2 มิ.ย. 2024 เวลา 03:16 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

บรูซ เหลียง ตอนที่ 2

เหลียงเสี่ยวหลง ภรรยาถูกสาดน้ำกรด ตนเองถูกแบน ชีวิตนี้ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
ความเดิมจากตอนที่แล้ว เหลียงเสี่ยวหลงเติบโตมาในครอบครัวที่มีพี่น้องถึง 11 คนอาศัยอยู่กับย่าและลุง เพราะพ่อที่เป็นหัวหน้าคณะงิ้วเล็กๆ ต้องเดินทางเปิดการแสดงจนไม่มีเวลาอยู่เลี้ยงดูลูก ย่าผู้หากินด้วยการปลูกผักเก็บขยะเลี้ยงดูหลานๆ ต้องประสบความลำบากถูกดูถูกจากคนฮ่องกงที่รังเกียจคนแผ่นดินใหญ่ จนเหลียงเสี่ยวหลงตั้งใจว่าจะเก่งการต่อสู้ให้ได้
เขาเรียนการต่อสู้เล็กๆน้อยๆจากพ่อ แต่ลุงที่ทำงานด้านคิวบู๊ที่ชอว์บราเดอร์เป็นผู้สอนกังฟูให้เขาอย่างจริงจัง ลุงฝากสั่งเขาให้เรียนวิชาคาราเต้และวิชาการต่อสู้อื่นๆจากปรมาจารย์สายดำชาวญี่ปุ่น เหลียงเสี่ยวหลงเข้าวงการหนังในฐานะสตันท์แมน แต่ก็ไม่วายมีเรื่องชกต่อยไปทั่ว จนครั้งหนึ่งที่เขามีเรื่องวิวาทกลางถนนจนอู่ซื่อหยวนพบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทาบทามเขาเข้าสังกัด
หลังจากอู่ซื่อหยวนค้นพบอัญมณีเม็ดนามที่ยังไม่เจียระไนเม็ดนี้ เขาพยายามที่จะดันเหลียงเสี่ยวหลงขึ้นมาในฐานะดารานักบู๊คนใหม่ที่ช่วงเวลานั้นมีแต่ชื่อของบรูซ ลีดังคับโลก ในปี 1972 เขาลงทุนทำหนัง "Live the Dragon and Live the Tiger" แต่เนื่องจากหนังเรื่องนี้นองเลือดและรุนแรงเกินไป จึงไม่ได้รับการอนุมัติให้ฉายในฮ่องกง แต่หนังก็ไปฉายในต่างประเทศก่อนจนถึงปี 1975 ที่หลักเกณฑ์ต่างๆผ่อนปรนมากขึ้นจึงได้เข้าโรงให้ผู้ชมฮ่องกงได้ดูกัน
งานในยุค 70 ยุคแรกของเขาต้องเรียกว่าลุ่มๆ ดอนๆ อยู่ในหนังทุนต่ำถึงต่ำมาก แต่ก็พอเก็บเกี่ยวชื่อเสียงได้บ้างโดยเฉพาะในไต้หวัน ทำให้เขามีงานแสดงทั้งฝั่งฮ่องกงและไต้หวันไปๆ มาๆ อยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่ดังถึงขีดสุดเสียที
เหลียงเสี่ยวหลงคงนึกว่าฟ้าให้พลังฝีมือข้ามาเป็นคนเก่ง แต่ดันไม่ประทานเบ้าหน้าให้ชวนมอง แต่หารู้ไม่ว่าเขาหน้าแบบนี้แหละจะโด่งดังคัพฟ้าในยุค 1980 กับซีรีส์โทรทัศน์ของอาร์ทีวีเรื่อง "Heroes Fearless" - นักชกผู้พิชิตและ "Chen Zhen" ที่เป็นภาคต่อ
แต่ก่อนที่จะถึงยุครุ่งเรืองดังสุดขีดของเขา เหลียงเสี่ยวหลงต้องฝ่าด่านมรสุมรักเหมือนกับคำที่บอกว่าวีรบุรุษยากฝ่าด่านหญิงงาม แล้วหญิงสาวนางนั้นไม่ใช่คนธรรมดา เธอเป็นถึงนักร้องดัง เป็นลูกครึ่งจีน-อังกฤษมีชื่อว่าหลี่อ้ายเหลียน (Li Ai Lian) ที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น ซึ่งเมื่ออายุ 17 ปี เธอได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากการแข่งขันร้องเพลงที่ฮ่องกง เธอที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งใบหน้าสะสวยเมื่อเทียบกับเหลียงเสี่ยวหลงแล้ว มันเหมือนกับดอกฟ้ากับหมาวัดดีๆนี่เอง
เหลียงเสี่ยวหลงทราบดีว่าหนัาตาและชื่อเสียงของตนเองไม่สามารถที่จะเด็ดดอกฟ้ามาได้แน่ๆ หากดอกฟ้านั้นไม่โน้มตัวมาหาหมาวัดเช่นเขา เป็นเหลียงเสี่ยวหลงที่ถูกหลี่อ้ายเหลียนไล่จีบ เนื่องจากความสวยงามและชื่อเสียงของเธอ มีผู้ชายหลายคนให้ความสนใจตามจีบเธอมาก แต่เธอแค่ชอบเหลียงเสี่ยวหลง และเธอคิดไปไกลถึงขั้นแต่งงานกัน
พ่อแม่ของหลี่อ้ายเหลียนดูถูกเหลียงเสี่ยวหลงเป็นอย่างมาก เหลียงเสี่ยวหลงด้อยกว่าลูกสาวของพวกเขา ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์หรืออาชีพ จนถึงกับบังคับให้ทั้งสองแยกจากกัน ถึงกับยื่นคำขาดกับหลี่อ้ายเหลียนว่า
“ถ้าลูกกล้าแต่งงานกับเขา ก็ตัดความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกกันเถอะ”
แต่ในเวลานั้น หลี่อ้ายเหลียนรักเหลียงเสี่ยวหลงจนไม่ยอมฟังคำของพ่อแม่ เธอถึงกับขู่ไปว่าถ้าไม่ได้แต่งงานกับเหลียงเสี่ยวหลง เธอจะไม่แต่งงานกับใครเลย แล้วถ้าพ่อแม่บังคับให้เลิกกัน ก็จะไปบวชเป็นแม่ชีไม่สึกอีกเลย
แต่สำหรับเหลียงเสี่ยวหลงแล้ว เขาอาจจะไม่ได้รักหลี่อ้ายเหลียนเท่าที่เธอรักเขา หรืออาจจะเป็นเพราะรู้สึกทนฐานะที่แตกต่างกันไม่ได้ จนรู้สึกด้อยกว่า เขาจึงเลือกที่จะเดินจากเธอไป ยุติความสัมพันธ์กับหลี่อ้ายเหลียน
กระทั่งความสัมพันธ์จบสิ้นไปแล้วสองปี ทั้งสองกลับมาพบกันอีกในหนังของอู๋ซือหยวน ซึ่งในช่วงนั้นเหลียงเสี่ยวหลงเป็นที่รู้จักกันมากในไต้หวัน หนังของเขาส่วนใหญ่ออกฉายนอกฮ่องกงและไปไกลถึงตะวันตก และอีกครั้งในคราวนี้หลี่อ้ายเหลียนเริ่มการจู่โจมเหลียงเสี่ยวหลง และในที่สุดเหลียงเสี่ยวหลงก็ตัดสินใจเป็นคู่รักกับเธอ จนในปี 1975 เหลียงเสี่ยวหลงและหลี่อ้ายเหลียนแต่งงานกัน และชีวิตของพวกเขาก็มีความสุขหลังจากนั้น หลี่อ้ายเหลียนยังให้กำเนิดลูกสาวให้เขาด้วย
ในปี 1976 เหลียงเสี่ยวหลง รับบทเป็นหยางคังหรือเอี้ยคังที่คนไทยรู้จักดีในละครมังกรหยก ในเวลานั้นเหลียงเสี่ยวหลงมักถ่ายทำหนังและละครไปมาระหว่างฮ่องกงและไต้หวัน เล่นทั้งหนังโรงและหนังทีวี แต่จาความเป็นคนไม่ยอมคนของเขา ทำให้เขามีปัญหากับคนในกองถ่ายหนังบ้าง มีคนไม่พอใจเขาเยอะจนถึงขั้นอยากสั่งสอน
ในวันหนึ่ง ขณะที่ภรรยาของเขากำลังอาบน้ำอยู่ในบ้าน ก็ได้มีคนขว้างงูเข้าห้องน้ำ จนหลี่อ้ายเหลียนรู้สึกหวาดกลัวมาก ตอนนั้นเธอคิดว่าอาจจะมีขโมยเข้าบ้าน แต่ก็ไม่มีสิ่งของอะไรหายไป ต่อมาในเดือนมกราคม 1979 ปีที่สี่ของการแต่งงาน ก็ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอีกครั้ง ในเวลานั้นหลี่อ้ายเหลียนเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จและออกกำลังด้วยเดินอยู่บนภูเขาใกล้บ้านของเธอ มีชายสวมหน้ากากเดินมาขนาบข้างของเธอพร้อมกับสาดน้ำกรดใส่ใบหน้าของหลี่อ้ายเหลียน น้ำกรดกัดเนื้ออ่อนๆ ของเธอจนเสียโฉม ได้รับบาดเจ็บสาหัส
แม้ว่าชีวิตของเธอจะได้รับการช่วยชีวิต แต่ใบหน้าก็เสียโฉมเช่นกัน ในเวลานั้น หลี่อ้ายเหลียนเจ็บปวดมากจนเธอทนไม่ได้ที่จะมองกระจก แล้วเห็นใบหน้าที่ไหม้เกรียม
ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายลงมือกับเธอเพราะต้องการสั่งสอนเหลี่ยงเสี่ยวหลง แต่คดีความนี้ตำรวจไม่ได้สืบสวนความจริงอย่างเต็มที่ เป็นที่ทราบกันเพียงว่าเหลียงเสี่ยวหลงได้ทำให้ใครบางคนขุ่นเคือง และถูกอีกฝ่ายตอบโต้แต่ไปลงที่ภรรยาของเขา ถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ
เป็นเรื่องน่าเศร้ามากหญิงสาวอนาคตไกลต้องถูกกระทำเช่นนี้ หลังจากเหตุการณ์นั้น หลี่อ้ายเหลียนไม่ร้องเพลง ไม่ออกสังคม และเธอพยายามฆ่าตัวตายด้วยการเชือดข้อมือตนเอง 3-4 ครั้ง รวมทั้งกินยานอนหลับเกินขนาดเพื่อฆ่าตัวตาย รวมแล้วเธอพยายามฆ่าตัวตายมากกว่า 6 ครั้ง แต่เหลียงเสี่ยวหลงก็หยุดความพยายามของเธอไว้ได้ เพื่อช่วยภรรยาของเขาฟื้นฟูรูปร่างหน้าตาของเธอ เธอจึงใช้ทรัพย์สมบัติของครอบครัวไปมากกว่า 4 ล้านเหรียญฮ่องกง
แต่หลังจากที่ภรรยาของเขาฟื้นฟูสภาพแล้ว เหลียงเสี่ยวหลงก็เลือกที่จะหย่าร้าง หลายคนคาดเดาว่าเหลียงเสี่ยวหลงทำให้ผู้อื่นขุ่นเคืองและทำให้ภรรยาของเขาได้รับอันตราย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เขาจึงยื่นฟ้องหย่า หรือบ้างก็คาดเดากันว่าใบหน้าที่เสียโฉมของภรรยาทำให้ยิ่งเห็นหน้ายิ่งทำให้ทั้งคู่ยิ่งเจ็บปวด แยกจากกันไปก็ดีกว่า ส่วนบ้างก็ด่าว่าเหลียงเสี่ยวหลงละทิ้งลูกภรรยา เขาเคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า
“ผมใช้เวลาทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือ อยู่ข้างๆ เธอ ใช้เงินเก็บกว่า 4 ล้านเพื่อรักษา และผมไม่มีอะไรต้องเสียใจกับเรื่องนี้”
ในด้านการแสดงนั้น แม้ว่าจะพอมีชื่อเสียง แต่ดูเหมือนโอกาสที่จะดังยังไม่มาหาเสียที   จนกระทั่งเหลียงเสี่ยวหลงได้พบกับบทเฉินเจินในนักชกผู้พิชิต หรือ Heroes Fearless (1981) เขาเล่นละครของ RTV เรื่องนี้ในปีที่มีอายุ 33 ปี ซึ่งเขาคิดว่าประสบการณ์สุกงอมเพียงพอแล้ว และบทเฉินเจินก็เหมาะสมกับเขามากที่สุด เหมาะสมกับทักษะอันแข็งแกร่ง ละครเรื่องนี้มีความยาว 20 ตอนจบ และปี 1982 ก็มีการทำภาค 2 ออกมาอีก 20 ตอน
เหลียงเสี่ยวหลงมีผลงานชิ้นเอกสองชิ้นติดต่อกันทำให้เหลียงเสี่ยวหลงกระโดดเข้าสู่ทำเนียบ "Hong Kong Four Little Dragons" เคียงข้างเฉินหลง, บรูซ ลี และตี้หลุง และกลายเป็นวีรบุรุษผู้รักชาติในหัวใจของชาวจีนนับไม่ถ้วน
นักชกผู้พิชิตประสบความสำเร็จสูงมากในจีนแผ่นดินใหญ่ เหลียงเสี่ยวหลงกลายเป็นวีรบุรุษผู้ทวงความยุติธรรมให้คนจีน ซึ่งหลังจากละครออกอากาศ เข้าได้รับเชิญให้กลับไปเยือนมาตุภูมิ
เหลียงเสี่ยวหลงรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อเขาเข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ของมาตุภูมิ เขาพูดด้วยอารมณ์
“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้กลับมาเหยียบแผ่นดินแม่ของผมหลังจากที่ผมเกิด ผู้ชมอบอุ่นและเป็นมิตรกับผมมาก เหมือนเป็นญาติของผม ผมรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างลึกซึ้ง ในฐานะคนจีนผมขออวยพรให้มาตุภูมิ......" ประโยคเหล่านี้ทำให้บางคนในไต้หวันไม่พอใจมาก ถึงกับขึ้นบัญชีแดงเหลียงเสี่ยวหลงเลยทีเดียว
ทางไต้หวันขอให้เหลียงเสี่ยวหลงเขียนหนังสือแสดงความเสียใจ ขอโทษกับคำพูดของตนเอง แต่เหลียงเสี่ยวหลงซึ่งตระหนักดีถึงความคิดตนเองได้ปฏิเสธคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลนี้ ดังนั้น เหลียงเสี่ยวหลงจึงถูกแบนในไต้หวัน ซึ่งตอนนั้นยังเป็นตลาดใหญ่ของหนังฮ่องกง มีผู้สร้างหนังฮ่องกงจำนวนมากที่อยากได้เขามาเล่นหนังเพราะกำลังดัง ต้องชะงักการจ้าง จนกระทั่งเขามีงานน้อย
ขณะเดียวกันเขาก็มีช่องทางทำธุรกิจในแผ่นดินใหญ่ และเกษียณไปจากวงการหนังฮ่องกงในปี 1988 ก่อนที่จะกลับมาเล่นหนังอีกครั้งในปี 2004 กับโจวชิงฉือในคนเล็กหมัดเทวดาอีก 16 ปีถัดมา
ในเวลาที่ถอนตัวออกจากวงการหนัง เหลียงเสี่ยวหลงเดินทางไปที่แผ่นดินใหญ่ที่เซินเจิ้นเพื่อเป็นนักธุรกิจและประสบความสำเร็จกับการทำธุรกิจโรงแรมและโต๊ะจีน
และในปี 1994 หลังจากการหย่าไปได้ 10 กว่าปี เหลียงเสี่ยวหลงได้พบกับซ่งเซียง หญิงสาววัย 26 ปีจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนจากการเป็นแม่สื่อของญาติๆเขา เธออายุน้อยกว่าเขาถึง 20 ปี และทั้งสองแต่งงานกัน ซ่งเซียงยังให้กำเนิดลูกชายและลูกสาว โดยที่เหลียงเสี่ยวหลงสอนวิชาการต่อสู้ให้ลูกๆ และมีลูกศิษย์มาเรียนกับเขาพอสมควร จนกลายเป็นปรมาจารย์คนหนุึ่ง
ส่วนหลี่อ้ายเหลียนหลังจากรักษาตัว และถึงแม้ใมบหน้าจะไม่กลับไปสมบูรณ์เช่นเดิม แต่เธอก็เลิกคิดฆ่าตัวตาย และกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในปี 1995 เธอก็มีผู้ชายคนใหม่มาดูแล และในบางโอกาสเธอได้กลับขึ้นเวทีร้องเพลงอีกครั้ง
โฆษณา