UN เผยข้อมูลธนาคารในประเทศไทย
มีส่วนช่วยรัฐบาลทหารเมียนมา
นำเข้าชิ้นส่วนและอาวุธจำนวนมหาศาล
ที่มาที่ไปของข่าวนี้เริ่มมาจากเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาเผยข้อมูลที่มีหัวข้อว่า Banking on the Death Trade: How Banks and Governments Enable the Military Junta in Myanmar
ข้อมูลดังกล่าวมีเนื้อหาหลักคือการออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้มีธนาคารในประเทศไหนบ้างที่ยังคงให้การสนับสนุนและเอื้อผลประโยชน์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา
เนื้อหาทั้งหมดมีอะไรบ้าง ผมได้สรุปแบบเข้าใจง่ายเอาไว้แล้วครับ
สิงคโปร์ 2023
1. ย้อนกลับไปเมื่อปี 2023 ตอนนั้น UN เคยออกมาเปิดเผยข้อมูลชุดนี้แล้ว ข้อมูลในตอนนั้นระบุว่าประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีบริษัทและธนาคารที่ทำธุรกิจร่วมกับรัฐบาลทหารเมียนมาอยู่หลายแห่ง
2. ตัวเลข ณ ตอนนั้นคือ มีบริษัทที่ร่วมทำธุรกิจกับรัฐบาลทหารเมียนมาจำนวน 81 บริษัท และมีธนาคารที่เปิดทำธุรกรรมอยู่มากมาย (ไม่ได้ระบุตัวเลขที่ชัดเจน)
3. ลักษณะการทำธุรกิจและธุรกรรมเหล่านี้คือการค้าขายอาวุธ ชิ้นส่วนของเฮลิคอปเตอร์ เสบียงอาหาร และของใช้จำเป็นสำหรับทหารในกองทัพ
4. แต่หลังจากที่ UN ออกมาประกาศแบบนี้ ทางรัฐบาลสิงคโปร์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พวกเขาได้นำข้อมูลที่ได้มาไปขยายผลและสืบสวนต่อเพื่อสั่งปิดบริษัทเหล่านั้น และออกนโยบายเกี่ยวกับการห้ามส่งออกอาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมาทันที
5. ความเข้มงวดของรัฐบาลสิงคโปร์ส่งผลให้ในปีนี้ตัวเลขดังกล่าวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เหลือบริษัทที่จดทะเบียนในสิงคโปร์เพียง 6 แห่งที่ยังคงส่งอาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา และจำนวนธนาคารที่เปิดให้รัฐบาลทหารเมียนมาก็ลดลงมากกว่าร้อยละ 70
ไทยแลนด์ 2024
6. หากดูจากสถิติแล้วหลายฝ่ายคงคิดว่าจำนวนอาวุธต่าง ๆ ที่รัฐบาลทหารเมียนมาได้นำเข้ามาใช้กับประชาชนคงลดลงอย่างแน่นอน .. แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น
7. เพราะผู้เล่นรายใหม่แถมยังเป็นรายใหญ่ที่กระโดดขึ้นมาแทนที่สิงคโปร์กลับเป็นไทยแลนด์ หรือก็คือประเทศไทยของพวกเรานั่นเอง
8. UN เผยว่าในปีนี้พวกเขาตรวจเจอว่ามีสถาบันการเงิน 16 แห่งใน 7 ประเทศที่มีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับการจัดหาอาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา และตัวเลขทั้ง 16 แห่งได้แก่ ประเทศไทย 5 แห่ง, สิงคโปร์ 3 แห่ง, มาเลเซีย 2 แห่ง, รัสเซีย 2 แห่ง, อินเดีย 2 แห่ง, จีนและเกาหลีใต้ ที่ละ 1 แห่ง
9. ส่วนช่องทางหลักที่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้บ่อยที่สุดก็คือการสั่งซื้อผ่าน บริษัทและสถาบันการเงินในประเทศไทย โดยยอดรายรับที่บริษัทและสถาบันการเงินเหล่านี้ได้รับจากรัฐบาลทหารเมียนมานั้นมีมากถึง 100-130 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
10. UN ได้ทิ้งท้ายทำนองว่า ในปีที่แล้วพวกเขาได้เตือนสิงคโปร์ไป และสิงคโปร์ก็จัดการทุกอย่างได้ด้วยดี ดังนั้นพวกเขาจึงหวังว่าหากรัฐบาลของไทยดำเนินการตอบรับข้อมูลนี้เหมือนกับที่รัฐบาลของสิงคโปร์ทำไปเมื่อปีก่อน ความสามารถของรัฐบาลทหารพม่า ในการโจมตีประชาชนชาวเมียนมา ก็จะลดความรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญเป็นแน่
เรื่องราวก็ประมาณนี้ครับ
ส่วนใครคิดเห็นอย่างไรก็มาแชร์กันในคอมเมนท์นะ
อ้างอิง
- 76
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
