5 ส.ค. 2024 เวลา 11:39 • หนังสือ

The Little Book of HYGGE

หนังสือฮาวทู หรือคู่มือตามล่าหาความสุข ที่การันตีเชื่อถือได้ เพราะผู้เขียนมีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยความสุข หรือ Happiness Research Institute ของเดนมาร์ก บุคคลที่นิตยสาร Time ถึงกับเคยยกย่องให้เป็นบุคคลที่มีความสุขที่สุดในโลกมาแล้ว*
นอกจากจะเป็นนักบริหาร นักวิจัยที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้ว Meik Wiking หรือ ไมก์ วิกิง ยังเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมจากผู้อ่านทั่วโลกจากหนังสือเล่มนี้ของเขา
The Little Book of HYGGE ตอบข้อสงสัยของคนทั่วโลกว่าทำไมประเทศที่มืดทึม ฝนตกชื้น อากาศหนาวเย็นอยู่เกือบตลอดทั้งปีอย่างเดนมาร์ก กลายเป็นประเทศ ‘มหาอำนาจแห่งความสุข’ ที่พลเมืองมีความสุขที่สุดในโลกไปได้
หนังสือเล่มนี้ได้เฉลยว่าการเป็นรัฐสวัสดิการของเดนมาร์ก มีส่วนสำคัญที่ช่วยลดความกังวล ความเครียด หรือความกดดันกับการทำมาหากินของคนเดนมาร์ก เพราะรัฐช่วยแบกภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องสำคัญต่างๆ เอาไว้ให้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องการศึกษา เรื่องสาธารณสุขแบบที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วย รวมถึงสวัสดิการสำหรับคนว่างงานที่เหนือกว่าประเทศอื่นๆ
สิ่งเหล่านี้ทำให้คนเดนมาร์กสามารถบริหารชีวิตระหว่างงานกับชีวิตครอบครัวได้อย่างสมดุล การทำโอทีหลังเลิกงานเป็นเรื่องประหลาดสำหรับคนเดนมาร์ก ยิ่งทำงานในวันหยุดด้วยแล้ว ยิ่งเป็นตลกร้ายที่คนเดนมาร์กรับไม่ได้เอาเลยทีเดียว
หลายคนอาจแย้งว่าประเทศในแถบนอร์ดิกอย่าง สวีเดน หรือ นอร์เวย์ ก็เป็นรัฐสวัสดิการเช่นกัน แต่ทำไมคนเหล่านั้นก็ยังมีความสุขไม่เท่ากับคนเดนมาร์ก
นั่นเพราะคนเดนมาร์กมีปรัชญาแห่งความสุขที่เรียกกันว่า ‘ฮุกกะ’ นั่นเอง
‘ฮุกกะ’ เป็นคำในภาษาแดนิชที่เราไม่สามารถหาคำที่มีความหมายเดียวกันนี้ในภาษาอื่นๆ ได้เลย เหมือนอย่างคำว่า ‘ซึนโดะกุ’ ในภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึง ‘การซื้อหนังสือเป็นประจำแต่ไม่เคยอ่าน’ ที่เราไม่สามารถหาคำที่มีความหมายเดียวกันนี้ได้ในภาษาอื่น นอกจากภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน
ไม่มีคำอธิบายแบบหนึ่งเดียวอย่างชัดเจนว่า ‘ฮุกกะ’ คืออะไร เพราะเราสามารถนิยาม ‘ฮุกกะ’ ได้หลากหลายมุม ‘ฮุกกะ’ อาจถือเป็นการใช้ชีวิตเนิบช้าและเรียบง่ายสไตล์เดนมาร์ก คือการตามหาความรื่นรมย์ในชีวิตประจำวัน หรือคือการชื่นชมความสุขแบบเรียบง่ายในชีวิตก็ได้
แค่จุดเทียนไขตามมุมต่างๆ ของบ้านในยามค่ำคืน การนั่งจิบเครื่องดื่มร้อนๆ บนเก้าอี้โยกริมหน้าต่างในขณะที่หิมะตกหนักอยู่นอกบ้าน แค่นี้…คนเดนมาร์กก็ถือว่ามีความสุข หรือรู้สึก ‘ฮุกกะ’ แล้ว
‘ฮุกกะ’ ฝังรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนเดนมาร์กมาอย่างยาวนาน คนเดนมาร์กรักความเรียบง่าย ไม่ชอบความหรูหรา ฟุ้งเฟ้อ พวกเขาจึงเลือกความเก่าเขรอะเหนือความใหม่เอี่ยม ความเรียบง่ายเหนือความหรูหรา และบรรยากาศเหนือความตื่นเต้น
‘ฮุกกะ’ ฝังตัวอยู่ชีวิตประจำวันของคนเดนมาร์ก ตั้งแต่บรรยากาศภายในบ้าน เสื้อผ้า อาหารและเครื่องดื่ม งานอดิเรก เทศกาลวันหยุดต่างๆ เดือนแต่ละเดือน รวมไปถึงการคบหาสมาคมกับมิตรสหาย หรือแม้แต่การสร้างบรรยากาศในที่ทำงานให้ ‘ฮุกกะ’
The Little Book of HYGGE หรือในชื่อไทย ‘ฮุกกะ ปรัชญาความสุขฉบับเดนมาร์ก’ แปลโดย พลอยแสง เอกญาติ นักแปลอิสระที่มีผลงานแปลมาแล้วหลายต่อหลายเล่ม พิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2560 โดยสำนักพิมพ์ Openwords และพิมพ์ครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2564 โดยสำนักพิมพ์ Bookscape
เมื่อลงมืออ่านหนังสือเล่มนี้ ก็แอบนึกดีใจที่ไม่ได้อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ เพราะมีคำในภาษาแดนิชปะปนมาในรูปแบบของชื่อต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้มากมาย ซึ่งยากต่อการคาดเดาว่าคำๆนี้ อ่านว่าอะไร เพราะมืดแปดด้านด้วยความไม่รู้ภาษาแดนิช และอาจทำให้เสียอรรถรสในการอ่านอย่างคาดไม่ถึง
เพราะเป็นหนังสือเกี่ยวกับความสุข เราจึงสัมผัสได้ถึงความสุขที่กระจัดกระจายอยู่ในระหว่างบรรทัด และพลอยมีความสุขขณะที่เราพลิกอ่านหนังสือเล่มนี้ไปทีละหน้าๆ
ถึงแม้ว่าเราคนไทยไม่อาจจะคัดลอกหรือเลียนแบบวิถี ‘ฮุกกะ’ ของคนเดนมาร์ก เนื่องจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งความรู้สึกนึกคิด วิถีชีวิต วัฒนธรรม ภูมิอากาศ ฯลฯ แต่เราก็สามารถนำเอาแนวคิดแบบ ‘ฮุกกะ’ มาปรับใช้ แล้วมองหาความสุขเรียบง่ายในชีวิต หรือ ‘ฮุกกะ’ แบบไทยๆ
เราก็สามารถ ‘ฮุกกะ’ มีความสุขเหมือนคนเดนมาร์กได้เช่นเดียวกัน
……………………
*จากบทความ The Little Book of Hygge Summary ในเว็บไซต์ Brifer.com
โฆษณา