Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MONEY LAB
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
4 ก.ค. 2024 เวลา 03:00 • ธุรกิจ
อธิบายธุรกิจ HMPRO กำไรโต แต่มูลค่าหาย 50%
เมื่อปี 2565 หลังจากการทยอยเปิดเมืองอย่างเต็มรูปแบบ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เคยมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 228,000 ล้านบาท
ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
แต่มาวันนี้ มูลค่าบริษัทกลับเหลือเพียง 120,000 ล้านบาท หรือหายไปเกือบ 50%
ทั้ง ๆ ที่รายได้และกำไรของบริษัท ก็เติบโตจนทำสถิติสูงสุดได้
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ HMPRO จนทำให้มูลค่าของบริษัทหายไปมากขนาดนี้ ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีก เกี่ยวกับการก่อสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม ซ่อมแซม และปรับปรุงบ้าน
โดยมีอยู่ 2 แบรนด์หลัก ที่รองรับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน
- HomePro รองรับกลุ่ม ลูกค้าเจ้าของบ้าน
- Mega Home รองรับกลุ่ม ลูกค้าช่างและผู้รับเหมา
สำหรับผลประกอบการของ HMPRO ในช่วงที่ผ่านมา
- ปี 2563 รายได้ 61,765 ล้านบาท กำไร 5,155 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 63,926 ล้านบาท กำไร 5,441 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 69,389 ล้านบาท กำไร 6,217 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 72,822 ล้านบาท กำไร 6,442 ล้านบาท
1
จะเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมารายได้และกำไรของ HMPRO ยังเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ
และหากมองย้อนกลับไป 10 ปี จะพบว่า ในปี 2566 บริษัทสามารถทำรายได้และกำไร มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือ มูลค่าบริษัทกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สวนทางกับรายได้และกำไรที่เติบโตขึ้น
โดยในปี 2565 มูลค่าบริษัทเคยขึ้นไปสูงสุดถึง 228,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันมูลค่าบริษัทลดลงมาเหลือเพียง 120,000 ล้านบาท เท่านั้น
คิดเป็นการปรับตัวลดลงเกือบ 50% ภายในระยะเวลา
ไม่ถึง 2 ปี
แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้มูลค่าบริษัทลดลงอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ผลการดำเนินงานของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง
หากลองเข้าไปดูในรายละเอียดจะพบว่า
1. การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมติดลบ
การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม หรือ Same Store Sale Growth โดยเรียกสั้น ๆ ว่า SSSG เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญ สำหรับธุรกิจค้าปลีกว่า แต่ละสาขา สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นหรือไม่
ถ้า SSSG เป็นบวก หมายความว่า ยอดขายของสาขาเดิมยังเติบโตได้
ถ้า SSSG เป็นลบ หมายความว่า ยอดขายของสาขาเดิมลดลง
ซึ่งเมื่อไปดู SSSG ของ HMPRO จะพบว่า
- ไตรมาส 3/2566 SSSG -3.6%
- ไตรมาส 4/2566 SSSG -8.5%
- ไตรมาส 1/2567 SSSG -2.0%
การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมติดลบ แสดงถึงการลดลงของยอดขายในสาขาเดิมอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุก็น่าจะเกิดจาก กำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้าตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ที่ยังคงชะลอตัวอยู่
2. การขยายสาขาของ HomePro ถึงจุดอิ่มตัว
การเติบโตของธุรกิจประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะเติบโตได้จากการขยายสาขา
1
ในช่วงที่ผ่านมา HomePro ได้เร่งขยายสาขา จนเกือบจะครอบคลุมกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักแล้ว
- จำนวนสาขา HomePro ในประเทศไทย
สิ้นปี 2565 มี 87 สาขา และสิ้นปี 2566 มี 89 สาขา
- HomePro S เป็นรูปแบบร้านขนาดเล็ก
สิ้นปี 2565 มี 5 สาขา และสิ้นปี 2566 มี 5 สาขา
2
- HomePro ในประเทศมาเลเซีย
สิ้นปี 2565 มี 7 สาขา และสิ้นปี 2566 มี 7 สาขา
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมา HMPRO เปิดสาขาใหม่น้อยมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อศักยภาพการเติบโตของบริษัทในอนาคต
เพราะยอดขายของ HomePro ทั้งหมดทุกรูปแบบ คิดเป็นสัดส่วนถึง 81% ของยอดขายรวมในปี 2566
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้หันมาเน้นการขยายสาขาของ Mega Home มากขึ้นแทน
โดยจำนวนสาขาของ Mega Home
- ปี 2564 มี 14 สาขา
- ปี 2565 มี 18 สาขา
- ปี 2566 มี 27 สาขา
ซึ่งการเร่งขยายสาขา Mega Home เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การรักษาการเติบโต และกระจายความเสี่ยง โดยมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างจาก HomePro มากขึ้น
พอสาขาเดิมขายของได้น้อยลง แต่จะขยายสาขาใหม่ก็ไม่ได้ง่าย โดยเฉพาะ HomePro ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก เพราะมีคู่แข่งเดิมเต็มไปหมด เราก็พอจะเห็นภาพแล้วว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดมีมุมมองกับ HMPRO อย่างไรบ้าง
และหากดูราคาหุ้นของ HMPRO ในปัจจุบัน พบว่ามีการซื้อขายอยู่ที่ราคา 9.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วน P/E Ratio อยู่ที่ 18.59 เท่า
ความน่าสนใจอยู่ที่ว่า P/E Ratio ระดับนี้ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเคยซื้อขายกันอยู่สูงถึง 31 เท่า
1
และเมื่อลองเปรียบเทียบกับบริษัทคู่แข่ง ก็จะพบว่า
HMPRO ณ สิ้นปี 2566
มีสาขา HomePro และ HomePro S รวม 101 สาขา
และ Maga Home มีสาขาทั้งหมด 27 สาขา
ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 18.59 เท่า
บมจ.สยามโกลบอลเฮ้าส์ หรือ GLOBAL
สิ้นปี 2566 มีสาขาทั้งหมด 84 สาขา
ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 31.03 เท่า
บมจ.ดูโฮม หรือ DOHOME
สิ้นปี 2566 มีสาขาทั้งหมด 35 สาขา
ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 58.23 เท่า
จากข้อมูลเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ชัดเจนว่า HMPRO
มี P/E ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งหากมองว่า HMPRO เติบโตจนถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ราคาหุ้นที่ระดับราคานี้ ก็อาจจะดูสมเหตุสมผล สะท้อนถึงการเติบโตที่ชะลอตัวลงในอนาคต
แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากมองว่า HMPRO ยังมีโอกาสเติบโตได้อีก จากการขยายสาขาของ Maga Home และการขยายสาขาไปต่างประเทศ ราคาหุ้นที่ระดับราคานี้ ก็อาจจะเป็นโอกาสที่ดี ในการลงทุนก็เป็นได้..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำ ให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
References
-มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด วันที่ 07/03/2565
-มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด วันที่ 27/06/2567
-
https://hmpro-th.listedcompany.com/history.html
-
https://www.settrade.com/th/equities/quote/HMPRO/financial-statement/five-years
-
https://www.settrade.com/th/research/iaa-consensus/271014
-
https://www.cgsi.co.th/th/hmpro.jsp
1
ธุรกิจ
24 บันทึก
43
34
24
43
34
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย