23 พ.ค. 2024 เวลา 11:26 • ธุรกิจ

รู้จัก ฟีโบนัชชี ตัวเลขทองคำ จากซีรีส์ The 8 Show

หากพูดถึง The 8 Show ซีรีส์เกาหลีบน Netflix
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู สรุปแบบไม่สปอยล์ ก็คือ จะเป็นซีรีส์เกี่ยวกับเกมโชว์แลกเงิน แนวเสียดสีสังคม
3
ภายในเรื่อง ได้มีการพูดถึงคำว่า “ฟีโบนัชชี” รวมอยู่ด้วย ใช้สำหรับการให้รายได้ต่อนาที กับผู้เล่นตามแต่ละชั้น
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ฟีโบนัชชี ก็ถือเป็นเครื่องมือยอดฮิตในโลกการลงทุน
วันนี้ เรามาดูกันว่าฟีโบนัชชี เกิดขึ้นมาได้อย่างไร
และถูกนำไปใช้ในอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
ความเป็นจริงแล้ว ฟีโบนัชชี คือลำดับเลขที่พบเจอได้ทั่วไปในธรรมชาติ
ต่อมาได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นิยมใช้กัน สำหรับงานออกแบบและงานศิลปะ เช่น ภาพวาดโมนาลิซา รวมถึงนำไปประยุกต์ใช้กับการลงทุน
ฟีโบนัชชี ได้ถูกตั้งตามชื่อ “Leonardo Fibonacci” นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี
แต่ต้องบอกว่าเขาคนนี้ ไม่ได้เป็นผู้คิดค้นลำดับเลขดังกล่าว..
คำถามคือ แล้วใครคิด ?
ย้อนกลับไปเริ่มกันก่อน ที่เรื่องราวของนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี Leonardo Fibonacci
หรือที่รู้จักกันก่อนจะมีชื่อเสียงว่า Leonardo Pisano แปลว่าลีโอนาร์โด แห่ง ปิซา
เขาเกิดที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลี ประมาณปี ค.ศ. 1170 เขาเป็นบุตรชายของพ่อค้าในเมืองปิซา ที่ชื่อว่า Bonaccio
1
ส่วนชื่อที่เรารู้จักกันดีว่า Fibonacci มีที่มาจากคำว่า Filius Bonacci แปลว่าลูกชายของ Bonaccio นั่นเอง
1
จากการที่พ่อของเขาเป็นพ่อค้า ซึ่งต้องออกเดินทางไปยังต่างแดนและติดต่อค้าขาย
ทำให้ Fibonacci ได้มีโอกาสช่วยเหลืองานด้านค้าขาย
จึงได้รู้จักกับระบบเลข ฮินดู-อารบิก ที่ใช้ตัวเลขเพียง 0 ถึง 9 ในการแทนจำนวนทั้งหมด ไม่ว่าจะมากแค่ไหนก็ตาม
ซึ่งตัวเขาก็สนใจและสังเกตว่า ระบบเลขแบบนี้ สามารถแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ได้
แถมยังใช้งานได้ง่ายกว่าระบบเลขโรมัน ซึ่งยังคงใช้กันอยู่ทั่วยุโรปในเวลานั้น
ต่อมา Fibonacci ได้เดินทางไปทั่วดินแดนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและได้เล่าเรียนการคำนวณรูปแบบต่าง ๆ กับบรรดาครูชาวอาหรับ
เมื่อเขาได้เดินทางกลับมายังอิตาลี เขาจึงเขียนหนังสือมากมายเพื่อบอกเล่าถึงวิชาการคำนวณรูปแบบต่าง ๆ ที่ได้พบเจอ
หนึ่งในนั้น คือหนังสือชื่อว่า “Liber Abaci” มีความหมายว่าหนังสือแห่งการคำนวณ ซึ่งหนังสือเล่มนี้เอง ที่ได้สร้างชื่อให้กับ Fibonacci เป็นอย่างมาก
เพราะมันเป็นหนังสือที่ทำให้ชาวยุโรปได้รู้จักระบบเลข ฮินดู-อารบิก ซึ่งได้กลายเป็นที่นิยม จนเข้ามาแทนที่ระบบเลขโรมันในเวลาต่อมา
1
นอกจากเรื่องของระบบเลขแบบใหม่แล้ว สิ่งที่ถูกเขียนอยู่ในหนังสือด้วย ก็คือเรื่องของการไขปัญหา “การเกิดของประชากรกระต่าย”
โดยแสดงออกมา ผ่านระบบตัวเลขชุดหนึ่ง ซึ่งถูกเรียกในภายหลังว่า “ลำดับเลขฟีโบนัชชี” ตามชื่อของเขา
อย่างไรก็ตาม Leonardo Fibonacci ไม่ได้เป็นผู้คิดค้นลำดับเลขฟีโบนัชชีขึ้นมา เนื่องจากมีการค้นพบในภายหลังว่า ลำดับเลขดังกล่าว เป็นที่รู้จักกันในหมู่นักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียมาก่อนหน้านั้นหลายร้อยปีอยู่แล้ว..
แล้วลำดับเลขฟีโบนัชชี มีลักษณะอย่างไร ?
ลำดับเลขฟีโบนัชชี คือ ลำดับเลขที่เกิดจากการนำจำนวนก่อนหน้า 2 ลำดับ มาบวกกัน
เพื่อให้ได้ลำดับถัดไป โดยเริ่มต้นด้วยเลข 0 และ 1 ก็จะได้เป็น
0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233, 377, ….
จะสังเกตได้ว่า เลข 2 เกิดขึ้นมาจากลำดับก่อนหน้า 2 ตัวบวกกันคือ 1 + 1
หรือเลข 21 ก็คือผลบวกจากลำดับก่อนหน้า 2 ตัว คือ 8 + 13 เช่นเดียวกัน
ความพิเศษของเลขฟีโบนัชชีคือ เราสามารถพบเห็นลำดับเลขแบบนี้ในธรรมชาติรอบตัว
อย่างเช่น
- จำนวนเกลียวของเมล็ดดอกทานตะวัน
- จำนวนแถวของตาสับปะรด
- จำนวนกลีบของดอกไม้
นอกจากนี้ ลำดับเลขฟิโบนีกชี ยังมีโครงสร้างรูปก้นหอย ที่เกิดจากการใช้สี่เหลี่ยมจัตุรัส
นำมาต่อกันตามลำดับเลขฟีโบนัชชี แล้ววาดเส้นโค้งจากมุมหนึ่งไปยังอีกมุมหนึ่ง
เส้นโค้งก้นหอยลักษณะนี้ สามารถพบเจอได้ในธรรมชาติ ตั้งแต่รูปทรงของเปลือกหอย ไปจนถึงรูปทรงของกาแล็กซี
ในวงการออกแบบ อัตราส่วนความโค้งดังกล่าวถูกเรียกว่า “สัดส่วนทองคำ” หรือ Golden Ratio มีอัตราส่วน 1 ต่อ 1.618
เรียกได้ว่าเป็นสัดส่วนที่ทำให้งานออกแบบ มีสัดส่วนที่งดงามตามโครงสร้างของธรรมชาติ
โดยตัวเลขนี้เกิดจากการนำเลขในลำดับฟีโบนัชชี มาหารด้วยจำนวนก่อนหน้า
ซึ่งตัวเลขที่ได้จะมีผลลัพธ์เข้าใกล้ “1.618” อย่างเช่น
- 89 หารด้วย 55 เท่ากับ 1.61818
- 144 หารด้วย 89 เท่ากับ 1.61797
- 233 หารด้วย 144 เท่ากับ 1.61805
1
แล้วคำถามที่ตามมาก็คือ ฟีโบนัชชี เกี่ยวอะไรกับการลงทุน ?
จากหลักการของ Golden Ratio ที่ใช้ตัวเลขใดตัวเลขหนึ่ง ในลำดับฟีโบนัชชี นำมาหารด้วยจำนวนก่อนหน้า
1
หากลองกลับกันเป็น นำจำนวนก่อนหน้ามาหารด้วยจำนวนในลำดับถัดไป ค่าที่ได้จากการหาร จะใกล้เคียงกับค่าคงที่ค่าหนึ่งเสมอ ตัวอย่างเช่น
- หารด้วยลำดับถัดไป 1 ตำแหน่ง
34 หารด้วย 55, 55 หารด้วย 89, … ผลลัพธ์เท่ากับ 0.618
1
- หารด้วยลำดับถัดไป 2 ตำแหน่ง
34 หารด้วย 89, 55 หารด้วย 144, … ผลลัพธ์เท่ากับ 0.382
- หารด้วยลำดับถัดไป 3 ตำแหน่ง
34 หารด้วย 144, 55 หารด้วย 233, … ผลลัพธ์เท่ากับ 0.236
4
จากตัวเลขดังกล่าว นักลงทุนจึงได้นำมาประยุกต์ใช้กับการซื้อขายสินทรัพย์ เพื่อกำหนดรอบการแกว่งตัวของกราฟ เรียกว่า “Fibonacci Retracement”
โดย Fibonacci Retracement จะถูกแบ่งตามสัดส่วน คือ 23.6%, 38.2% และ 61.8% จากจุดต่ำสุด ถึงจุดสูงสุดของกราฟ
ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นระดับแนวรับ แนวต้าน หรือวัดรอบการแกว่งตัวของราคา เพื่อหาจุดกลับตัวของรอบ ซึ่งหลายคนเชื่อกันว่า มันเป็นจุดจิตวิทยาที่สามารถใช้จับจังหวะซื้อหรือขายได้
แม้ลำดับเลข และอัตราส่วนฟีโบนัชชี จะสามารถพบเห็นได้ในธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง
แต่ในส่วนของการลงทุนนั้น ความมหัศจรรย์ของฟีโบนัชชี เกิดขึ้นจากการที่เหล่านักลงทุน ต่างมองหาจุดสังเกตบนกราฟ เพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุน
และค่าหนึ่งที่นักลงทุนชอบมาใช้ร่วมกันก็คือ สัดส่วนฟีโบนัชชี
ซึ่งทุกคนก็ไม่ทราบว่าอย่างไหน เป็นเหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้เลขฟีโบนัชชีมีความแม่นยำ ระหว่าง
1. เลขนี้มันมีความมหัศจรรย์จริง ๆ ในการหาจุดกลับตัวในกราฟ
หรือว่า
2. เลขนี้ไม่ได้มีความมหัศจรรย์อะไร แต่บังเอิญว่าทุกคนเฝ้ารอที่จุดนี้เหมือนกัน
1
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหน มันก็ได้กลายเป็นตัวเลขทองคำ ที่นักลงทุนสายเทคนิคทุกคนควรต้องรู้ ไปเรียบร้อยแล้ว..
1
โฆษณา