Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อายอาย
•
ติดตาม
28 ก.ค. 2024 เวลา 15:24 • นิยาย เรื่องสั้น
Warning! เตือนเเล้วนะ บทที่2 โต๊ะกินข้าวขาประจำ
Warning! เตือนเเล้วนะ บทที่2 โต๊ะกินข้าวขาประจำ
"ว่ากันว่า. มหาลัยนี้มีรุ่นพี่คนนึง..."
เสียงเจื้อยแจ้วปลานกการะเวกของเพื่อนตรงหน้าดึงสติทั้งหมดของฉันไปไว้ในกำมือได้เป็นอย่างดีเนื่องจากที่เมื่อวานโดน after shock ไปฉันก็เกือบเป็นลมล้มพับอยู่ตรงนั้นตื่นมาอีกทีก็โดนหามาส่งที่ห้องพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
ใบหน้าของคนๆนั้นยังเด่นชัดอยู่ในความทรงจำของฉันผมยุ่งๆพร้อมกับใบหน้านึงแต่มีรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์หลังจากนั้นฉันโดนเขายิ้มใส่พร้อมกับประโยค
"เหยียบตีนพี่อยากลองดีหรอครับน้อง"เข้าไปจู่ๆหัวใจของฉันก็เริ่มเต้นผิดปกติจนเกิดอาการลมจับ
ไม่เคยมีใครยิ้มแบบนั้นใส่ฉันมาก่อนมันดูเป็นยิ้มที่หวานจนแทบหลอมละลายใครหลายคนให้ตกหลุมรักแต่สำหรับฉันมันดูเป็นยิ้มเหมือนจะคุกคามข่มขู่กันชัดๆยิ่งคิดยิ่งขนลุก
บรือ....
ฉันสะบัดหัวเพื่อไล่ภาพสยองออกไปก่อนจะจดจ่ออยู่กับเรื่องราวของเพื่อนที่พึ่งจะรู้จักกันเมื่อ 5 นาทีก่อน
"รุ่นพี่คนนี้เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ตอนเข้ามาปี 1 นะพี่เขาโคตรจะเฟี้ยวเลยเว้ยมีเรื่องกับอาจารย์เตะหมารังแกแมวพี่แกทำมาหมดจนรุ่นพี่ปี 2 ปี 3 ปี 4 ไม่กล้าแม้แต่จะสบตาด้วยคือมีคนบอกว่าพี่คนนี้โคตรโหดโคตรห่ามที่สำคัญนะ...มันหยุดพูดก่อนจะจ้องฉันและหันไปจ้องเพื่อนอีก 2 คนที่กำลังนั่งฟังอยู่ด้วย
"ที่สำคัญอะไรรีบๆเล่าดิ"เพื่อนอีกคนใจร้อนไม่ต่างกับฉันลบแล้วมันด้วยอาการตื่นเต้น
ที่สำคัญพี่เขาโคตรขี้หวงไงล่ะ
ขี้หวง??
แล้วมันน่าตกใจตรงไหนกันเนี่ย...
"แล้วขี้หวงนี่มันสำคัญตรงไหนอ่ะ พาร์ท"เพื่อนในกลุ่มอีกคนที่นั่งเงียบมานานถึงขั้นเอ่ยถาม
ไม่แตกต่างกับฉันที่ยังสงสัยไม่แพ้กันไอ้ขี้หวงเนี่ยมันสำคัญยังไงทำไมต้องเน้นความสำคัญขนาดนั้นด้วย
พวกเธอไม่รู้อะไรก็ไอ้ขี้หวงนี่แหละที่ทำให้ใครต่อใครเดือดร้อนมานักต่อนักละ
ยังไงอ่ะ ด้วยความที่ฉันสงสัยจึงเอ่ยถามออกไปตรงๆไม่อ้อมค้อม
"พี่เขาจะมีทุกอย่างประจำเว้ย"ฉันอึ้งไปนิดหน่อยก่อนที่คิ้วตัวเองจะขมวดอีกครั้งงงอ่ะดิเพื่อนคนเดิมยิ้มแกมหัวเราะพร้อมกับชี้นิ้วใส่ฉัน "ก็ไอ้ที่บอกว่ามีทุกอย่างประจำอ่ะก็อย่างเช่นที่จอดรถประจำที่กินข้าวประจำโต๊ะเรียนประจำที่เล่นกีฬาประจำอะไรพวกนี้"
มหาวิทยาลัยของรัฐมันมีอะไรแบบนี้ด้วยหรอ เพื่อนในกลุ่มถามขึ้นอีกครั้ง
"เหอะ! ไม่มีได้ไงล่ะมันกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วไม่รู้หรอ"
ธรรมเนียม?
ฉันยังคงไม่เข้าใจกับคำพูดเหล่านี้อยู่ดีทำเนียมบ้าบออะไรกันพี่จอดรถประจำงั้นหรอที่กินข้าวประจำโต๊ะเรียนประจำที่เล่นกีฬาประจำนี่มันยุคไหนกันแล้วยังมีอะไรแบบนี้อยู่ในมหาวิทยาลัยของรัฐอีกหรือไงความเท่าเทียมมันอยู่ตรงไหนกันคิดแล้วก็ได้แต่เกาะตาขึ้นมองเพดานอย่างเหนื่อยในใจ
"นักศึกษาคะ!"
เรากลับเสียงฟ้าผ่าลงกลางวงสนทนาฉันและเพื่อนๆในห้องเรียนที่จับกลุ่มคุยกันเม้าท์มอยหอยสังข์ต่างพากันแตกคือราวกับผึ้งแตกรังเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาพร้อมตะโกนลั่น
วันนี้เป็นวันที่ 2 แล้วที่พวกเธอได้ก้าวเข้ามาเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนี้เพราะฉะนั้นพึงสำนึกเอาไว้ด้วยว่าพวกเธอมีหน้าที่มาเรียนไม่ใช่มานั่งจับกลุ่มเม้าท์เรื่องไร้สาระไม่เป็นเรื่องแบบนี้เข้าใจนะคะ!
เป็นคำตำหนิติเตียนที่ถึงพริกถึงขิงมาก
ตอนฉันเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมในกรุงเทพฯก็โดนว่ามาแบบนี้เป๊ะเลยแต่แตกต่างกันตรงที่ตอนนี้อาจารย์ที่ว่าไม่ได้ถือไม้เรียวแต่อาจารย์ในห้องเรียนของโรงเรียนมัธยมถือไม้เรียวตลอดเวลา
"หูเราจะชาอยู่ละ"เพื่อนๆที่นั่งข้างๆชั้นบนอุบ
ก่อนหน้านี้ฉันทักทายเพื่อนไปแล้ว 3 คนคนแรกคือคนที่เปิดประเด็นเล่าเรื่องรุ่นพี่คนโหดประจำมหาวิทยาลัยชื่อ 'พาร์ท' ส่วนคนที่ 2 คือเพื่อนที่ร่วมชะตากรรมฟังเรื่องเล่ากับฉันชื่อ'ปีน' ส่วนคนที่ 3 คือเพื่อนที่ร่วมวงสนทนาที่นั่งบ่นอยู่ข้างๆฉันตอนนี้ชื่อ 'แก้ว'
"เอาน่า..."ฉันบอกเพื่อนให้ใจเย็นก่อนจะหยิบสมุดออกมาจากกระเป๋าสะพายที่วางอยู่ข้างลำตัวพร้อมกับปากกาไว้เตรียมจดเนื้อหาที่อาจารย์กำลังจะเริ่มสอน
นี่ฟิล์มเที่ยงนี้ไปกินข้าวกัน พาร์ทที่นั่งอยู่ด้านหน้าฉันหันมาชวน
พาร์ทเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้ามาคุยกับฉันเขามาจากกรุงเทพฯเหมือนกับฉันแต่เขาอยู่คนละเขตมหาวิทยาลัยที่เรามาเรียนคือมหาวิทยาลัยประจำเมืองเชียงใหม่ส่วนปีนมาจากนครราชสีมาแก้วมาจากกำแพงเพชร
ชวนแต่ฟิล์มแหละนะพาร์ทแล้วเราอ่ะแก้วที่นั่งอยู่ข้างๆหันมาถาม
ก็กะจะชวนอยู่เนี่ยใจร้อนจังพาร์ทยิ้มพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ
ชวนปีนด้วยดิพาร์ทฉันบอกพร้อมกับพยัคฆ์พเยิดหน้าไปทางปีนที่นั่งอยู่ด้านหน้าแก้วซึ่งเป็นที่นั่งข้างๆกับพาร์ท
KK ตามนั้น พาร์ทใครหยิบตาให้ฉัน 2 ทีก่อนจะหันไปจดจ่อกับบทเรียนตรงหน้าต่อวันนี้เป็นวันที่ 2 ในรั้วมหาวิทยาลัยของฉันแล้ว....
การจากพ่อแม่เพื่อมาเรียนในที่ไกลๆมันรู้สึกหน่วงใจเหมือนกันนะเคยเห็นหน้ากันอยู่ทุกวันแต่จากนี้ก็ไม่ค่อยได้เห็นแล้วเคยกินข้าวร่วมโต๊ะคุยสังสรรค์เฮฮาแต่ต่อไปนี้ก็ไม่ได้คุยคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
แต่ฉันเพิ่งท่องไว้เสมอเลยว่า...เรามาทำหน้าที่ที่เราควรทำการเรียนหนังสือก็เป็นเหมือนบทบาทของลูกอย่างหนึ่งเพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งถอนหายใจนั่งร้องไห้ที่ห่างไกลพ่อแม่เพียงเพราะมาเรียนถ้าพวกท่านรู้คงไม่สบายฉันละทิ้งเรื่องทั้งหมดไว้ข้างหลังก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองบ่อที่อาจารย์กำลังสอนอยู่
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย