Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กมลสันดาน
•
ติดตาม
10 ส.ค. 2024 เวลา 14:24 • นิยาย เรื่องสั้น
กมลสันดาน : ชีวิตปะหลาดของเด็กอีสานบ้านนอก
-ผมอยากเป็นนักพูด-
ผมเป็นนักพูด
ชีวิต ม.3 ของผมดำเนินไปอย่างขมขื่น ผมยังเป็นเด็กชายบ้านนอกผู้ไม่มีพรสวรรค์ด้านการหาอยู่หากินและการทำไร่ทำสวน นอกจากนี้ยังไม่ใช่นักกีฬาตัวเด่นของโรงเรียนที่จะคว้าเหรียญรางวัลมาให้บรรดาครูได้ชื่นชมและออกไปยืนหน้าเสาธงเพื่อรับเสียงปรบมือจากเพื่อนๆ
อย่างไรเสีย มนุษย์ย่อมไม่มีวันอับเฉาตลอดเวลา ดอกไม้มีหุบย่อมมีบาน ชีวิตมีสุขก็มีเศร้าและคละเคล้าด้วยรอยยิ้มและการร้องไห้ในบางครา ช่วง ม.3 ปลายๆ ผมค้นพบตัวเองว่าผมเป็นคนพูดได้ดีและออกจะค่อนข้างมีปฏิภานไหวพริบในการพูด จริงๆแล้วผมเริ่มค้นพบทักษะของตัวเองเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงเรียน ม.1 ซึ่งตอนผมบวชภาคฤดูร้อน ที่ปีนั้นพระอาจารย์ซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงในโครงการประกาศให้สามเณรที่สนใจในการกล่าวสุนทรพจน์เขียนเรียงความและพูดแข่งขัน
และผลการแข่งขันปรากฎว่าผมได้ที่ 1 ของบรรดาสามเณรทั้งหมดที่เดินทางมาจากทั่วจังหวัดซึ่งคละอายุกัน แต่ด้วยซุ่มเสียงที่ดูน่าฟังและลีลาการเขียนบทที่อิงเรื่องจริงจากชีวิตลำบาก จึงทำให้คำพูดของผมเข้าไปอยู่ในใจคณะกรรมการจนได้รับรางวัลเป็นเช็คมูลค่า 500 บาท และจำได้ว่าหลังจากได้ที่ 1 ผมก็มีโอกาสพูดต่อหน้าพ่อแม่และบรรดาผู้ปกครองของสามเณรจากทั่งจังหวัดรวมถึงจังหวัดใกล้เคียงฟัง
ซึ่งคงมีเสน่ห์พอควรกับสามเณรร่างเล็กเหมือนเด็กประถม แต่มีเสียงและเนื้อหาการพูดค่อนข้างคม และเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกจะทำให้ผมดูเป็นบุคคลผู้มีคุณค่าในชีวิตวัยเยาว์อยู่บ้าง
กระทั่งตอนเรียน ม.3 ผมได้รับการคัดเลือกจากคุณครูให้เป็นตัวแทนไปกล่าวสุนทรพจน์ในระดับจังหวัดของนักเรียนชั้น ม.3 ผมไม่พลาดที่จะคว้าโอกาสนี้ และลงมือเขียนบทตามโจทย์ที่อาจารย์ให้ จากนั้นก็เริ่มฝึกฝนตั้งแต่จำบทที่ต้องท่องให้ติดปาก จากนั้นก็เริ่มฝึกยืนเล่าให้อาจารย์ฟัง
และพอถึงวันแข่งจริงก็มีโอกาสเข้าเมืองเพื่อประชันกับนักเรียนทั่วจังหวัด ซึ่งแน่นอนนักเรียนจากโรงเรียนใหญ่ในเมืองย่อมเป็นตัวเต็ง การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบแรกคือรอบการแข่งขันของนักเรียนทั้งหมดที่มีประมาณเกือบ 50 โรงเรียน เพื่อคัดเลือกนักพูดให้เหลือ 10 คนสุดท้าย
ผมตื่นเต้นเหลือเกินในการแข่งขัน ก่อนจะพูดต้องเทียวเข้าห้องน้ำหลายรอบและหายใจลึกๆต่อหน้ากระจกหลายหน กระทั่งการแข่งขันมาถึง เมื่อกรรมการเอ่ยชื่อโรงเรียเราในรอบแรก ผมก็เดินขึ้นเวทีอย่างประหม่ากับร่างกายอันผอมเล็กที่แต่งตัวแบบเด็กนักเรียนมัธยมบ้านนอกพร้อมตัวอักษรย่อติดหน้าอกที่ทั้งครูและนักเรียนไม่ค่อยคุ้นตาว่าโรงเรียนเรามาจากที่ไหน การแข่งขันรอบแรกเสร็จสิ้น
และผลปรากฎว่าผมเข้ารอบ 10 คน สุดท้าย ผมกับอาจารย์พี่เลี้ยงดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเรารู้ดีว่าต้นทุนเราต่ำ เรามาจากโรงเรียนบ้านนอกที่มีนักเรียนไม่เยอะ แต่เราก็มีดีพอที่จะเบียดคู่แข่งจากโรงเรียนในเมืองดังๆหลายแห่งให้ตกรอบ
กระทั่งรอบ 10 คน สุดท้ายมาถึง การแข่งขันคราวนี้ก็เช่นเคยผมหายใจลึกๆเข้าปอดแต่เทียวเข้าห้องน้ำน้อยลง และเดินขึ้นเวทีที่ค่อนข้างมั่นใจมากขึ้น เพราะโดยความเป็นจริงแค่เรามาถึงรอบนี้เราก็ภูมิใจแล้ว ซึ่งผลก็เป็นไปแบบไม่เกินคาด คือผมไม่ได้รางวัลกลับบ้าน แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมั่นใจได้ว่าผมมีพรสวรรค์ด้านนี้ และเราก็รู้สึกดีที่อย่างน้อยก็มีดีแม้จะไม่ได้ถูกเทรนด์หรือหรือเรียนพิเศษจากที่ไหน
ช่วงเรียน ม.4 - ม.6 ผมยังเป็นนักพูดประจำโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง ในครั้งใดที่มีการประกวดการกล่าวสุนทรพจน์ผมจะได้ที่ 1 ในระดับ ม.ปลายทุกครั้ง และครั้งที่ผมค่อนข้างดีใจที่มีการประกวดในโรงเรียนคือผมเอาชนะรุ่นพี่ที่ย้ายโรงเรียนมาจากกรุงเทพฯ ที่แม้ว่าเขาจะพูดภาษากลางมาตลอดอีกทั้งก็ค่อนข้างเป็นคนพูดเก่ง และแม้ผมจะเป็นเด็กบ้านนอกชีวิตใช้แต่ภาษาอีสานแต่ผมก็ยังชนะ นั่นจึงทำให้รู้ว่าผมมีข้อมูลในหัวและมีต้นทุนที่ดีในการนำเสนอ
ผมพอจะนึกเหตุผลที่ผมชอบพูดและการนำเสนอได้ลางๆ ย้อนกลับไปตอนเรียนประถม ช่วงนั้นเรียนอยู่ชั้น ป.5. ตรงกับ พ.ศ.2535 พ่อเปิดทีวีดูข่าวทำให้ผมเห็นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ จริงๆช่วงนั้นผมก็ยังไม่เข้าใจว่าสถานการณ์ทางการเมืองมันมีความซับซ้อนอะไร ใครต้องการมีอำนาจและใครต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผมยังไม่รู้
แต่ที่แน่ๆผมเห็นบรรดานักข่าวภาคสนามรายงานข่าวท่ามกลางฝูงชน เห็นพวกเขามีลีลาการนำเสนอพร้อมข้อมูลที่ลึกและมีความมั่นใจในตัวเอง และลักษณะเหล่านี้ทำให้ผมหลงเสน่ห์การรายงานข่าวจากภาคสนาม ผมนึกในใจว่าผมอยากไปยืนอยู่ตรงนั้น อยากยืนหน้ากล้อง จับไมค์และเล่าเหตุการณ์ให้คนทางบ้านฟัง ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วมันก็เป็นแค่ฝัน ผมแทบนึกไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นจริงได้อย่างไร เพราะแม้แต่กรุงเทพฯผมยังไม่เคยไป แล้วประสาอะไรเด็กชายบ้านนอกอย่างผมจะมีโอกาสไปยืนเด่นให้แสงไฟสาดใส่หน้าและจับไมค์หน้ากล้องแบบนั้น
บันทึก
4
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย