5 ส.ค. 2024 เวลา 07:50 • ไอที & แก็ดเจ็ต

ทำการฟอร์แมตเป็นรูปแบบไหนดี

ระบบปฏิบัติการใช้โครงสร้างอย่างระบบไฟล์ เพื่อที่กำหนดโครงสร้างและจัดการไฟล์ข้อมูลในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น ฮาร์ดไดรฟ์ SSD หรือ แฟลชไดรฟ์ USB โดยเป็นการที่ระบุวิธีการที่ใช้จัดเก็บ สืบค้นและจัดเรียงข้อมูลในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ระบบไฟล์ที่แตกต่างกัน และมักใช้ระบบปฏิบัติการหรืออุปกรณ์บางรายการเท่านั้น
เครดิตรูปภาพ : https://www.atlrecovery.net/%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%87-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1/
FAT (File Allocation Table), FAT16, FAT32
FAT เป็นหนึ่งในระบบไฟล์ข้อมูลที่เก่าแก่ โดยแต่เดิมพัฒนาสำหรับ MS-DOS และยังใช้กับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบถอดแยก เวอร์ชั่นหลัก ๆ ที่แพร่หลายของระบบนี้คือ FAT16 และ FAT32 FAT จะใช้ตารางการจัดสรรไฟล์ข้อมูลเพื่อติดตามตำแหน่งของไฟล์ในดิสก์ อยากไรก็ตามระบบนี้ไม่มีระบบการทำงานขั้นสูงอย่างการกำหนดสิทธิ์อนุญาตเรียกค้นไฟล์และการบันทึกการทำรายการ ทำให้เหมาะกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ๆ
ข้อดี
- ความเรียบง่าย: ความเรียบง่ายในการทำงานทำให้สะดวกในการใช้และเหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัดหรือมีเงื่อนไขจำกัดด้านการรองรับการทำงาน
- การกู้ข้อมูล: โครงสร้างที่ซับซ้อน ระบบ FAT จึงกู้ข้อมูลได้ง่ายกว่า เมื่อเกิดความเสียหายกับข้อมูลหรือมีการลบข้อมูล โดยไม่ได้ตั้งใจ
ข้อเสีย
- การกระจัดกระจายของข้อมูล: การกระจัดกระจายข้อมูลก็เกิดขึ้นเมื่อข้อมูลกระจายไปส่วนอื่นๆ ของดิสก์ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง การจัดเรียงข้อมูล เป็นประจำคือขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้ดิสก์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- ขาดคุณสมบัติการทำงานขั้นสูง: FAT32 ที่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดขาดคุณสมบัติการทำงานขั้นสูงหลายอย่างเมื่อเทียบกับระบบไฟล์ข้อมูลอื่น ๆ โดยที่ไม่รองรับการกำหนดสิทธิ์ อนุญาตเพื่อรักษาความปลอดภัยในระดับไฟล์ ระบบบันทึกการทำรายการ การเข้ารหัสหรือการบีบอัดข้อมูล
- ข้อจำกัดเกี่ยวกับชื่อไดร์ฟ: ชื่อไดร์ฟ (Volume) สำหรับ FAT16 และ FAT32 จะต้องไม่เกิน 11 อักขระและจะต้องไม่มีอักขระอื่นนอกจากตัวอักษรและตัวเลข
- ข้อจำกัดเกี่ยวกับชื่อไฟล์: ชื่อไฟล์ในระบบFAT16 จะยาวเกิน 8.3 อักขระไม่ได้ ซึ่งหมายถึงว่า 8 อักขระบวกอีก 3 อักขระที่เป็นนามสกุล
exFAT (Extended File Allocation Table)
exFAT เป็นระบบไฟล์ข้อมูลที่เปิดตัวโดย Microsoft ที่พัฒนาจากFAT32 โดยเป็นการแก้ไขข้อจำกัดต่างๆของ FAT32 เพื่อให้รองรับ ขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้น และมีประสิทธิภาพที่ดี exFAT โดยปกติใช้กับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลต่อพ่วง เช่น SSD ต่อพ่วง ฮาร์ดไดรฟ์และการ์ด SD ต่อพ่วง เพราะว่าจะสามารถใช้งานกับระบบปฏิบัติการได้หลายระตัว
ข้อดี
- รองรับไฟล์และพาร์ติชั่น ขนาดใหญ่: exFAT รองรับไฟล์และพาร์ติชั่นขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับ FAT โดยที่รองรับไฟล์ที่มีขนาดมากกว่า 4 GB ทำให้เหมาะสำหรับการจัดเก็บไฟล์มีเดียหรือข้อมูลอิมเมจดิสก์ขนาดใหญ่
- การใช้พื่นที่ดิสก์ที่มีประสิทธิภาพ: exFAT ปรับปรุงการใช้พื้นที่ดิสก์ได้ดีกว่า FATรุ่นก่อน โดยใช้ขนาดคลัสเตอร์ที่เล็กลง ทำให้ปริมาณในการใช้พิ้นที่ดิสก์ที่เสียเปล่าที่สามารถใช้กับไฟล์ขนาดเล็กลดลง
ข้อเสีย
- การรองรับเมต้าดาต้าที่จำกัด: exFAT ไม่รองรับคุณสมบัติขั้นสูง ของระบบไฟล์รุ่นใหม่ๆ โดยที่ไม่รองรับสิทธิรักษาความปลอดภัยระดับไฟล์ การบันทึกการทำรายการการเข้ารหัสของระบบไฟล์ข้อมูล
- การกระจัดกระจายของข้อมูล: exFAT และFAT จะมีปัญหาที่เหมือนกันคือ เรื่องข้อมูลกระจัดกระจาย เมื่อมีการสร้าง แก้ไขและลบไฟล์ข้อมูล ข้อมูลจะมีการกระจัดกระจายไป ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงในเวลาผ่านไป
NTFS (New Technology File System)
NTFS เป็นระบบไฟล์ข้อมูลเบื้องต้นที่ใช้โดยระบบปฏิบัติการ Windows NT เริ่มตั้งแต่ปี 1993 พร้อมกับ windows NT 3.1 ไปจนถึง windows 11 โดยที่มีคุณสมบัติการทำงานที่ขั้นสูงสุดอย่างการกำหนดสิทธิอนุญาต สำหรับไฟล์ การเข้ารหัส บีบอัดข้อมูลและการบันทึกการทำรายการ NTFS รองรับไฟล์และพาร์ติชั่นขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่ ๆ แต่ระบบนี้ยังมีข้อจำกัดการรองรับการทำงานกับระบบปฏิบัติการที่ไม่ใช่ windows
ข้อดี
- ระบบรักษาความปลอดภัยและสิทธิ์การใช้งาน: NTFS มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ผ่านการกำหนดสิทธิ์อนุญาตในระดับไฟล์ สามารถกำหนดสิทธิ์อนุญาตสำหรับไฟล์และโฟลเดอร์ที่ต้องการเพื่อควบคุมสิทธิ์การใช้งานสำหรับผู้ใช้และกลุ่มต่าง ๆ
- ระบบคัดทิ้งข้อมูลที่ไม่จำเป็น (Trimming) ในไดร์ฟ Solid State (SSD) : TRIM จะแจ้งให้ไดร์ฟทราบเกี่ยวกับข้อมูลที่ไม่มีการใช้งานเพื่อให้ SSD สามารถลบและเตรียมพร้อมที่สำหรับการเขียนข้อมูลในอนาคต TRIM จะเปิดใช้งานเป็นค่าเริ่มต้นเมื่อเลือกระบบไฟล์ข้อมูล NTFS เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานของไดร์ฟ
ข้อเสีย
 
- ข้อผิดพลาดของดิสก์และการซ่อมแซม: ถึงว่า NTFS จะออกแบบมาเพื่อที่จะทำงานให้เสถียร แต่ก็ยังอาจเกิดข้อผิดพลาดกับดิสก์ได้เช่นกัน เเจ่เมื่อพบข้อผิดพลาด กับดิสก์ การซ่อมแซม NTFS อาจต้องใช้เวลานานและอาจต้องใช้เครื่องมือพิเศษ
- การกระจัดกระจายของข้อมูล: เมื่อเวลาผ่านไป ระบบไฟล์ข้อมูล NFTS ก็อาจมีข้อมูลที่กระจัดกระจายเนื่องจากการสร้าง แก้ไขและลบไฟล์ ข้อมูลที่กระจัดกระจายจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
APFS (Apple File System)
APFS เป็นระบบไฟล์ข้อมูลที่พัฒนาโดย Apple สำหรับ macOS, iOS และอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple โดยที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพและสามารถรองรับการทำงานกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จาก Apple APFS มีคุณสมบัติในการทำงานหลายอย่าง เช่น การโคลนข้อมูล การเข้ารหัสระดับไฟล์ และมีประสิทธิภาพที่โดดเด่นสำหรับไดร์ฟ Solid State
ข้อดี
- ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า: APFS มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเมื่อเทียบตัวก่อนหน้า โดยที่มีการใช้เทคนิค ต่างๆ เช่น เช่น copy-on-write ระบบแชร์พื้นที่และการจัดการเมต้าดาต้าแบบพิเศษเพื่อให้อ่านและเขียนข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น
- การรักษาความปลอดภัย: APFS มีระบบรักษาความความสมบรูณ์ของข้อมูล เช่น เชคชัมสำหรับเมต้าดาต้าและข้อมูลในไฟล์ วิธีนี้จะทำให้สามารถตรวจหาและป้องกันความเสียหายข้อมูล และยังรองรับการเข้ารหัสแบบเนทีฟ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้ารหัสข้อมูลของตนได้ในระดับแยกย่อย ทำให้ปลอดภัยมากขึ้น
ข้อเสีย
- รองรับระบบคัดทิ้งข้อมูลกับไดร์ฟ: แม้ว่า APFSจะรองรับ คำสั่ง trim สำหรับ SSD แต่อาจไม่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับระบบไฟล์ข้อมูลอื่น ๆ Trim ทำหน้าที่ปรับประสิทธิภาพในการทำงานและยืดอายุการใช้งานของ SSD
- รองรับซอฟต์แวร์จากภายนอก: ซอฟแวร์หรือยูทิลิตี้จากภายนอกรุ่นเก่า ๆ อาจไม่รองรับ APFS อย่างสมบูรณ์ แต่มีข้อจำกัดเมื่อต้องทำงานกับไดร์ฟที่มีการฟอร์แมต
HFS, HFS+ (Hierarchical File System)
HFS เป็นระบบไฟล์ข้อมูลที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ Apple แต่เดิม ถูกแทนที่ด้วย HFS+ กับ APFS HFS ใช้โครงสร้างไดเรคทอรี่แบบลำดับชั้นและรองรับคุณสมบัติการทำงานอย่างเมต้าดาต้าและ resource fork สำหรับจัดเก็บข้อมูลไฟล์เพิ่มเติม โดยสามารถใช้ได้กับระบบ Mac รุ่นเก่า
ข้อดี
- ความเรียบง่าย: HFS มีความเรียบง่ายและไม่ซับซ้อนอะไร ทำให้สะดวกในการใช้งานและทำความเข้าใจ
- รองรับเมต้าดาต้า: HFS โดยมีคุณสมบัติพิเศษด้านเมต้าดาต้า เพื่อให้สามารถจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไฟล์ เช่น วันที่จัดทำและแก้ไข ประเภทไฟล์และ resource fork ที่เกี่ยวข้อง
ข้อเสีย
- ขาดคุณสมบัติการทำงานขั้นสูง: HFS ไม่มีคุณสมบัติการทำงานขั้นสูง อย่างระบบไฟล์ ข้อมูลรุ่นใหม่อื่น ๆ และไม่รองรับการกำหนดสิทธิ์รักษาความปลอดภัยระดับไฟล์ การบันทึกการทำรายการ การบีบอัดไฟล์หรือการเข้ารหัสข้อมูล
- รองรับขนาดไฟล์และพาร์ติชั่นที่จำกัด: HFS มีข้อจำกัดในด้านขนาดไฟล์และพาร์ติชั่น โดยที่สามารถรองรับไฟลืขนาดสูงสุด2GB และพาร์ติชั่นขนาดสูงสุด 2TB
- ไฟล์เกิดความเสียหายนอกระบบไฟล์ข้อมูล: เมื่อไฟล์บางประเภทถูกคัดลอกจาก HFS หรือ HFS+ ไปยังระบบไฟล์ข้อมูลอื่น ๆ ที่ระบุไว้นี้ ข้อมูลจะไม่ครอบคลุม resource fork ทำให้ไฟล์ที่คัดลอกไม่สามารถอ่านได้อีกเมื่อนำกลับมาใช้
Ext4 (Fourth Extended File System)
ระบบไฟล์ข้อมูลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบปฏิบัติการ Linux นี่เป็นระบบที่ต่อยอดมาจาก Ext3 และมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่นในการปรับโครงสร้างการทำงานและเสถียรภาพในการทำงาน
ข้อดี
- ระบบบันทึกการทำรายการ (Journaling): บันทึกการทำรายการเป็นการบันทึกการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ก่อนที่จะรับรองไปยังดิสก์ เพื่อที่จะให้กู้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่ไฟฟ้าดับหรือระบบล่ม และช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะเสียหาย
- ขนาดไฟล์และพาร์ติชั่นที่เพิ่มขึ้น: Ext4 รองรับขนาดไฟล์และพาร์ติชั่นที่ใหญ๋กว่าเดิมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ข้อเสีย
- การกระจัดกระจายข้อมูล: Ext4 มีปัญหาเรื่องข้อมูลกระจัดกระจายเช่นเดียวกับระบบไฟล์ข้อมูลอื่น ๆ ส่วนใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไปจากการสร้าง แก้ไขและลบไฟล์ข้อมูล ข้อมูลจะมีการกระจัดกระจายทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง
- ความยืดหยุ่นในการปรับโครงสร้างการทำงานที่น้อย: แม้ว่า Ext4 จะรองรับไฟล์และพาร์ติชั่นขนาดใหญ่ขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการเมื่อพูดถึงความยืดหยุ่นในการปรับขนาดโครงสร้างการทำงาน
ระบบไฟล์ข้อมูลเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของระบบประมวลผล เนื่องจากเป็นพื้นฐานในการกำหนดโครงสร้าง การจัดเก็บและการสืบค้นข้อมูลเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้นไป ระบบไฟล์ข้อมูลก็จะต้องพัฒนาไปด้วยตามความต้องการด้านการจัดเก็บข้อมูล
โฆษณา