27 มิ.ย. 2024 เวลา 09:51 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

When does collecting become hoarding? A psychologist explains

เมื่อไหร่การสะสมสิ่งของ จะกลายเป็นโรคชอบเก็บสะสมสิ่งของ นักจิตวิทยาอธิบาย
ไม่จำเป็นต้องไปทิ้งแสตมป์ที่คุณเคยสะสมไว้
เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่เราชอบสะสมของ ก็เพราะมันสนุก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณ ตั้งแต่ความสัมพันธ์ที่แสนจะทรมานใจ ไปจนถึงงานที่ไม่พึงพอใจ ซึ่งคุณเองแทบจะกำหนดสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เลย แต่ถ้าคุณเป็นนักสะสมแล้ว คุณสามารถจะกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนด้วยตัวคุณเองได้ และสามารถบรรลุผลในเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้ได้
คุณสามารถจะมีความสุขและแสนจะเพลิดเพลินอยู่กับ "การตามล่าหาของสะสม" ขณะที่คุณค้นหาสินค้าถัดไป ในรายการ ที่ตรงกับความปรารถนาของคุณ จากนั้นคุณก็จะรู้สึกตื่นเต้น ที่คุณได้เพิ่มสิ่งของสะสมที่คุณชอบนั้น เข้าไปในคอลเลกชันของคุณ และคุณเอง ก็สามารถแสดงให้ผู้อื่นเห็นของสะสมของคุณได้
ที่จริงแล้ว การสะสม ถ้าจะมองในแง่มุมทางด้านสังคม สิ่งของต่างๆ ที่คุณได้สะสมไว้นั้น ก็มีไว้เพื่อจะดึงดูดใจ โดยนักสะสม มักจะก่อตั้งเป็นชุมชนการสะสมขึ้นมา จากนั้นก็จะแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ หรือแม้กระทั่ง มีการแข่งขันกันเองในชุมชนสะสม ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า การสะสมสิ่งของนั้น สามารถจะส่งเสริมความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนได้
แน่นอนว่า อินเทอร์เน็ตนั้น ได้ช่วยให้ชุมชนการสะสมสิ่งของ มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว การสะสม อาจเป็นการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของในรูปแบบอื่นๆ ได้เช่นกัน
ลองนึกถึงแฟนฟุตบอล ที่รวบรวมสะสมโปรแกรมการแข่งขัน หรือรวบรวมของที่ระลึกอื่นๆ เพื่อเป็นการขยายความผูกพันกับทีมฟุตบอลใดทีมหนึ่ง
นักสะสมคนอื่นๆ ได้รับแรงบันดาลใจจากความคิดถึง ไม่ว่าจะเป็นความคิดถึงในนามของกลุ่ม หรือจะป็นความคิดถึงส่วนตัวก็ตาม ตัวอย่างเช่น ผู้คนที่สะสมสิ่งของบางอย่างจากอดีต มักเกิดจากความคิดที่ว่า พวกเขากำลังรักษาคุณลักษณะบางอย่างหรือบางส่วนของยุคสมัยที่ได้ผ่านไปเอาไว้ ให้ลองนึกถึงคนที่สะสมปืนโบราณ หรือสะสมไปรษณียบัตรหรือโปสการ์ดเก่าๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ แต่ละรายการที่สะสมไว้ในคอลเลกชัน อาจมีความทรงจำส่วนตัวมากมาย เช่น ได้สิ่งนี้มาตอนที่เดินทางไปท่องเที่ยว
นักจิตวิทยาคนอื่นๆ ให้เหตุผลถึงแรงจูงใจทางจิตวิทยาที่ลึกกว่านั้นถึงเบื้องหลังของการสะสม โดยพวกเขากล่าวว่า การสะสม สามารถทำหน้าที่เป็นสิ่งชดเชยการขาดความรัก ในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ หรือการสะสมอาจเป็นวิธีที่บางคน ใช้จัดการกับความวิตกกังวลที่มีอยู่ โดยของสะสมจะยังคงอยู่ แม้ว่านักสะสมจะจากไปแล้วก็ตาม
คุณอาจสงสัยว่า การสะสมเหมือนกับโรคชอบเก็บสะสมสิ่งของหรือไม่ รับรองว่าไม่ใช่อย่างแน่นอน
โรคชอบเก็บสะสมสิ่งของนั้น มีแนวโน้มที่จะเก็บสะสมอย่างไม่มีการควบคุมปริมาณหรือจำนวน เป็นคนที่มีปัญหา และมักจะเก็บสะสมทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่เลือกว่าจะเป็นอะไร ลักษณะเช่นนี้ถือเป็นโรคทางจิตเวช เรียกว่า โรคชอบเก็บสะสมสิ่งของ หรือ ฮอดิ้ง hoarding disorder ผู้ที่มีอาการของโรคชอบเก็บสะสมสิ่งของมีจำนวนประมาณร้อยละ 2 ถึง ร้อยละ 6 ของประชากรบนโลก และส่วนใหญ่มักพบได้ในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 55-94 ปี
อย่างไรก็ตามโรคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับวัยสูงอายุเพียงอย่างเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่อาจเกิดขึ้นได้ในวัยเด็กหรือวัยรุ่น หากผู้ป่วยมีประวัติเผชิญกับเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง เมื่อเวลาผ่านไปผู้ป่วยจะแสดงอาการและมีพฤติกรรมชัดเจนมากขึ้น สังเกตได้จากสิ่งของที่เก็บสะสมไว้เริ่มมีมากเกินความจำเป็น
อาการของโรคที่สังเกตเห็นได้ชัด มีดังนี้ รู้สึกทุกข์ทนเมื่อต้องทิ้งสิ่งของ วางสิ่งของตามทางเดินในบ้านจนไม่เหลือพื้นที่ใช้สอย ที่อยู่อาศัยไม่สะอาด หรือมีสิ่งสกปรกที่อาจก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค ยึดติดว่าของทุกชิ้นเป็นของสำคัญ ไม่อยากพบปะผู้คน เสพติดการซื้อของ ชอบอยู่ในที่มืด เป็นต้น ในทางตรงกันข้าม คนที่ชอบการสะสม หรือการเก็บรวบรวม จะพบว่า นักสะสมเหล่านั้น จะมีการดูแลและจัดการอย่างรอบคอบ และจัดการของที่เก็บสะสมอย่างตั้งใจ
ผู้เขียน : Christian Jarrett (cognitive neuroscientist)
แปลไทยโดย : Wichai Purisa (senior scientist)
โฆษณา