10 ส.ค. 2024 เวลา 05:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ

TIDLOR ep1 - stage2เยอะ(แต่nplไม่ได้แย่กว่าmtc) และ ตอนนี้จำนำทะเบียนเป็นเกมของค่าใช้จ่ายและLeverage

Key Topic1: Tidlor NPLเพิ่มเป็น 1.85% และ stage2สูง17.3%
>> มันถือว่าแย่จริงๆหรอ?
>> คำตอบ(สรุปสั้นๆ)
= คุณภาพสินเชื่ออาจจะแย่กว่าที่คนคาดไว้ก่อนประการณงบ + แต่ภาพรวมคุณภาพสินเชื่อจริงๆเมื่อเทียบกับPeer ก็ไม่ได้สะท้อนว่าบริษัทกำลังย่ำแย่แล้วอะไรแบบนั้น ก็กลางๆแค่stage2ให้ดูๆระวังไว้ด้วย
- เพราะNPLเพิ่มขึ้นมาทะลุเป้า (เดิมเป้า2024 <1.8%) [เลยปรับเป้าใหม่<2%]
- และเพราะ %Stage2 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มา2ไตรมาตรติด เป็น17.3%
(ก็ถือว่าสูงนะ ถ้ามันไหลลงมาเป็นNPLต่อ ต้องไปดูอัตราการไหลว่าจากstage2 ไป stage3 จากสถิติแล้วมันจะไหลลงไปกี่%)
- NPL Coverage 220% (tidlorถือว่ายังสูงแข็งแรงนะ ถ้าเทียบกับ MTC 110% sawadต่ำกว่า100%)
Key Topic2: ตอนนี้จำนำทะเบียนเป็นเกมของ 2 เรื่อง คือ เกมค่าใช้จ่าย(รวมหนี้เสียcredit cost) และ เกมการLeverage(การเพิ่มพอร์ตสินเชื่อ)
[ในมุมมองของROE Dupont analysis]
ROE และ Asset Turnover , %NPM , Financial Leverage
>> ROE ของTidlor ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 14.7%-15%
- ซึ่งลดลงมาเรื่อยๆ >> จากเรื่องอะไร???
- สังเกตุตัว1: Asset Turnover ค่อนข้างคงที่20-21% ไม่ได้ลดลงแบบนีนัยยะ ดังนั้นนี้ไม่ใช่ปัญหาที่ทำให้ ROEลดลงเยอะๆช่วงนี้ (แต่จริงๆมันก็เป็นปัญหาแหละ เพราะเพดานดอกเบี้ยมันถูกกดลดลงมา - แต่ว่ามันไม่ใช่Float rate ต้องติดตามว่าธปท.จะมีลดเพดานดอกเบี้ยจำนำทะเบียนในอนาคตอีกไหม)
-
องประกอบของ Asset Turnover กับ %Net Profit Margin
>> เพราะว่า Yield มันค่อนข้างFixของจำนำทะเบียน
- ตัวAsset Turnover มันก็เลยค่อนข้างfixไม่variableอะไร ก็ไปตามYieldที่ปล่อยเงินกู้
- **แต่Tidlorอาจจะดีกว่าPeerหน่อยจาก จากการขายประกัน**
- และที่ไม่ได้เป็นเกมของ Asset turnoverเป้นหลักเพราะว่า การปล่อยกู้ไม่ได้เป็นเกมของ operating Leverage เพราะค่าใช้จ่ายFix cost/ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ได้โดดเด่นขนาดนั้น มันก็จะเพิ่มตามสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักเพราะใช้คนใช้สาขาใช้คนตามหนี้ต่างๆ (ยกเว้ยว่าในอนาคตจะมีปรับbusiness modelใช้ดิจิตอลก็ค่อยว่ากันอีกที)
>> เกม1 = เกมค่าใช้จ่าย(รวมหนี้เสียcredit cost)
- ค่าใช้จ่ายหลักจะมี 3 กลุ่ม
1. ดอกเบี้ยจ่าย = Variable ที่ Linkตามพอร์ตสินเชื่อที่เป็นรายได้ส่วนนึง (ดูทิศทางดอกเบี้ยfloat)
2. ค่าใช้จ่ายดำเนิการ Cost/income = ตัวหลักเลย ปล่อยรายย่อยอันนี้จะสูง แต่ก็แมทตามmodelแหละดอกเบี้ยก็สูง ต้องทำงานยิบย่อยใช้คนเยอะ (ค่อนข้างFix)
3. ECL (Credit cost) = Variableสุดๆ ตัวแปรที่จะทำให้กำไรหรือขาดทุน
- ดอกเบี้ยจ่ายก็ค่อนข้างไม่มีปัญหาอะไร = Cost of fundอาจจะสูงขึ้นมาหน่อยแต่ก็เป้นไปตามตลาด และจะเพิ่มขึ้นเมื่อLeverageเงินกู้มากขึ้น
- Op.cost/total income(ไม่หักดอกเบี้ยจ่าย) = อันนี้tidlorดีขึ้นเรื่อยๆ ฐานOp.cost to income ก่อนหน้าจนถึงปัจจุบันอาจจะสูงกว่าMTCเพระาด้วยวัฒนธรรมองกรที่เน้นการลงทุนในคนและDeveloper Itเยอะ - แต่ตอนนี้เริ่มcost/incomeลดลงเรื่อยๆแล้ว แนวโน้มน่าจะลดได้อีก
- ECL credit cost อันนี้เพิ่มขึ้นชัดเจน = ไม่รู้ว่าฐานใหม่credit cost จะอยู่ที่กี่% 2%? 3%? >> อันนี้เพิ่มเยอะ
= สรุปเกมนี้ ถ้าROEจะกลับไปสูงขึ้นได้ คือ จะคุมค่าใช้จ่าย3ตัวนี้ยังไงให้ %NPM สุงขึ้นกว่า20%ตอนนี้ได้
คำถามอาจจะถามอีกมุมนึงว่า:
- แนวโน้มค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงไหม? [ไม่ใช่สิ่งที่Tidlorควบคุมเองได้]
- ตัวบริษัทเอง สามารถคุมค่าใช้จ่าย Operating Cost/income ให้ต่ำลงกว่ารนี้อีกได้ไหม (โดยที่ไม่ไปลดประสิทธิภาพของการตามหนี้ Credit costนะ...)
- แนวโน้มNPLจะคงที่หรือไม่เพิ่มขึ้นเยอะไหม ที่ทำให้ Credit cost ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้?...[ไม่ใช่สิ่งที่Tidlorควบคุมเองได้ทั้งหมด แต่ทำได้โดยกรองเงื่อนไข]
ตัวเลขสำคัญราบได้และรายจ่าย เทียบกับฐานEarning Assets (ดูในอีกมุมนึงเฉยๆ)
>> เกม2 = เกมการเพิ่มFinancial Leverage เพื่อไปขยายพอร์ตสินเชื่อ
- ตอนนี้ Tidlor มี A/Eq = 3.5 เท่า [คือ D/Eq 2.5 เท่า]
- ซึ่งจริงๆPotential A/Eq ขึ้นไปได้ 4.5 เท่าได้ไม่มีปัญหา [คือD/Eq 3.5 เท่า]
**mtc ตอนนี้ก็ A/Eq 4.7เท่า [D/Eq 3.7เท่า] เป็นส่วนนึงที่ทำให้ ROEสูงถึง18%**
- ก็อยู่ที่ว่าจะขยายสินเชื่อได้เร็วขึ้นไปเรื่อยๆจน A/Eq มันขึึ้นไปสูงกว่านี้รึเ้ปล่า
- อยู๋ที่ ผบห. ว่าตอนนี้จะเริ่มชะลอปล่อยเพื่อกลับมาคุมคุณภาพสินเชื่อก่อนรึเปล่า???
>> สรุป ROEของ TIdlor ตอนนี้14.7-15%
= "" Potential ROE ที่จะสูงขึ้นไปอีก ""
- จาก %NPM ตอนนี้20% น่าจะอยู่ใกล้ๆขอบล่างเพราะ credit costอยู่ขอบบน cost/income ก็น่าจะแนวโน้มลด cost of fundก็ขอบบนแล้ว
- จาก Financial Leverage ที่Potentialระยะยาว ต้องสูงกว่า3.5เท่าตอนนี้ (แต่ระยะสั้นครึ่งปีหลัง อาจจะลดหรือคงที่ เพราะบริษัทอาจจะชะลอปล่อย เพื่อิกลับมาคุมคุณภาพหนี้ก่อน แล้วค่อยกลับไปเร่งปล่อยใหม่ A/Ew ก็จะกลับไปเพิ่มขึ้น แล้วROEก็จะเพิ่มขึ้นตาม
- Asset Turnover น่าจะคงที่+/-นิดหน่อย แถวๆ 20.7-21%
ความอันตราย (ความเสี่ยงสำคัญ)
** แต่ให้ระวัง Stage2 ที่สูงถึง 17.3% ว่าอัตราการไหลเป็น NPL จะมากแค่ไหน
- ถ้าไหลมาก %NPM ก็จะต่ำ20% ไปนาน อาจจะเป็นปี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา