ผลลัพธ์ของการเดิมพันนี้แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพก็ยังยากที่จะเอาชนะผลตอบแทนของตลาดโดยรวมได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงค่าธรรมเนียมที่สูง การศึกษาหลายชิ้นยืนยันว่ากองทุนที่บริหารแบบ Active ส่วนใหญ่ไม่สามารถเอาชนะดัชนีอ้างอิงได้ในระยะยาว
ไซเดส แสดงความเห็นว่าการกระจายการลงทุนทั่วโลกมีผลกระทบต่อผลตอบแทนของกองทุนเฮดจ์ฟันด์มากกว่าค่าธรรมเนียม โดยชี้ให้เห็นว่าดัชนี MSCI All Country World Index ซึ่งครอบคลุมหุ้นทั่วโลก มีผลตอบแทนใกล้เคียงกับกองทุนเฮดจ์ฟันด์มากกว่า
💬 คุณ จิรภัทร โบสุวรรณ เจ้าของเพจ Fun Manager เคยสรุปเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจว่า (สามารถอ่านได้ในลิงก์อ้างอิง)
“อยากชนะตลาด ทำได้ไหม ผมเชื่อว่าเราชนะตลาดได้ แต่ไม่ตลอดไป วิธีการลงทุนหลากหลายแบบ ถูกออกแบบมาให้ชนะตลาดในสภาวะที่แตกต่างกัน ถ้าเราศึกษามากขึ้นและหาสไตล์การลงทุนของตัวเอง Passive Fund จะเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการลงทุนอย่างแรกที่คุณจะรู้จักเท่านั้น
แม้ผลวิจัยต่างๆจะออกมาบอกว่า Passive Fund จะดีกว่า Active Fund ในระยะยาว บวกกับ Warren Buffett ยังเชียร์ให้ลง Index Fund แต่สำหรับผม ไม่มีคำตอบว่า Passive หรือ Active แบบไหนดีกว่ากัน มีแต่แบบไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน”
1
การเดิมพันของบัฟเฟตต์เป็นบทเรียนสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ การลงทุนในกองทุนดัชนีที่มีค่าธรรมเนียมต่ำอาจเป็นทางเลือกที่ดีและเรียบง่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการลงทุนแบบ Active จะไม่มีที่ยืนในโลกการลงทุน หากสามารถเลือกกองทุนที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการของตนเองได้
และเหตุการณ์หักมุมในประวัติการเดิมพันนี้ Girls Inc. of Omaha (มูลนิธิไม่หวังผลกำไรที่บัฟเฟตต์เลือกบริจาคเงิน) ก็ได้รับเงินไปมากกว่า 1 ล้านเหรียญซะอีก Roberta Wilhelm ผู้อำนวยการบริหารองค์กรกล่าวว่า