23 พ.ค. 2024 เวลา 00:14 • ประวัติศาสตร์

รอยดำในประวัติศาสตร์ไทย-เวียดนาม (2)

โดย
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
1
ขอรับใช้เรื่องไทย-เวียดนามต่อจากคอลัมน์ก่อนหน้านี้ครับ การรบระหว่างทหารจากกรมทหารอาสาสมัครไทยกับเวียดกงเต็มไปด้วยความรุนแรง มีการบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายไทยไม่ได้นำมาเรียนในสถาบันการศึกษาเพราะเราไม่ใช่ฝ่ายที่โดนกองกำลังต่างชาติเข้ามากระทำย่ำยีในแผ่นดินของตนจึงเฉยๆ
เมื่อวันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปก็ลืมเลือนจางหายไป แต่ฝ่ายเวียดนามไม่ใช่ นำมาศึกษาซ้ำๆ และย้ำเตือนกันตลอดเวลา ว่ากองกำลังอาสาสมัครของไทยเคยเข้าไปช่วยสหรัฐฯฆ่าพวกตน
รัฐบาลรับสมัครชายไทยไปเป็นอาสาสมัครในกรมทหารอาสาสมัคร (กรม อสส.) ต่อมาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯแน่นแฟ้นขึ้น กองทัพบกไทยไม่เอาแล้วแค่ ‘กรม’ ตั้งเป็น ‘กองพล’ เพื่อลุยเวียดนามกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยดีกว่า
1
ค.ศ.1968 มีการตั้ง พล.อสส. หรือ ‘กองพลทหารอาสาสมัคร’ ที่คนไทยรู้จักกันในนาม ‘กองพลเสือดำ’ ส่วนทหารอเมริกันเรียกกองพลนี้ว่า Black Panther Division มีกำลังพลทั้งสิ้น 11,300 นาย
1
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯลึกซึ้งจนไทยต้องตั้งกองพลใหม่เพื่อช่วยสหรัฐฯ โดยแปรสภาพจากกองพลทหารอาสาสมัคร (กองพลเสือดำ) เป็นกองพลใหม่ที่เรียกว่า ‘กองพลที่ 9’ ซึ่งปัจจุบันทุกวันนี้ก็คือ ‘กองพลทหารราบที่ 9’ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
'จงอางศึก' (กรมทหารอาสาสมัคร) และ 'กองพลเสือดำ' (กองพลทหารอาสาสมัคร) เป็นหนามตำใจชาวเวียดนามที่ยังไม่มีการดึงออกจนถึงปัจจุบัน
เราพัฒนากองกำลังเพื่อทำงานร่วมกับสหรัฐฯถึงขนาดตั้ง ‘กองบัญชาการกองกำลังทหารไทยในสาธารณรัฐเวียดนาม’ ขึ้นตรงกับกองบัญชาการทหารสูงสุด เข้าไปลุยในแผ่นดินของประเทศเพื่อนบ้านเป็นเวลานานหลายปี
ฝ่ายสหรัฐฯสนับสนุนการรบของทหารไทยอย่างต่อเนื่อง ใช้เครื่องบินซี-47 สปุ๊กกี้ ทิ้งพลุส่องสว่างไสวเพื่อให้ทหารไทยยิงปืนใหญ่ใส่พวกเวียดนาม สหรัฐฯสนับสนุนปืนใหญ่และเฮลิคอปเตอร์กันชิปเกือบทุกครั้งที่ทหารไทยไปปฏิบัติการ
มีการตั้งฐานทัพสหรัฐฯในไทยหลายแห่ง ที่จำได้ก็มีค่ายรามสูร สถานีเรดาร์เกาะคา ฐานบินอู่ตะเภา ฐานบินโคราช ฐานบินตาคลี ฐานบินอุบลราชธานี ฐานบินนครพนม และฐานบินน้ำพอง
1
เรายังให้สหรัฐฯแอบสร้างฝูงบินปฏิบัติการพิเศษมากถึง 10 ฝูง เป็นฝูงบินลับที่คนไทยอาจจะไม่ทราบ แต่ภายหลังมีการเปิดเผยและนำไปเรียนกันในโซเวียตและเวียดนาม
เมื่อรู้ว่าจะแพ้ สหรัฐฯก็ขอให้มีการเจรจาที่กรุงปารีสเมื่อ ค.ศ.1973 การเจรจาครั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าสงครามจะยุติ แต่ ‘ข้อตกลงปารีส’ อนุญาตให้สหรัฐฯถอนตัวจากสงครามอย่างมีศักดิ์ศรี
2
สหรัฐฯยังหลอกให้ฝ่ายเราละเมอเพ้อพกว่าจะยังให้การสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ พวกเอ็งรบกันไปเถิด ข้าไม่เอาด้วยแล้ว แต่จะส่งอาวุธให้พวกเอ็งชาวเอเชียเอาไปรบกันให้ตายกลายเป็นผี
1
หลังจากที่ถอนตัวไปแล้ว อาวุธที่สหรัฐฯให้มีแต่มือสองของเก่าที่เอามาจากเกาหลีใต้และไต้หวัน
สตางค์ที่ว่าจะให้ สภาคองเกรสก็ตัดโน่น ลดนี่ ทหารถูกลดเงินเดือนจนไม่พอที่จะส่งไปดูแลครอบครัวได้ เครื่องบินจำนวนมากจอดคาสนามบินเพราะไม่มีน้ำมันเติม
1
ก่อนหน้าที่จะถูกเท ทหารเอเชียที่ซุกอยู่ตามง่ามตูดของสหรัฐฯไม่เชื่อว่าสหรัฐฯจะเบ่งก้นให้พวกตนไหลลงไปอยู่ในโถส้วม ทุกคนตะโกนว่าสหรัฐฯหักหลัง คำว่า ‘หักหลัง’ ดังลั่นไปในทุกหย่อมหญ้า จนทหารเอเชียที่เข้าไปช่วยสหรัฐฯรบกับเวียดนามหมดกำลังใจ
4
30 เมษายน 1975 เวลาเช้าตรู่ รถถังที-54 หมายเลข 843 ที่มีผู้บังคับรถชื่อ ‘บุยกวางธาน’ พังประตูทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไซ่ง่อน ทหารเวียดนามใต้ในวันนั้นยืนนิ่งเป็นลิงป่วย ขาดกำลังใจ ไม่มีแรงแม้แต่จะยกปืนขึ้นสู้
บุยกวางธานออกจากรถถังหมายเลข 843 โบกธงเวียดนามเหนือ แล้ววิ่งขึ้นไปในทำเนียบประธานาธิบดี ปลดธงชาติเดิมลงแล้วก็นำธงชาติเวียดนามเหนือชักขึ้นไปโบกสะบัดพัดเด่นเป็นสง่า
1
เป็นอันว่าสหรัฐฯ (และไทย) พ่ายแพ้ในสงครามเวียดนาม ทิ้งรอย แผลเป็นที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจของชาวเวียดนามจนถึงปัจจุบัน.
2
โฆษณา