อุไทย เฮอริเทจ โฮเต็ล .. Back to school @ อุทัยธานี
Uthai Heritage Hotel .. Back to school @ อุทัยธานี
จากอดีตถึงปัจจุบัน มีรอยเท้ามากมายที่เดินผ่าน “อุทัยธานี” เมืองพระชนกจักรี …
.. บางรอยเท้าเลือนรางจนแทบมองไม่เห็น แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด “อุทัยธานี” ก็ยังคงเอกลักษณ์แห่งมนต์เสน่ห์ไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย
“อุทัยธานี” เมืองสงบ น่ารัก เดิมสะกดว่า อุไทยธานี .. เป็นสถานที่ประสูติของ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี
“อุไทย เฮอริเทจ โฮเต้ล” เป็นบูติคโฮเต็ลเล็กๆบนในซอยข้างวัดพิชัยปุรณาราม ถนน ศรีอุทัย ตำบล อุทัยใหม่ อำเภอเมืองอุทัยธานี ... ย่านการค้าขายและการศึกษาของคนอุไทยในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน
อาคารบ้านเรือนในอุทัยธานีได้เปลี่ยนแปลงรูปโฉมตามสัมพันธภาพทางการเมืองและการค้า อาคารบางแห่งถูกดัดแปลงให้ผสมกลมกลืนเข้ากับงานฝีมือของช่างพื้นบ้านและวัฒนธรรมท้องถิ่น
เรื่องเล่าและอาคารเก่าแก่ที่เป็นบันทึกหน้าหนึ่งของเมืองอุทัยธานีเหล่านี้ ทรุดโทรม สูญหายไปตามกาลเวลา ที่ยังพอจะเหลืออยู่ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตปัจจุบัน
“อุไทย เฮอริเทจ โฮเต้ล” … กลับเล่าเรื่องทั้งเมือง-ถ่ายทอดอดีตของชาวอุทัยธานีผ่านบริบทพื้นที่และตัวสถาปัตยกรรม
เสมือนเครื่องบันทึกความทรงจำเหนือกาลเวลา รวมถึงเป็นการฟื้นลมหายใจของวันวาน ของดินแดนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของอารยะธรรมยุคอดีตกาลในจังหวัดอุทัยธานี
.. ด้วยแนวคิดที่จะพาผู้มาเยือนย้อนกลับไปสู่ความสงบในอดีตด้วยการสร้างสรรค์งานชิ้นใหม่ที่ถอดอารมณ์ยุคก่อน ผสมกับรูปแบบวิถีชีวิตสมัยใหม่ ด้วยความปรารถนาที่จะรักษาไว้ซึ่งงานสถาปัตย์อันงดงาม ให้ตกทอดถึงอนุชนรุ่นหลังสืบไป
โรงแรมสวย … จึงไม่ต่างอะไรกับการแต่งตัวให้ใครสักคนสวยขึ้นมา โรงแรมจึงมากกว่าผนังหรือพื้นที่ฉาบด้วยปูน “อุไทย เฮอริเทจ โฮเต้ล” จึงเป็นอาคารที่สวยคลาสสิกอันดับต้น ๆ ของอุทัยธานี ที่คว้ารางวัลด้านการดีไซน์มาจากสถาบันต่างๆมากมาย
Photo : Uthai Heritage Hotel
“อุไทย เฮอริเทจ โฮเต็ล” … เป็นที่พักที่เป็นสไตล์บูติก โฮเทล โดยรีโนเวทจาก “โรงเรียนอุทัยวิทยาลัย” เมื่อปี 2562 มา และเปิดเป็น “โรงแรมอุไทย เฮอริเทจ” ในปี 2564
ก้าวแรกที่เราเดินเข้าสู่บริเวณโรงแรม และเมื่อเราเดินไปเรื่อยๆ เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างจากโรงแรมทั่วๆไป
.. เสาธง ห้องเรียน ห้องสมุด และอีกหลายสิ่งที่ยังคงคอนเซ็ปต์ของการเป็นโรงเรียนเอาไว้ครบครัน ใครได้มาเยือนที่นี่ จึงหลงรักได้ไม่ยาก
ทำไมจากโรงเรียน จึงกลายมาเป็นโรงแรม? เป็นคำถามที่เกิดขึ้นในใจของเรา
.. ซึ่งผู้ที่มาไขข้อสงสัยนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ ทันตแพทย์กฤตพล พรพิบูลย์ เจ้าของคนปัจจุบัน
“โรงเรียนอุทัยวิทยาลัย เป็นโรงเรียนเอกชนแห่งแรกของจังหวัดอุทัยธานีที่นับอายุครั้งก่อตั้งก็เก่าราว 80 ปี
.. โรงเรียนราษฎร์แห่งนี้เคยเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิม มาสู่นายห้าง ควร พรพิบูลย์ (คุณปู่ของทันตแพทย์กฤตพล พรพิบูลย์ ) ราว พ.ศ. 2510 นับตั้งแต่วันนั้น นายห้างควรมิได้เข้าไปยุ่มย่ามเรื่องการบริหารจัดการโรงเรียนเลย
.. กระทั่งเจ้าของเดิมเสียชีวิตลง อุทัยวิทยาลัยก็ไม่ได้ดำเนินกิจการใดๆต่อ และถูกทิ้งร้าง จนแทบจินตนาการภาพไม่ออกว่าในช่วงเวลาหนึ่งเคยรุ่งเรืองเพียงใด”
ทันตแพทย์กฤตพล พรพิบูลย์ เจ้าของคนปัจจุบัน มีแนวคิดอยากทำอะไรสักอย่างให้มรดกของคุณปู่กลับมามีชีวิต โดยในช่วงเริ่มต้นมีแนวคิดที่เป็นไปได้หลายอย่างให้คิดและวิเคราะห์
แต่สุดท้ายมาลงเอยและลงตัวที่ การสร้างสรรค์ใหม่ให้เป็น Boutique Hotel .. โดยมีโจทย์ว่า ลงทุนทำแล้วมันต้องคุ้ม ไม่เสียเปล่า และต้องเกิดประโยชน์กับส่วนรวมด้วย และคอนเซปต์ Community Base Hotel จึงเกิดขึ้น
Photo : Internet
.. การรีโนเวทอาคารโรงเรียนเก่าได้เริ่มขึ้น โดยมี คุณวรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ สถาปนิกแห่ง Supergreen Studio ผู้นำการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมเก่าร่วมสมัยภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพลิกฟื้นอาคารเก่าให้กลับเฉิดฉายเพื่อชุมชน จนได้รับสมญานามว่า ‘ราชาบูติค’ (Boutique King) .. เป็นสถาปนิก และผู้ออกแบบแปลงโฉมโรงเรียนเก่าแห่งนี้ ให้ดูคลาสสิกน่าหลงใหล
คุณวรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ ซึ่งหลงใหลประวัติศาสตร์ที่ซุกซ่อนอยู่ในสถาปัตยกรรมเก่า ร่องรอยของวิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ และ ศักยภาพที่จะช่วยพลิกเศรษฐกิจให้ชุมชน เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า ..
“ผมรักการทำงานกับอาคารเก่าๆ ที่อยู่ในสภาพย่ำแย่เสมอ”
“เราต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของอาคารเก่าว่ามีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและควรค่าแก่การอนุรักษ์ ต้องทำให้เขารู้ว่าเราสามารถเปลี่ยนพื้นที่เก่าๆ เหล่านี้ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนได้ และทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพทางการเงินได้ด้วย”
“เรามองว่าจุดขายของการทำโรงแรมถ้าเป็นเรื่องความสวยงามมันไม่เพียงพอ วันนี้สวย วันหน้าก็สวยกว่า เพราะความสวยมันจะทับถมกันไปได้เรื่อยๆ เรามองว่าสิ่งที่จะทำให้บูติกโฮเทลอยู่นาน ชนะโรงแรมใหญ่ คือการทำประโยชน์ให้กับสังคมรอบๆ แต่การทำประโยชน์ให้กับสังคม ไม่ใช่โรงแรมคุณต้องบริจาคเงินนะ แต่มันคือ Community Base Hotel ที่ต้อง Sharing สามเรื่อง
“ข้อแรก เบสิกมาก คือการกระจายรายได้ รวมถึงการจ้างงานคนในท้องถิ่น
“ข้อสอง การสร้างโอกาส ทุกวันนี้คนเข้ากรุงเทพฯ เพราะอยู่บ้านนอกไม่มีโอกาส ถ้าคนหนุ่มสาวมีโอกาสมีรายได้ เชื่อว่าคนก็อยู่บ้าน แล้วประเทศก็เจริญขึ้น เพราะคนเก่งไม่ต้องกระจุกตัวอยู่กรุงเทพฯ โรงแรมเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรแบบนั้นได้
“ข้อสาม สร้างการศึกษา โรงแรมก็เป็นแหล่งเรียนรู้ได้ เราจะออกแบบโดยเริ่มจากไอเดียหลักเหล่านี้ เป็นดีเอ็นเอของโรงแรมก่อน แล้วดีไซน์ค่อยเริ่มเข้ามา” สถาปนิกอธิบาย
การรีโนเวท จึงไม่เพียงเก็บสปิริตเดิมของอาคารเอาไว้ แต่เป็น Creative Business ที่ดึงเอาเรื่องราวอดีต ความเฮอริเทจ เก็บเอกลักษณ์ไว้ แล้วมาแต่งตัวใหม่ เปลี่ยนลุ๊คให้เนี๊ยบ เปี่ยมไปด้วยด้วยรสนิยมที่คลาสสิก และยังคงความสง่างาม ด้วยกลิ่นอายเอกลักษณ์ที่กลมกลืนกับท้องถิ่น
.. ที่สำคัญ เปลี่ยนระบบการจัดการให้ไฮเทค .. เพื่อสร้างรายได้ควบคู่กับการอนุรักษ์ และพัฒนาให้อยู่ในระดับ World Class
ตึกไม้เก่าสูง 2 ชั้นในแบบ Cultural Heritage สไตล์อาคารสไตล์ทรอปิคัลเมืองร้อน ที่ไม่ใหญ่โตอลังการมากได้รับการสร้างสรรค์ให้ก่อกำเนิดขึ้น บนพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตร แบ่งเป็น 17 ห้องพัก 8 แบบ
ห้องประชุมใหญ่ที่จุคนได้ถึง 200 คน ห้องจัดกิจกรรม ล็อบบี้ เลาจน์ ห้องฟิตเนต ห้องสำหรับแม่บ้าน ครัว และสระว่ายน้ำ
.. โดยยังคงบรรยากาศบางส่วนของการเป็นโรงเรียนเก่า เพื่อให้แขกของโรงแรมได้รับประสบการณ์เหมือนกับการได้กลับมาเยี่ยมบ้านในวัยละอ่อน ตอนที่เราเข้ามาเรียน .. บรรยากาศที่หลายคน ถวิลหา
อาคารสไตล์ทรอปิคัลเมืองร้อน .. เน้นโทนสีเพียง ขาว ดำ เทา และไม้ธรรมชาติ มีการออกแบบเรื่องการไหลเวียนของอากาศทั่วทั้งตึกไว้อย่างพอดิบพอดี
เพดานสูงโปร่ง โล่งสบาย ทำให้ลมโฟลว์โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ เกิดความสมดุล ความลงตัวระหว่างรูปแบบและประโยชน์ใช้สอย โดยไม่ทิ้งความมีเสน่ห์และเรื่องราว
การตกแต่ง🤞โรงแรมด้วยวัสดุที่หาได้ไม่ยากหรือราคาไม่สูงนัก ถูกเลือกมาตกแต่งสร้างอารมณ์และบรรยากาศใหม่อย่างอย่างชาญฉลาด ได้สร้างความรู้สึกใหม่ๆในพื้นที่ โดยไม่ต้องลงทุนซื้องานศิลปะชิ้นใหม่ๆ ที่มีราคาแพงมาประดับเพิ่มอีก
.. ชนิดที่ลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้วต้องร้องว๊าวววๆๆ ภายใต้ข้อจำกัด ที่ไม่อาจเปลี่ยน อย่างเสาค้ำ คาน พื้นไม้เก่าหรือการเอาแผ่นหินอ่อนเก่ามาปูพื้น ทำให้บรรยากาศยังดูหรูสง่า
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับงานออกแบบโรงแรทแห่งนี้ คุณหมอบอกว่า คือสมดุล แต่นี่ไม่ใช่แค่เรื่องนามธรรมอย่างสมดุลระหว่างความสวยและประโยชน์ใช้สอย แต่ยังหมายรวมถึงจุดบรรจบที่พอดีระหว่างพื้นที่และผู้ใช้งาน
โรงเรียนโครงสร้างไม้หน้าตาบ้านๆ กลายมาเป็น Boutique Hotel ที่พักที่ขายประสบการณ์ และการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ มีจุดเด่น มีบุคลิกเฉพาะ มีธรรมชาติและมีความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศที่อบอุ่น .. อันเป็นการตอบโจทย์ความต้องการหลักของลูกค้าที่อยากผ่อนคลาย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวตนของโรงแรมเรียกได้ว่าผุดขึ้นมาจากสิ่งต่างๆที่เคยถูกใช้และเป็นฟังชั่นการใช้งานจริงของที่ที่เคยเป็นโรงเรียนอุทัยวิทยาลัย .. เป็นเอกลักษณ์ดึงดูดใจลูกค้ายิ่งกว่าเคย
ห้องสมุด เป็นส่วนรับรองพื้นที่แรกที่เราประทับใจ .. ห้องไม่ใหญ่มาก บรรยากาศของห้องสร้างความรู้สึกสบายหากจะมานั่งคุยเบาๆท้าวความหลัง
ดังเช่น ศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กลุ่มที่เห็นในภาพ .. หรือจะเข้ามานั่งอ่านสารสาระจากหนังสือบนชั้น
และตู้ไม้หลายตู้ที่ คุณหมอกฤตพล ขนมาจากโรงสีเก่าของปู่ผู้เป็นเจ้าของที่ดินใช้ตกแต่งพื้นที่ เฟอร์นิเจอร์เก่าช่วยเพิ่มความงามและสุนทรียะได้อย่างลงตัว
บริเวณนี้มีความสวยงามอีกตามขนบตึกโบราณซ่อนอยู่ คือเมื่อมองออกไป จะเห็นว่าช่องเปิดนั้นตรงกันหมด
ชอบโต๊ะครูใหญ่ .. กลุ่มผู้สูงวัยซิลเวอร์แฮร์อย่างเรา ขอเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกค่ะ
ถัดออกมา ไม่ใช่พื้นที่โล่งทั้งหมด ดูลึกลับมีจังหวะ .. ชอบการวางแปลน
ศิลปะพื้นบ้าน แต่ก็มีมีลูกเล่นที่สง่างาม ด้วยการดึงเอาสิ่งรอบตัวแสนเรียบง่ายมาใส่ไว้ในงานตกแต่ง
ห้องเรียน เป็นไอเดียที่เลิศมาก .. คุณหมอกฤตพล ยังเล่าว่า ชาวต่างชาติที่มาพักชื่นชอบเป็นพิเศษ
ส่วนเราคนไทยทำให้นึกถึงช่วงเวลาของวัยซน ที่บ่อยครั้งคุณครูต้องมีไม้เรียวในมือ เพื่อกำหราบ “พวกหัวโจก” ตัวป่วนในห้อง
ชั้นสองของอาคาร .. ชอบโถงทางเดินกว้าง และชายคายื่นยาวออกไปอีก 1 เมตร เพื่อกันแดด กันฝน ปกป้องพื้นไม้
ผนังด้านหน้าห้องพักดูจะเป็นพื้นที่ที่ตั้งใจให้เกิดมิติ ส่วนฟังก์ชันเป็นตู้ใส่เสื้อผ้า ตู้ใส่ตู้เย็น เป็นชั้นวางของ ด้านล่างมีช่องเพื่อสอดรองเท้า
Photo : Uthai Heritage Hotel
Photo : Uthai Heritage Hotel
Photo : Uthai Heritage Hotel
Photo : Uthai Heritage Hotel
Photo : Uthai Heritage Hitel
Photo : Uthai Heritage Hitel
ห้องพักของ “อุไทย เฮอริเทจ โฮเต้ล” มีทั้งหมด 17 ห้อง 8 Room Types .. ห้องพักมีหลายแบบ เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มต่างๆสามารถเข้ามาพักได้ เช่น ห้องครอบครัวเล็ก ห้องสำหรับ 8 คนที่มาเป็นครอบครัวใหญ่ แทนการใช้ Connecting Room
.. ห้องพักแต่ละห้องตั้งชื่อตามห้องเรียน เช่น ห้องอนุบาล 1 ห้องประถม 2 ฯลฯ .. พื้นที่กว้างกว่าธรรมดาเล็กน้อย มีทั้งแบบเตียงคู่ธรรมดา และตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์มือสองที่ท่านเจ้าของลงทุนไปเลือกซื้อเอง
.. เงยหน้ามองบนเพดาน ฝ้าถูกรื้อออกเผยให้เห็นความงามของการเดินตะเข็บเซาะร่อง 2 เส้น เพดานสูงโปร่ง คล้าย Catedral Ceiling เผยให้เห็นคาน เตียงนอนและเครื่องนอนสะอาด นุ่มสบาย .. ชอบการใช้ผ้าม่านบางเบาแบ่งพื้นที่ของห้องกับบริเวณตู้เย็นและห้องน้ำ รวมถึงทำหน้าที่กรองแสงแดดยามบ่ายที่ไล้ลามเลียเข้าทางหน้าต่าง
อุปกรณ์อื่นในห้อง ยังคงคอนเซ็ปต์ของการเป็นโรงเรียนเอาไว้บางส่วน .. เราจะเห็นกระดานดำที่ใช้ช๊อคเขียนข้อความ และในห้องน้ำใช้ขันน้ำสังกะสีแทนแก้วน้ำ
Photo : Uthai Heritage Hotel
ห้องพักที่เปี่ยมเอกลักษณ์ “ห้องภูมิศาสตร์” (ชั้น 1) .. ผนังสีเขียวอ่อนดูเก่า ดูเหมือนจะไม่ฉาบใหม่ มีภาพวาดแผนที่ประเทศไทยอยู่บนผนังหน้าห้อง และบนผนังด้านหนึ่งของห้อง
.. เป็นกิมมิกเล็กน้อยของอดีตโรงเรียน ซึ่งเราทราบมาว่า วาดโดยเจ้าของบ้านนกเขา ร้านค้ากึ่งพิพิธภัณฑ์ที่รวมศิลปหัตถกรรมไว้ย่านตรอกโรงยา ซึ่งเขาเคยทำงานที่โรงเรียนแห่งนี้ แน่นอนที่ต้องมีความทรงจำและความผูกพันกับพื้นที่ไม่เสื่อมคลาย ..โรงแรมที่เชื่อมชุมชนเข้าหากัน
Canteen หรือห้องอาหารแบบที่เรามีความทรงจำเกี่ยวกับโรงเรียนเก่าในวัยเด็ก .. เราตักอาหารใส่ถาดหลุม แล้วมานั่งรับประทานกับเพื่อนๆ แม้อาหารจะหน้าตาดี รสชาติเยี่ยมมากกว่าสมัยเรายังเด็ก แต่บรรยากาศใช่เลย !!
อาหารเช้าของโรงแรม ทำให้เราชื่นชอบมาก นอกจากรสขาติที่อร่อยแล้ว ความหลากหลายของเมนูอาหาร รวมถึงอาหารบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของอุทัยธานี ก็ให้โอกาสแขกทุกคนได้มีประสบการณ์ในการลิ้มลองอาหารของพื้นถิ่น .. ส่วนเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ผลไม้นั้น ครบเครื่อง
แขกของโรงแรมสามารถนั่งรับประทานอาหารใกล้สระน้ำที่ส่องประกายระยิบระยับ .. โรงแรมอุทัยเฮอริเทจจึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางคนเดียวที่แสวงหาความสะดวกสบายและความเงียบสงบ
.. การบริการน้ำเต้าหู้รสดีในช่วงค่ะ เป็นสิ่งอีกสิ่งหนึ่ง ที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราประทับใจมากค่ะ
8 โมงตรง เคารพธงชาติ .. เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของทุกโรงเรียน เราทั้งสนุกและเป็นกิจกรรมที่ไม่ยอมพลาดเมื่อมาพักที่ “อุไทย เฮอริเทจ โฮเต็ล”
.. โรงแรมมีชุดนักเรียนไว้บริการด้วยค่ะ น่ายินดีมากมายแค่ไหน หากเราจะนำรูปที่ใส่ชุดนักเรียนไปอวดเพื่อนๆ และสร้างโปรไฟล์ที่น่ารักในโลกโซเชี่ยล
ห้องประชุมในสพื้นที่กว้างขวาง สร้างขึ้นในพื้นที่โรงรถเก่า .. สวย และตอบโจทย์การจัดประชุมสัมมนาได้อย่างลงตัว รวมถึงสามารถจัดเลี้ยงได้
คุณหมอกฤตพล เล่าว่า .. ทางโรงแรมไม่ได้ดำเนินการเรื่องการจัดอาหารจริงจัง เพราะอุทัยธานีมีอาหารอร่อยมากมายอยู่แล้ว
จึงใช้วิธีกระจายให้คนในท้องที่จัดดำเนินการให้ เพื่อกระจายรายได้สู่เพื่อนบ้านในท้องที่
“อุไทย เฮอริเทจ โฮเต็ล” รักษาความทรงจำที่เกิดขึ้นร่วมกันระหว่างโรงเรียนและศิษย์เก่าหลายรุ่นเอาไว้อย่างดี ..
.. โครงสร้างเพดานไม้ซึ่งมากับอาคารเรียนเดิมนั้นยังคงสภาพสวยงาม และช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับตัวพื้นที่ ขณะที่ลานเปิดโล่งของโรงเรียนที่เคยทำให้ภารโรงต้องคอยเก็บกวาดใบไม้ที่ร่วงเกลื่อนพื้น ปัจจุบันได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นสวนหย่อมเล็กๆ
เราจินตนาการได้ไม่ยากถึงความรู้สึกของศิษย์เก่าที่เดินเข้ามาที่นี่ด้วยน้ำตาคลอเบ้าตา เขาจำได้ว่าตัวเองเคยนั่งเรียนที่พื้นตรงนี้ เคยวิ่งเล่นกับเพื่อนตรงชั้นระเบียงชั้นสอง
ขอบคุณ คุณหมอกฤตพล ที่อนุรักษ์ความงดงามอันเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำของพวกเขา และประวัติศาสตร์ส่วนเล็กๆ ของเมืองน่ารักแห่งนี้ ขอชื่นชมกับสิ่งที่ “อุไทย เฮอริเทจ โฮเต็ล” เป็นในปัจจุบันด้วยค่ะ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : https://readthecloud.co/uthai-heritage-boutique-hotel/
https://optimise.kkpfg.com/living_2_28.php - Optimise Magazine
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
