14 พ.ค. 2024 เวลา 06:45 • ครอบครัว & เด็ก

Ep. 5 ปากดี

ฉันอยู่ในครอบครัวคนจีนเป็นครอบครัวใหญ่ ป๊าของฉันเป็นลูกหลงของอาม่า เป็นลูกชายคนเล็ก จากลูกทั้งหมดของอากง ครอบครัวป๊าฉันมีทั้งหมด 8 คน อายุของป๊าฉันอ่อนกว่าพี่ชายคนแรกของป๊าประมาน 15 ปี+ อ่อนกว่าพี่สาวของเขา 10 ปี+ ครอบครัวอากง อาม่าของฉันมีลูกชาย 4 คน และ ผญ 4 คน
เช้งเม้งแต่ละปี ฉันปวดหัวมาก ด้วยจำนวนญาติเยอะ คำสั่งเยอะ โกว ๆ ชอบใช้แม่ฉัน ๆ ต้องตื่นมาตั้งแต่ตี 2 เพื่อทำกับข้าว ฉันมักจะตื่นมานั่งตรงบันไดดูแม่เตรียมของไหว้ แม่ฉันก็มักจะไล่ฉันให้ไปนอนต่อ ฉันไม่ไปจะนั่งดูแม่ ๆ จะแบ่งผลไม้ ซาลาเปาให้ฉันกินระหว่างดูแม่ทำกับข้าวก่อนเสมอ พร้อมบ่นอู๊ดอี๊ดเบา ๆ
ฉันจะช่วยแม่ในความรับผิดชอบเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การเป็นคนรอโทรฯ รับคำสั่งจากบรรดาอาโกว อาแปะ ตามธรรมดาธรรมเนียบจีนน้องสุดท้องจะรับภาระงานมากกว่าคนอื่น ๆ และสะใภ้ของน้องชายคนเล็กจะได้ภาระงานฉ่ำ
ฉันไม่ชอบทัศคติ และประเพณีทำนองนี้ ฉันรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ แต่ฉันต้องทำตาม เพราะป๊าของฉันรักครอบครัวเขา รักพี่น้องของเขาเสียเหลือเกิน ฉันจึงเห็นแม่ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานงก ๆ ต่อไป
1
ฉันไม่พอใจ…
ฉันเติบโตมาในบ้าน ตึกพาณิชย์เล็ก ๆ คูหาเดียวหน้าตลาด ข้าม ถ. 2 เลน ฉันก็ถึงตลาดแล้ว บ้านฉันมีสมาชิกครอบครัว 5 คน ที่ประกอบไปด้วย ป๊า แม่ อาโกว พี่สาว และฉัน ๆ คือน้องคนสุดท้องของตระกูล
ฉันไม่ถึง 8 ขวบ อาโกวคนที่ 4 ได้แต่งงานกับพ่อหม้ายมีชื่อเสียง ร่ำรวยคนหนึ่งในจังหวัดของฉัน ๆ ดีใจมาก แม่ฉันจะได้รับคำสั่ง และโดนนินทาจากอาโกว หรือเพื่อนอาโกวฉันน้องลง แต่พี่สาวของฉันที่ติดอาโกวมาก วิ่งขึ้นไปบนห้องนอนแล้วร้องไห้อย่างหนัก ฉันวิ่งตามพี่สาวของฉันไป ๆ นั่งใกล้ ตอนนั้นฉันทำได้แค่นั้น
ฉันสังเกตพี่ฉันอยู่หลายปี พี่สาวของฉันไม่เรียกร้องหาอาโกว ไม่ไปที่ร้านตัดเสื้อผ้าของอาโกวเลย ก่อนโกวแต่งงานพี่สาวของฉันจะตัวติดอาโกว ไปไหนด้วยกัน นอนด้วยกัน ไปหาเพื่อนโกวด้วยกัน ตั้งแต่โกวแต่งงานพี่สาวของฉันจะอยู่บ้านบ่อยกว่าเดิม
ฉัน และพี่สาวถูกเลี้ยงดูแบบตีกรอบให้วิ่งอยู่ในกรอบที่ป๊าฉันสร้างขึ้น พี่สาวของฉันเป็นเด็กเรียนดี ฉลาด ช่างพูด ช่างประจบประแจง เข้ากับคนอื่นง่าย มีมนุษย์สัมพันธ์ เชื่อฟังพ่อแม่ เป็นลูกรักของป๊า เป็นที่รักของโกว เพื่อนของโกว และอาแปะ เป็นที่รักของอาจารย์ทุกวิชา พี่สาวของฉันจะเลือกคบเพื่อนเสมอ
ฉันตรงข้ามกับพี่สาวของฉันอย่างสิ้นเชิง ฉันซน เพื่อน ผช แถวบ้านเยอะมาก ทุกบ้านทุกหลังคาเรือนเป็นเพื่อนฉันหมด ฉันเข้าออกบ้านทุกหลังโดยที่บ้านนั้นไม่มีเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน บ้านที่ฉันเข้าไปเล่นจะเจ้าของบ้านจะให้ข้าวฉันกิน คนชราในบ้านนั้นมักจะให้ฉันเหยียบหลังกับขาให้ ฉันก็ทำ พอฉันอิ่ม ฉันง่วง และบางครั้งฉันก็หลับในบ้านของเขา
ฉันไม่ค่อยมีเพื่อน ผญ สักเท่าไร ฉันมักได้แผลกลับบ้าน และฉันมักจะชวนเพื่อนเที่ยวเตร่แต่เช้าเพื่อเล่นปั่นจักรยาน เล่นดินน้ำมัน เล่นโคลน ปาหินใส่ ฉันสามาถคิดการละเล่นได้มากมาย และเพื่อนฉันก็มักจะเล่นกับฉันเสมอ ฉันมักไปหาเพื่อน และชวนเล่นแต่เช้าตรู่ เพราะว่าฉันอยากมีเวลาเล่นเยอะ ๆ วัยนั้นฉันมีความสุขมาก
ฉันไม่มีความทรงจำการเล่นกับพี่สาวตอนวัยเด็ก พี่สาวของฉันก็เช่นกัน พี่สาวของฉันไม่คบเพื่อนแถวบ้าน เพราะชอบกับกลุ่มอาโกวมากกว่า ซึ่งตรงข้ามกับฉัน ที่ชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่า
ฉันไม่ชอบโกว และเพื่อนของโกว เพราะพวกเขาชอบนินทา ด่าแม่ของฉัน ฉันมักจะได้ยินคำว่า …
“แม่แกมันเป็นแม่มด ดูจมูกสิยาวจะถึงปากแล้ว”
(พี่สาวฉันฟังแล้วนิ่งเฉย ในขณะที่อาโกว และพ้องเพื่อนพูดจบ แล้วก็หัวเราะกันคิกคัก)
“แกมันคือเด็กที่ป๊าแกเก็บมาเลี้ยงจากถังขยะ แกถึงไม่มีอะไรเหมือนพี่สาวเลย ผิวก็ไม่เหมือน หน้าตาก็ไม่เหมือน”
(พี่สาวของฉันผิวสีน้ำผึ้ง ฉันผิวค่อนข้างขาว)
แกมันตัวซวย ตอนแกเกิดมาบ้านแกจนลง ๆ เงินมีแต่ออก ไม่มีเข้า
(ฉันเคยเอามาถามป๊า ๆ ตอนฉันอายุ 30 ++ ได้มั้งว่า หนูเกิดมาทำให้บ้านจนขึ้นหรอ ป๊าบอกพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก เพราะตอนพี่สาวฉัน เกิดงานเยอะมาก ต้องซื้อข้าวของมาใช้เป็นทุน บางครั้งจึงเป็นหนี้บ้าง ตอนฉันเกิดเป็นช่วงงานซา ป๊าก็จะเอาเงินไปเครียหนี้ เป็นเหตุที่ทำให้เงินออกเยอะ)
“แกมันเหมือนแม่แก ๆ ถึงไม่มีใครรัก” (ทุกวันนี้ฉันพอใจมาก ๆ เลยที่ไม่ค่อยมีคนรักฉัน ๆ เป็นสุขดี)
บ่ายวันที่โกวพูดประโยคนี้ ฉันจำความรู้สึกนั้นได้ดี…
1
ฉันร้องไห้...ในใจ
จากวันนั้น ฉันไม่ต้องการความรักจากคนที่ด่าแม่ฉันหรือใครคนใดก็ตามที่ไม่คิดรักฉันตั้งแต่วันแรก อีกแล้ว…
ก่อนโกวแต่งงานเวลาอาโกวไปไหนก็จะเอาพี่สาวฉันไปไหนมาไหนด้วย จนพี่สาวของฉันรักอาโกวมากกว่าแม่ของตัวเอง พี่สาวฉันมักได้รับความรัก การสัมผัส การเอ็นดู การให้ความสนใจจากผู้ใหญ่มากกว่าฉันเสมอ ฉันมักโดนกลุ่มเพื่อนอาโกวเปรียบเทียบกันระหว่างฉันกับพี่สาวของฉันเกือบทุกครั้งที่ฉันเจอหน้าพวกเขา ฉันไม่ชอบฟังเท่าไร ฉันเลยไม่ค่อยไปกับโกว...
แต่ก็ถูกของผู้เปรียบเทียบนะ ฉันไม่ปฏิเสธเลย
พี่สาวฉันมืออ่อน ไหว้เก่ง ยิ้มเก่ง ฉลาด ช่างพูดช่างจา ปากหวาน นอบน้อม มีสัมมาคาราวะไปลามาไหว้ มีของฝากติดไม้ติดมือไปหาคนรู้จักเสมอ ชอบแต่งตัว ตามสถานที่ที่ไป ผมตรง หน้าคม ผิวน้ำผึ้ง โดดเด่น ได้รับความสนใจจากสังคม ชอบสังคม เข้ากับคนอื่นง่าย เรียนดี พูดเพราะ และหุ่นดี กว่าฉันเสมอ ดีกว่าฉันทุกอย่าง และไม่ต้องเปรียบเทียบให้ฉันฟัง ฉันรู้ทุกอย่างดี รู้อยู่แก่ใจ ฉันรู้ทุกอย่างก่อนพวกเขาเสียอีก
ฉันเป็นคนเงียบ ขรึม ไม่ยิ้ม ไม่ค่อยพูด หน้าตึง ไม่แสดงออก ไม่แสดงความรู้สึก ไหว้ไม่เก่ง ไม่นอบน้อม พูดจาห้วน ไม่หวาน ผิวขาว ผมหยักโศก ไม่แฟชั้น ไม่แต่งตัวตามสถานที่ ๆ ฉันไป ฉันชอบแต่งตัวตามที่ฉันชอบ ไม่ชอบเข้าสังคม กินเก่ง เดินเร็ว เข้ากับคนอื่นยาก ไม่เข้าเรียน ฉันไม่เป็นที่รักของผู้ใหญ่ เข้ากับผู้ใหญ่ไม่ได้เลย และฉันก็ไม่เคยคิดจะเข้ากับเขาด้วย
วัยรุ่นฉันเข้า กทม เพื่อเรียนต่อ ฉันได้ไปใช้ชีวิตกับพี่สาว 2 คน นับตามวุฒิฉันอ่อนกว่าพี่สาวฉัน 3 ปี เพราะเขาสอบเทียบ แต่นับตามอายุฉันอ่อนกว่าพี่สาวฉันเพียง 2 ปี เรา 2 คน เป็นพี่น้องที่นิสัยเข้ากันไม่ได้เลย อยู่ด้วยกันทะเลาะกันทุกวัน มีเรื่องกันทุก 5 นาที เรา 2 พี่น้องไปไหนด้วยกันไม่ได้ เพราะทะเลาะกันแบบจริงจังกันมาก เรามักมีความคิดเห็น และการแสดงออก ตรงกันข้ามกันตลอดทุกเรื่อง เช่น
พี่สาวชอบสังคม ฉันชอบอยู่คนเดียว
พี่สาวฉันจะเปิดไฟทุกดวงที่เขาอยู่ ฉันปิดไฟทุกดวงเปิดดวงเดียวคือห้องน้ำ ฉันชอบที่มืด ๆ
พี่สาวฉันชอบตื่นแล้วแต่งตัวออกไปข้างนอก ฉันจะตื่น อาบน้ำ แต่งตัวเพื่ออยู่บ้าน เล่นเกมส์ หรือไปว่ายน้ำ
1
พี่สาวฉันไม่กล้าปฏิเสธหรือพูดแรง ๆ กับเพื่อน มีหลายครั้งที่พี่สาวฉันมาร้องไห้กับฉันว่า โดนเพื่อนพูดไม่ดีทำร้ายจิตใจมา ฉันไม่เคยร้องไห้เพราะคำพูดเพื่อน เพราะฉันมักจะเป็นผู้กระทำเพื่อนเสียมากกว่า
ฟ้ากับเหว…
พี่สาวฉันมักอ่อนโยนกับคนนอกเสมอ กับฉันพี่สาวจะมีนิสัยร้อน แรงเปรียบเหมือนไฟ ส่วนฉันก็ขี้หงุดหงิด ใจร้อน ยินดีปะทะ ฉันพร้อมเสมอ ฉันจึงเปรียบเสมือนดั่งน้ำ...มัน การทะเลาะกันทุกครั้งความรุนแรงค่อนข้างอลังการดาวล้านดวง
ครั้งหนึ่ง ฉันและพี่สาวดื่มด้วยกัน พอได้จังหวะเมากึ่ม ๆ พี่สาวฉันเปรยออกมาว่า..
พี่สาว” “ทำไมเราไม่อยู่ด้วยกันดี ๆ แบบพี่น้องคู่อื่นนะ”
ฉัน: (ฉันตอบพี่สาวแบบทันที) ขอโทษนะ ฉันพยายามยอมแล้ว แต่ก็หลุดทุกครั้ง ฉันบอกพี่สาวของฉัน
พี่สาว: เออเป็นเหมือนกัน
….จบบทสนทนานี้ เรา 2 คน ก็ดื่มต่อ คุยเรื่องจิปาถะ…
ฉันคิดทบทวนทุกครั้งทะเลาะกันกับพี่สาว
ทุกครั้งที่ทะเลาะกันพวกเราสาดคำด่าใส่กันแบบ non stop ไม่เบรค เราลงมือลงไม้กันอย่างถึงพริกถึงขิง เราตะโกนใส่กันจนคอเป็นเอ็น ปาข้าวของ เอาน้ำสาดใส่หน้า เอาขยะเทใส่หัว เราขุดทุกอย่างมาสาดใส่กัน เพื่อให้ฝั่งตรงข้ามเจ็บมากที่สุด พวกเราต้องการชนะกันกันเอง...พวกเราทำสำเร็จ
แต่ไม่มีใครชนะ...
เรามีแต่ความพ่ายแพ้ ศูนย์เสียเวลาดี ๆ เสียน้ำตา เสียใจ เสียความรู้สึก เสียอารมณ์ ใช่ พวกเรามีแต่บาดแผลจากการกระทำของเราอยู่เยอะพอตัว...
หลังจากทะเลาะกัน ฉันมักเป็นคนขับรถฯ (ส่วนตัวของฉัน) ออกไปนอนที่หอเพื่อนบ้างแหละ ไปสถานบันเทิงแล้วกลับมาคอนโดอีกครั้งตอนสว่างบ้างแหละ ช่วงนั้นฉันได้นอนบ้านเพื่อนเกือบทุกวัน ฉันดูมีความสุข ร่อนเร่ ร่างเริง สนุกสนาน แต่ข้างในฉันไม่มีความสุขเลย ฉันกำลังเป็นทุกข์
ผ่านไปหลายวันที่ฉันไม่กลับคอนโด
พี่ฉันจะตีเนียนโทรฯ ชวนให้ไปนั้น ไปนี่ด้วยกัน ฉันก็ตกลง ต่างคนต่างไม่ขอโทษ ไม่พูดถึงเรื่องเก่าพี่ฉันก็ตีเนียนชวนฉัน ๆ ก็ตามน้ำไป
หลายครั้งที่พี่ของฉัน นัดเพื่อนที่ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง ร้านอาหาร แล้วโทรฯ ชวนฉันไปด้วย ถ้าฉันอารมณ์ดีขึ้น หรือเขาต้องการให้ไปเป็นเพื่อนจริง ๆ ฉันก็ไปด้วย พี่ฉันมักไม่เคยบอกฉันล่วงหน้าว่ามีคนอื่นไปด้วย ไม่ให้เวลาในการแต่งตัว ฉันจึงไปกับพี่ในสภาพที่ดูไม่ได้
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ฉัน พี่จะทำอะไรกับฉัน จะไปสถานที่ไหน พี่ฉันก็ดุ ตะคอก ใส่ฉันเหมือนเดิม เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ฉันกับพี่จะไม่ได้แสดงออกมากนัก แต่ไม่รู้ทำไมฉันมักทำอะไรขัดใจพี่ฉันตลอด ฉันทำอะไรไม่ถูกใจพี่ฉันไปเสียหมด ฉันมักโดนพี่สาวฉันดุเมื่อต่อหน้าเพื่อนเขา และฉันก็มีความรู้สึกขุ่นมัวในใจเกือบทุกครั้งที่ไปด้วย
และความอดทนของฉันหมดลง...
ฉันไม่คุยกับพี่สาวเป็นเวลา 4 ปี และจะเข้าคอนโดเฉพาะวันที่ป๊า และแม่โทรบอกว่าจะมา กทม ฉันเช่าห้องพักราคาถูกเพื่ออยู่คนเดียว
ในความสัมพันธ์แย่ ๆ ของพวกเรา...
ฉันกับพี่สาวมีความสัมพันธ์ที่ดีอย่างหนึ่งคือ ถ้าเรากำลังโกรธกัน แล้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเรื่อง อีกคนจะทิ้งความโกรธมาช่วยเหลือกันก่อน หลังจัดการปัญหาตรงนั้นได้แล้ว ก็แยกย้ายและกลับมาโกรธกันเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเราเป็นแบบนั้นทุกครั้ง
พี่สาวของฉันไปอยู่ที่ ตปท ได้เกือบ 15 ปีแล้ว กลับมา ปทท ปีละ 1-3 ครั้ง ตามโอกาสอำนวย ฉันไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้เรื่องระหว่างเรา 2 พี่น้องเปลี่ยนไป “เราไม่ค่อยทะเลาะกันแล้ว” หรือฉันมีอายุมากขึ้น ฉันจึงใจเย็นขึ้น หรือห่างไกลไม่ได้อยู่ด้วยกัน เวลาเจอกันเลยไม่ทะเลาะกันนะ
1
ฉันชอบบรรยากาศที่แบบนี้...
5-6 ปีนี้ที่ผ่านมานี้ ฉันและพี่สาวมีโอกาสคุยกันเรื่องปัญหาในชีวิต จากที่เราไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลย ฉันรู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของเราพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก มีคุณภาพขึ้น หนักแน่นขึ้น และแน่นแฟ้นขึ้น
ฉันเริ่มสบายใจเมื่ออยู่ใกล้พี่สาวของฉัน
ทุกครั้งที่พี่สาวฉันกลับมา ปทท มานอนพักที่บ้านป๊า ฉันพยายามไม่ขัดพี่สาว ๆ พยายามเงียบปากมากขึ้น ถ้าฉันมีอารมณ์โมโหเมื่อไร หรือทนไม่ได้เมื่อไร ฉันจะเดินไปที่อื่น
1
วิธีนี้ใช้ได้ผลดีทีเดียว
ปัจจุบันนี้ฉันและพี่สาว อายุ 40 ปี++ เราเลิกทะเลาะกันแล้ว เพราะเราตระหนักดีว่า หลังจากนี้เราจะเหลือกันแค่ 2 คนพี่น้อง เราจะเป็นที่พึงพิงทางใจของกันและกันในวันที่เราไม่มีที่พึ่งพิงแล้ว
ในอนาคตต่อไปข้างหน้าเราจะคือพี่ น้อง เพื่อนสนิท กัลยานิมิตร ครอบครัวที่ดีที่สุดของกันและกัน ในวันหนึ่งเรา 2 คน จะผลัดกันเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของกันและกัน
เราไม่เห็นความสำคัญของการด่าทอให้อีกฝ่ายนึงเจ็บช้ำแล้ว เพราะลึก ๆ เราทั้ง 2 คนรู้ดีว่า ยิ่งเราทะเลาะเพื่อให้อีกคนเจ็บช้ำเมื่อไร คนที่ช้ำ ก็มีแค่ฉัน กับพี่สาวของฉัน ยิ่งเราต้องการชนะกันเอง เราจะยิ่งเป็นฝ่ายแพ้...ฉันเริ่มรักพี่สาวของฉันอีกครั้ง
Be better
By
ทรงศรี (SongSi)
โฆษณา