กับขาใหญ่ …
อียิปต์ ก็ตกลงให้บริษัทจีน เป็นผู้บริหารเทอร์มินัล
สำหรับพักและเก็บสินค้า ถึง 3 แห่ง ที่ท่าเรือของอียิปต์
คือในบริเวณเมือง Alexandria 2 แห่ง และ อีก 1 แห่ง อยู่ที่ Port Said
ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุด สำคัญที่สุดของอียิปต์
และ เป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่มาก ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
1
ท่าเรือที่ Port Said นี้ …
สามารถปรับใช้เป็นท่าเรือ ทางการทหารได้อีกด้วย …
เพราะมีเครื่องมือ เทคโนโลยี
และอุปกรณ์ พร้อมสำหรับกิจกรรมดังกล่าว
1
คงไม่ลืมกัน …ที่บริเวณ Port Said
ยังมีเขตอุตสาหกรรม ของรัสเซียอีกด้วย
แหม สมเป็นคู่แฝดมหัศจรรย์กันจริงๆ นะ
ความสัมพันธ์ รวมทั้งการร่วมมือด้านต่างๆ กับจีน
โดยเฉพาะ เกี่ยวกับคลองสุเอซ และ ท่าเรือต่างๆ
ทำให้ไอ้ปากเหม็นตาเหลือกเกือบเท่าไข่ห่าน
และ คันไม้คันมือเป็นที่สุด …
แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการขยับใด นอกจากการด่ากระทบ
มันคงจะกระอัก เกินจะขยับ
ท่านผู้อ่านลองนึกถึงบริเวณ ท่าเรือ Port Said ของอียิปต์
ที่อยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่ไอ้ปากเหม็น ไอ้นิ้วก้อย
และบรรดาลูกกระเป๋งของมัน ชอบแล่นเรือรบมาฉุยฉายในบริเวณนั้น
ซึ่งบัดนี้ อาจมีเด็กๆ จากทั้งบ้านคุณพี่ปูตินและบ้านอาเฮียสี
มาเดินเล่นกันขวักไขว่ไปมา
แบบนี้ พวกนักรบรองเท้าแตะขวัญใจของผม ที่อยู่ตรงบริเวณ
ด้านล่างของทะเลแดง …ใต้ลงไปจากคลองสุเอซ …
ก็ย่อมออกลีลาได้อร่อย เพราะ มีพวกรุ่นใหญ่เขาดูแลต้นทางให้
และถ้าไอ้อิสอาการกร่างกำเริบ อยากรบกับอิหร่านจริงๆ
ไอ้อิส และบริเวณแถบนั้นจะเป็นอย่างไร
ดูแผนที่บริเวณแถบนั้นกันอีกทีนะครับ
ระวังมึงจะหายไปจากแผนที่โดยไม่รู้ตัวนะ ไอ้อิส
#######
รำพึงรำพันส่งท้าย…
ผมเขียนเรื่องอียิปต์ยาวหน่อย เพราะ มันเห็นตัวอย่างชัดดี
ว่าบริเวณบ้านของอียิปต์นั้น อยู่ในทำเลที่น่าสนใจอย่างมาก
ทั้งในเชิงยุทธศาสตร์ระดับภูมิภาค และ อาจจะเลยไปได้มากกว่านั้น
และทำเลนั้น …จะทำให้อียิปต์ โชคดี หรือ โชคร้าย …
ก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้นำหรือผู้ปกครองอียิปต์ …
มองประเทศตัวอย่างไร และ มีนโยบายอย่างไร
มองใกล้เห็นแก่ตัว หรือ มองไกลเห็นแก่ประเทศ
ผู้นำของประเทศ เข้าใจเรื่องราวรอบบ้านตัวเองดีไหม
หรือ มัวแต่วุ่นอยู่กับการมีอำนาจในบ้านและการนับเงินในถุง
บ้านสมันน้อย ก็ไม่ต่างกันนักกับอียิปต์
บ้านสมันน้อยอยู่ในชัยภูมิ ที่ดีวิเศษเหลือเชื่อ
มีเส้นทางออกทะเล ได้ถึง 2 มหาสมุทร
มีเขตแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้ง เหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก
ดินดี น้ำชุ่ม ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว
ใต้ดินยังมีแร่ธาตุสารพัด
และในอ่าวไทยยังมีแหล่งแก๊สและน้ำมัน
มากมายอีกด้วย
บ้านสมันน้อย มีทุกอย่างที่สมันน้อยจะสามารถอยู่
อย่างพึ่งพาตนเองได้ ถ้ารู้จักการอยู่อย่างพอเพียงและเพียงพอ
ตามที่ “พ่อของแผ่นดิน” ท่านได้บอก ได้สอน ได้เตือนมาตลอด
และสมันน้อยยังสามารถ “รวยมาก ” ได้อีกด้วย
ถ้าสมันน้อย “รู้จัก” บริหารจัดการ เรื่องทรัพยากรของตัว
และเรื่องในบ้านของตัว ให้เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง
และพลเมืองของบ้านสมันน้อยเอง
แต่ที่บ้านสมันน้อย “ขาดเสมอ” คือ ผู้บริหารประเทศ
ที่รักประเทศ เอาแผ่นดิน หวงแผ่นดิน อย่างจริงใจ และจริงจัง
ร่วมทั้ง รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมเกมการเมืองในโลก
บ้านสมันน้อย จึงโชคร้าย อย่างไม่น่าจะเป็น…
บ้านสมันน้อย จึงถูกเขาหลอกต้ม …
บ้านสมันน้อย จึงมีแต่ผู้บริหารประเทศ (ส่วนใหญ่หรือ เกือบทั้งหมด)
ที่รับเอาเงินเขามา…เพื่อทำตาม “เขาสั่ง”
แต่เงินนั้น ไม่ได้ถึงแผ่นดินและไม่ถึงสมันน้อย
มันหายไปที่ไหน ทำไมมันมาไม่ถึง…
กี่ปีมาแล้ว ที่มันเป็นอย่างนี้
สมันน้อยตื่นเสียทีเถิด ลุกขึ้นมาดูแลปัดกวาดบ้านของตัวได้แล้ว
บ้านของเราเอง เราต้องลงมือทำเอง
จะไปรอให้ใครมารักบ้านเรามากกว่าเราเอง …
“บ้านของเรา แผ่นดินของเรา”
และแผ่นดินของเรา ยังมีพระเจ้าแผ่นดิน ที่ทรงคุณอันประเสริฐ
สืบทอดมาตลอด จนถึงปัจจุบัน …
แต่ “มัน” หลอกต้มใ้ห้เราเป็นประชาธิปไตย ปกครองกันเอง
กีดกันให้พระเจ้าแผ่นดินท่านออกไป ไม่ให้ท่านปกครอง
จนถึงปัจจุบันนี้ “มัน” ก็ยังมีแผนคอยกีดกันพระองค์ท่าน
และแผนให้ร้ายพระองค์ท่านอยู่เสมอ …
1
ตอนนี้บ้านเมืองเรา รวมทั้งทรัพย์สมบัติของบ้านเมืองเรา
อยู่ “ในกำมือของใคร” …และพวกมันกำลังทำอย่างไร
กับบ้านเมืองของเรา
สมันน้อยรู้นี่ สมันน้อยไม่โง่หรอก
แต่สมันน้อยมัวแต่กลุ้มใจ มัวแต่บ่น มัวแต่รอ…
รอให้มีผู้กล้า เดินออกหน้านำ เดินหน้าจัดการ
สมันน้อยทั้งหลาย …สามารถเป็นผู้กล้าเดินออกหน้า
ไปพร้อมกันได้ ถนนบ้านเรามีหลายสายมากพอ
อย่ามัวแต่รอ …จนไม่มีอะไรเหลือ
แม้แต่แผ่นดิน ที่จะให้ซุกหัวนอน…
สวัสดีครับ
จาก คนเล่านิทาน
11 พฤษภาคม 2567
เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจากกูเกิล
โฆษณา