Alibaba ตลาดอีคอมเมิร์ซแข่งดุ กดดันการเติบโตระยะยาว
หุ้นต่างประเทศสัปดาห์นี้ Wealthy Thai อยากชวนนักลงทุนมาสำรวจแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของหุ้นอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในจีนอย่าง Alibaba (9988) หลังภาวะเศรษฐกิจในจีนฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ ทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้นรวมถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง อาจเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ให้มุมมองว่า Alibaba เผยรายได้ไตรมาส 4/67 (เดือนม.ค.-มี.ค. 67) เพิ่มขึ้น 6.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าคาดเล็กน้อย เนื่องจากการมุ่งเน้นไปที่สินค้าราคาประหยัดเพื่อตอบสนองต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างระมัดระวังช่วยเพิ่มยอดขายอีคอมเมิร์ซในประเทศ
แต่อย่างไรก็ดีด้วยภาพการลดราคาสินค้ากลับทำให้กำไรลดลง 86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งหดตัวมากกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 4 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้และเตรียมจ่ายต่อไปอีก 3 ปี
ขณะที่บริษัทคาดว่ารายได้คลาวด์จะเร่งเติบโตได้สู่ระดับสองหลักในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 หนุนจากคลาวด์ AI ด้านคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ (AIDC) จะเห็นการขาดทุนที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนแต่ยังคงมีการปรับปรุง Economic of scale ต่อเนื่องในปี 2568 นอกจากนี้บริษัทมีแผนในการพัฒนาธุรกิจต่อเนื่อง เช่น ลดราคาคลาวด์, ขายสินทรัพย์ที่ไม่ใช่หลัก และลงทุนในงานวิจัยด้าน AI
จากภาพงบไตรมาส 4/67 ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าบริษัทยังคงมีแรงกดดันจากการแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรมอยู่ ทั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซหลักในจีนเติบโตเพียง 4% สะท้อนถึงแรงกดดันจากคู่แข่ง เช่น PDD และ ByteDance ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ไม่สม่ำเสมอซึ่งกดดันแรงซื้อของผู้บริโภคเช่นกัน รวมถึงธุรกิจคลาวด์โตเพียง 3% กดดันจากกการแข่งขันสูงจากคู่แข่งรายใหญ่ ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีการปรับลดราคาบริการคลาวด์ลงมากถึง 59% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนโดยศูนย์ข้อมูลนอกจีน
อย่างไรก็ดีมองว่าจุด Bright Spot ของผลประกอบการไตรมาสนี้ยังคงอยู่ที่ ภาพธุรกิจในต่างประเทศยังดีและมีผลการดำเนินงานที่แกร่ง โดยรายได้ค้าปลีกโตกว่า 56% และอีคอมเมิร์ซโตกว่า 45% รวมถึงกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ที่รายได้เติบโตแกร่ง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อีกทั้งมาร์จิ้นของกลุ่มคลาวด์ยังมีภาพการขยายตัวที่ดี 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการมุ่งเน้นไปที่ระบบคลาวด์สาธารณะและประสิทธิภาพการดำเนินงาน
ถึงแม้ในระยะยาว Alibaba จะยังมีความโดดเด่นจาก 1. แพลตฟอร์ม E-commerce ขนาดใหญ่ในจีนหากเทียบด้วย Gross Merchandise Volume, 2. มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ รวมถึงมีอัตราการกลับมาใช้งานอีก (Retention Rate) กว่า 90%, 3. ธุรกิจมีความหลากหลายในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ธุรกิจคลาวด์ โลจิสติกส์ E-commerce ฯลฯ และ 4. ฐานะทางการเงินและ Balance sheet แกร่ง
แต่ในระยะสั้นฝ่ายวิเคราะห์มองว่าบริษัทยังคงมี Downside ที่ทำให้ราคาหุ้นมีความผันผวนได้จากการอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจ โดยมีการพิจารณาออกจากธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักอย่างธุรกิจค้าปลีกที่มีภาพการแข่งขันที่สูงและทำกำไรได้น้อย อย่างไรก็ดีการออกจากธุรกิจต้องใช้ระยะเวลาในระดับนึง ซึ่งหากมีการทำจริงคาดว่าจะเห็นผลได้ในช่วง 2-3 ไตรมาสถัดไป ประกอบกับภาพกดดันหลักอย่างการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่รุนแรง
โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยประเมินว่าปัจจัยเสี่ยงนี้จะกดดันบริษัทเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งภาพนี้ทำให้ความน่าสนใจในการลงทุนระยะยาวของบริษัทสูญหายไป
นอกจากนี้ภาพตลาดจีนยังคงมีความผันผวนกดดันจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่เต็มที่และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงน้อยอยู่ ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มผลประกอบการและปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบันอาจจะสอดคล้องไปกับภาพมูลค่าหุ้นในปัจจุบัน
ด้วยภาพนี้ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ากลยุทธ์การลงทุนสำหรับ Alibaba คือ สำหรับใครที่มีหุ้น แนะติดตามทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังว่าแผนการปรับโครงสร้างองค์กรจะเห็นผลได้หรือไม่ ซึ่งหากราคามีการฟื้นตัวในช่วงนั้น แนะนำหาจังหวะขายออกเพื่อลดความผันผวนของพอร์ต และหันไปเล่นหุ้นตัวอื่นที่ให้ Risk Reward ที่น่าจะคุ้มค่ากว่า Alibaba
สำหรับใครที่ไม่มีหุ้น มองว่าการฟื้นตัวของ Alibaba ยังคงมีความไม่ชัดเจนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง จึงให้คำแนะนำมอง Peers อย่าง AMZN ที่เริ่มมุ่งไปที่ธุรกิจที่ทำกำไรและมีภาพการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ รวมถึง PDD ที่ธุรกิจยังคงมีการขยายตัวได้มากกว่า ด้าน Bloomberg ให้ราคาเป้าหมาย Alibaba ไว้ที่ 98.2 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งมี Upside 18.8% จากราคาปัจจุบัน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
