4 มิ.ย. 2024 เวลา 15:00 • ไลฟ์สไตล์

“ล้านแรกยากที่สุด” สรุป 5 ความเชื่อด้านการลงทุนที่มักทำให้พลาด ‘เงินล้านก้อนแรก’

เชื่อว่าความฝันของการมี “เงินล้านแรก” เป็นเป้าหมายทางการเงินที่หลายคนอยากไปให้ถึง แน่นอนว่าวิธีในการได้มาซึ่งเงินล้านของแต่ละคนก็อาจแตกต่างกันไป อย่างคนรายได้เยอะ เช่น รายได้หลักแสนต่อเดือน และมีค่าใช้จ่ายคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้ที่น้อย เพียงแค่นำเงินส่วนที่เหลือมาเก็บไว้เฉยๆ ก็อาจได้เห็นเงินล้านภายใน 1-2 ปีแล้ว
แต่ต้องบอกว่าในความเป็นจริง สัดส่วนของคนที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาทต่อปีของไทยค่อนข้างน้อย และจากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า รายได้เฉลี่ยของคนไทยในปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 21,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ยังไม่นับรวมกับรายจ่ายที่คอยกดดันเงินเก็บให้น้อยลงไปกว่าที่ควรจะเป็น
ดังนั้น สำหรับมนุษย์เงินเดือนหรือเด็กจบใหม่ สิ่งที่สามารถใช้เป็นตัวช่วยให้ไปถึงเป้าหมายเงินล้านแรกได้ นอกจากการพึ่งพิงการหารายได้เพิ่มแล้ว ก็ควรให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้เพิ่มมากขึ้นด้วย
หลายคนรู้ดีว่าการลงทุนนั้นสำคัญ ซึ่งถือเป็น Mindset ที่ถูกต้อง แต่หากเจาะลึกลงไปในรายละเอียด เชื่อว่ายังมีบางท่านที่มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลงทุนอยู่ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อเป้าหมายทางการเงินโดยเฉพาะเป้าหมายการมีเงินล้านแรกได้ ดังนั้น วันนี้เราลองมาดูกันหน่อยดีกว่ามีความเชื่อด้านการลงทุนอะไรบ้างที่ต้องเปลี่ยนเพื่อให้วางแผนการลงทุนได้ถูกทาง
❎ อายุยังน้อย มีเวลาอีกเยอะ เดี๋ยวค่อยเริ่มลงทุน
✅ อายุยังน้อย เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มลงทุน
หลายคนโดยเฉพาะคนที่อายุอยู่ระหว่าง 20 - 30 ปี มักคิดว่า การลงทุนไม่ต้องรีบก็ได้ เพราะยังเหลือเวลาอีกเยอะ บวกกับตอนนี้รายได้ยังไม่มากพอที่จะแบ่งไปลงทุน ต้องรอให้รายได้สูงๆ ก่อนแล้วค่อยเริ่ม บอกได้เลยว่า ความเชื่อนี้ควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุนเพื่อให้เงินเติบโตก็คือ “เวลา”
ยิ่งระยะเวลาลงทุนมาก เงินก็จะเติบโตได้มาก และถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เราสูญเสียปัจจัยนี้ไปโดยที่ไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ สำหรับคนทั่วไปไม่เพียงแต่เงินล้านแรกเท่านั้นที่จะกระทบ แต่หมายถึงเป้าหมายของการสร้างเงินก้อนเพื่อไว้ใช้ยามเกษียณที่อาจไปถึงเป้าหมายได้ช้า หรืออาจต้องเลื่อนอายุเกษียณให้นานขึ้นไปด้วยจากการที่เริ่มต้นลงทุนช้า
❎ ลงทุนเท่านั้นที่มี “ความเสี่ยง”
✅ ไม่ลงทุนก็มี “ความเสี่ยง”
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน” เป็นวลีและคำเตือนที่เราได้ยินกันอยู่บ่อยๆ จนทำให้ทุกคนรู้ดีว่า การลงทุนมีความเสี่ยง และความเสี่ยงที่ว่าก็คือ “เสี่ยงที่จะสูญเสียเงินต้น” ด้วยเหตุนี้ หลายคนที่รู้สึกว่าไม่อยากเสี่ยงจึงเลือกที่จะไม่ลงทุน เพราะกลัวเงินหายหรือขาดทุน ต้องบอกแบบนี้ว่า การลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่เสี่ยง
อย่างเช่น การฝากเงิน ไม่ผิด แต่ต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม ควรแบ่งหน้าที่ของเงินแต่ละก้อนให้ชัดเจนว่า เงินก้อนไหนเก็บไว้เพื่อรักษาเงินต้น หรือเงินก้อนไหนเก็บไว้เพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น เพราะไม่ใช่แค่การลงทุนที่มีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเลยก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้มูลค่าของเงินลดลงเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อในอนาคตได้
❎ เงินสำรองฉุกเฉิน = เก็บให้เยอะที่สุด
✅ เงินสำรองฉุกเฉิน = เก็บให้เหมาะสม
การเก็บเงินสำรองฉุกเฉิน หลายคนรู้ดีว่าหากเก็บน้อยจนเกินไปจะทำให้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เงินอาจไม่พอใช้ได้ แต่หลายคนอาจยังมีความเชื่อว่า ต้องเก็บให้ได้เยอะที่สุดถึงจะดี แต่จริงๆ แล้วเงินสำรองฉุกเฉิน เราควรเก็บไว้สูงสุดประมาณ 12 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็พอ เพราะหมายความว่า หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เราจะมีเงินรองรับค่าใช้จ่ายได้ทั้งปี
ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เพียงพอให้ผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินไปได้ ปัญหาของการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินไว้เยอะเกินนั้นจะทำให้สูญเสียโอกาสในการลงทุน เนื่องจากเงินสำรองฉุกเฉินมักเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ซึ่งไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนนั่นเอง
1
❎ “เป็นหนี้” ไม่ควร “ลงทุน”
✅ “เป็นหนี้” ก็ “ลงทุน” ได้
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หลายคนยังไม่เริ่มลงทุน เพราะมองว่ายังเป็น “หนี้” อยู่ ทำให้ลงทุนไม่ได้ แต่ความจริงแล้ว ก่อนจะตัดสินว่าเป็นหนี้แล้วลงทุนได้หรือไม่ เราต้องรู้ก่อนว่าเราเป็นหนี้แบบไหน
สมมติว่า หนี้ที่เรามีเป็นหนี้ดอกเบี้ยสูง เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ หนี้นอกระบบ แบบนี้เราต้องใช้หนี้ให้หมดก่อนแล้วค่อยลงทุนจะดีกว่า เนื่องจากดอกเบี้ยของหนี้เหล่านี้จะอยู่ในระดับ 20% ต่อปีขึ้นไป
การที่เราจะหาสินทรัพย์เพื่อลงทุนให้ได้เกิน 20% ต่อปี เพื่อชดเชยดอกเบี้ยหนี้ที่เสียไปนั้น เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่หากเป็นหนี้ที่ดอกเบี้ยไม่สูงมาก หรือเป็นหนี้ที่คิดอัตราคงที่ไว้แล้ว เช่น หนี้ผ่อนรถยนต์ แบบนี้เราสามารถลงทุนควบคู่กันไปได้ เพราะถึงแม้ว่าเราจะใช้หนี้จนหมดในคราวเดียว ภาระหนี้รวมที่เราเสียไปก็เท่าเดิมอยู่ดี ดังนั้น หากมีเงินก็สามารถนำมาลงทุนได้เลย ไม่ต้องรอจ่ายหนี้หมดแล้วลงทุนก็ได้
❎ การลงทุนที่ดี = ผลตอบแทนสูง
✅ การลงทุนที่ดี = กระจายการลงทุน
แน่นอนว่าวัตถุประสงค์ในการลงทุนของทุกคน คือการสร้างผลตอบแทนให้มากกว่าเงินฝาก ถ้าจะให้ดี ต้องมากกว่าเงินฝากบวกกับเงินเฟ้อด้วย ซึ่งผลตอบแทนที่สูงก็ดูจะเป็นสิ่งที่เย้ายวนนักลงทุนมือใหม่ไม่น้อย
เพราะการลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนที่สูงมองว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ควรลืมว่า “High Risk - High Return” สินทรัพย์ที่ผลตอบแทนสูงมักตามมาด้วยความเสี่ยงที่สูงเช่นเดียวกัน ซึ่งการลงทุนที่ดีนั้น ไม่ใช่การแสวงหาผลตอบแทนที่สูงที่สุด แต่คือการแสวงหาผลตอบแทนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของเรา และอย่าลืมว่า ทุกครั้งที่ลงทุนต้องคำนึงถึงการกระจายความเสี่ยงร่วมด้วย
ความเชื่อหรือมุมมองที่มีต่อการลงทุนนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในด้านต่างๆ ที่นอกจากมีผลกระทบต่อแผนการลงทุนโดยตรงแล้ว ยังกระทบกับแผนชีวิตอีกด้วย ดังนั้น หากต้องการพลิกมุมมอง พร้อมกับการหาโอกาสใรการลงทุนใหม่ๆ aomMONEY ขอเชิญชวนเพื่อนๆ มาที่งาน SET in the city 2024 “หาโอกาสในตลาดหุ้น สร้างพอร์ตลงทุนให้เติบโต” เพื่อพบกับเวทีเสวนาแชร์ความรู้ พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ มากมายภายในงาน
📍พิเศษ! พลาดไม่ได้กับ 2 เวทีเสวนาของ aomMONEY
[1] Get Rich by Debunking Financial Myths : ทลายกำแพงความคิด พิชิตเงินล้าน
ร่วมพูดคุยกับ..
• คุณก้อย วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ นายกสมาคมนักวางแผนการเงินไทยคนแรก
• คุณหนึ่ง พนิดา ชูกุล เจ้าของเพจ MadamFinney
• คุณหนอม ถนอม เกตุเอม เจ้าของเพจ TAXBugnoms
[2] Fail Forward, Fail to Success : ‘ล้มเหลว แต่ ไม่ล้มเลิก’ ฝึก Growth Mindset ลงทุนให้พอร์ตเติบโต
ร่วมพูดคุยกับ…
• หมอตุ้ย พญ.อรพรรณ คงพันธุ์วิจิตร เจ้าของเพจ หมอยุ่งอยากมีเวลา
• คุณแพร พัทธนันท์ เตชะเสน, CISA 2 เจ้าของเพจ Investment Frappe
• คุณกันต์ รตนาภรณ์ เจ้าของช่อง ลงทุนกันต์
➡️พบกันวันที่ 15 มิถุนายน 2567 เวลา 13.00 -15.00 น.
ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์
📱ลงทะเบียนได้แล้ววันนี้ คลิก https://setga.page.link/Vz7Y
พร้อมรับฟรีกระเป๋า #investnow
#aomMONEY #SETintheCity2024 #investnow #Retail #หุ้น #ลงทุน #เริ่มลงทุน #สัมมนาลงทุน #เวิร์กชอปลงทุน
โฆษณา