9 ส.ค. 2024 เวลา 05:32 • ความคิดเห็น
ประเด็นปัญหาไม่ได้อยู่ที่พ่อแม่แฟนคุณ แต่มันอยู่ที่คนสองคนพร้อมจะฝ่าฟันปัญหาไปด้วยกันหรือไม่ มันอยู่ที่แฟนคุณว่าจะช่วยส่งเสริมสนับสนุนคุณ หรือจะร่วมวงสนทนานินทาเรื่องแย่ๆของคุณให้พ่อแม่ได้ฟัง เพราะหากเขาเองทำแบบนี้ คุณก็จะยิ่งเหนื่อยเป็นร้อยเท่า ใช่หรือเปล่า? กลับกันหากแฟนคุณพยายามให้กำลังใจคุณ แค่นี้คุณก็จะยิ่งมีกำลังใจ จริงไหม?
2
คุณโชคดีมากแล้ว ที่ได้รู้ตัวก่อนว่าพ่อแม่แฟนมีอคติกับคุณแต่แรก แต่คำถามเราคือ คุณแน่ใจใช่หรือไม่ว่าอคตินั้นมันตรงกับสิ่งที่คุณคิด? เพราะหากคุณทึกทักคิดไปเอง มันก็แปลว่าคุณนั่นเอง ที่เป็นฝ่ายก่ออคติก่อน หมายถึงสร้างกำแพงไว้ก่อนแล้ว คุณอาจคิดไปเอง ทึกทักไปเอง แล้วก็พยายามหมางเมินพ่อแม่แฟน ซึ่งนี่ก็แปลว่า มันเป็นคุณนั่นเองที่สร้างปมปัญหาขึ้นมาเสียอย่างนั้น!
ไม่สำคัญเลย ว่าคุณจะมีฐานะอย่างไรเมื่อเทียบกันแฟน หากคุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาด คุณก็แค่สร้างความไว้วางใจว่า คุณเองไม่ได้หวังเพียงมานั่งกินนอนกิน คุณก็แค่อย่าทำตัวเนือยนิ่ง พิสูจน์ให้แฟนคุณและคนรอบตัวเขา ที่มีอิทธิพลต่อความคิดความรู้สึกของเขาได้เห็นว่า คุณสามารถจะพึ่งพาตัวเองได้ และไม่เคยคิดจะตักตวงใดๆ คุณมีความรักต่อแฟนและความคาดหวังที่จะดูแลเอาใจใส่กันและกัน รวมทั้งการสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจร่วมกัน และคุณเองก็ยังมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปยังคนรอบตัวเขาด้วย!
หากแค่เป็นแฟน คุณก็แค่แต่งตัวให้สะสวย
เดินควงแขนให้เขาภูมิใจ เป็นเรื่องง่ายจะตายไป
.......................
แต่การคิดจะเป็นสะใภ้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็นสะใภ้ในครอบครัวมีฐานะ
เพราะคุณยังต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่อง
บนเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้มีแค่คุณกับสามี
ไหนจะพ่อแม่สามี พี่ๆน้องๆสามี พี่ป้าน้าอาสามี
เพื่อนๆ สามี นี่ยังไม่นับห้วงเวลาที่คุณมีลูกอีก
โฆษณา