16 ก.ค. 2024 เวลา 02:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ตลท. ปลดเครื่องหมาย SP หุ้น EA หลังชี้แจงแผนชำระหนี้ ชี้ปี 67 มีหนี้ครบกำหนดชำระ 1.6 หมื่นลบ.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปลดเครื่องหมาย SP หุ้นของ EA ในเช้าวันนี้ (16 ก.ค. 67) หลังบริษัทชี้แจงข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ทั้งนี้ ขอให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนศึกษาคำชี้แจงของบริษัทโดยระมัดระวังรอบคอบ เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท
โดยนายวุฒิเลิศ เจียรนิลกุลชัย กรรมการ ผู้มีอํานาจรายงานสารสนเทศ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แจ้งบริษัทให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบฐานะทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากภาระหนี้สินโดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ที่จะครบกําหนดชําระภายในปี 2567 และแนวทางที่ชัดเจนในการชําระหนี้ดังกล่าว
รวมทั้งผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัท เนื่องจากการพ้นจากตําแหน่งของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จากรณีการกล่าวโทษโดยสํานักงาน ก.ล.ต. ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขึ้นเครื่องหมาย “H” (Halt) จนกว่าบริษัทจะแจ้งข้อมูลให้ครบถ้วนนั้น บริษัทขอชี้แจงประเด็นดังกล่าวดังนี้
1. ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 บริษัทมีหนี้สินเงินต้นที่จะครบกําหนดชําระภายในปี 2567 จํานวน 19,505 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบัน การเงินและตั๋วแลกเงินระยะสั้น ประมาณ 8,144 ล้านบาท
เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ ถึงกําหนดชําระภายใน 1 ปี 2,852 ล้านบาท (ยอดรวมดอกเบี้ยแล้ว เท่ากับ 3,200 ล้านบาท)
หุ้นกู้ที่ถึงกําหนดชําระภายใน 1 ปี 5,492 ล้านบาท
รวมมียอดหนี้สินคงเหลือที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567 รวม 16,488 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังเดือนมีนาคม 2567 ถึง ณ ปัจจุบัน บริษัทยังไม่มีการก่อภาระหนี้สินระยะยาวเพิ่มเติม
สําหรับภาระหนี้สินที่จะต้องชําระในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ที่บริษัทได้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ไปก่อนหน้านั้น เป็นในส่วนภาระการชําระหนี้ระยะยาวของบริษัทรวมทั้งหุ้นกู้ โดยพิจารณาจากการประมาณการเงินกู้ระยะยาวรวมดอกเบี้ยที่ต้องชําระคืนประมาณ 3,200 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่จะครบกําหนดชําระอีก 5,500 ล้านบาท ซึ่งจะต้องดําเนินการชําระตั้งแต่วันที่ชี้แจง จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
ทั้งนี้ส่วนที่เหลือเป็นวงเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินหลายแห่งซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 1/67 มีอยู่ที่ 8,354 ล้านบาท โดยเบื้องต้นบริษัทไม่ได้ชี้แจงเนื่องจากวงเงินกู้ระยะสั้นนั้นโดยปกติบริษัทจะทําการ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นในส่วนนี้อยู่แล้ว บริษัทขอชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมของเงินกู้ และหุ้นกู้ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
หุ้นกู้ทั้งหมดที่บริษัทมีนั้นเป็นหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและมีเงื่อนไข Cross Default กับสถาบันการเงิน หรือหุ้นกู้อื่น
รายละเอียดเงินกู้ยืมระยะยาวสถาบันการเงินสุทธิ (รวมเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ถึงกําหนดชําระภายใน 1 ปี)
โดยเงินกู้ทั้งหมดมีเงื่อนไข Cross Default กับสถาบันการเงิน หรือหุ้นกู้อื่น
2. จากเดิมบริษัทมีความตั้งใจที่จะ Roll Over เงินกู้ระยะสั้นตามที่เคยปฏิบัติมาสําหรับเงินกู้ระยะสั้นทั้งหมด และมีแผนที่จะชําระเงินกู้และหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกําหนดในปี 2567 ด้วย 1) กระแสเงินสดจากการดําเนินงานโดยไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดําเนินกิจการจํานวน 1,900 ล้านบาท
และบริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมทุกเดือนประมาณ 1,000 ล้านบาท 2) วงเงินกู้ จากสถาบันการเงินวงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาขั้นสุดท้ายของสถาบันการเงิน
3) หุ้นกู้ที่จะออกเพิ่มเติมในปี 2567 จํานวนและวันเสนอขาย อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับประกันการจัดจําหน่าย โดยบริษัทคาดว่าจะเป็นหุ้นกู้อายุ 1 ปีและ 3 ปี อนึ่ง ณ เวลา 16:15 น. บริษัทได้รับการแจ้งข้อมูลจาก TRIS Rating ว่าบริษัทได้ถูกปรับลดระดับความน่าเชื่อถือ จาก BBB+ (Negative) เป็น BB+ (Negative) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน และหุ้นกู้ใหม่ ที่จะออกตามแผนเดิม
อย่างไรก็ดีบริษัทขอเน้นย้ำว่าบริษัทยังมีรายได้จากโรงไฟฟ้าประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นกระแสเงินสดหลักให้กับบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจาและพิจารณาคัดเลือก Strategic Partner(s) เข้ามาร่วมลงทุน สร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เพิ่มศักยภาพในการชําระหนี้และพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
3. สําหรับผลกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการของบริษัท กรณีนายสมโภชน์ อาหุนัย (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล (CFO) ซึ่งดูแลรับผิดชอบตําแหน่งบริหารสําคัญ พ้นจากตําแหน่งดังกล่าวนั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินธุรกิจและนโยบายการดําเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมีนัยสําคัญ เนื่องจากคณะผู้บริหารและทีมงานที่บริหารจัดการยังคงเป็นชุดเดิม
ทั้งนี้บริษัทได้แต่งตั้งนายสมใจนึก เองตระกูล เข้าดํารงตําแหน่ง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และเป็นที่น่าเชื่อถือ สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของบริษัท รวมถึงกําหนดทิศทางเชิงกลยุทธ์เพื่อนําบริษัทก้าวผ่านวิกฤตได้
สําหรับ นายวสุ กลมเกลี้ยง ในฐานะรักษาการ CFO เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งด้านการเงินการลงทุนและเป็นอดีต ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทเป็นอย่างดี อีกทั้งมีศักยภาพ ทักษะความรู้ ความสามารถในการบริหารงานที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในสายงานนี้มามากกว่า 10 ปี ทั้งนี้หากบริษัทมีความคืบหน้า เรื่องการแต่งตั้งตําแหน่งตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว จะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์รับทราบต่อไป
โฆษณา