22 ส.ค. 2024 เวลา 11:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Maharaja | 10/10

คริสโตเฟอร์ โนแลน มีคู่แข่งแล้วในเรื่องการเขียนบทแบบ non-linear
1
non-linear narrative คือการเล่าเรื่องโดยไม่เรียงลำดับเวลาของเหตุการณ์ เรื่องมักตัดสลับไปมา ถ้าใช้เป็น มันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเล่าเรื่อง สามารถทำให้เรื่องธรรมดาโดดเด่นขึ้นมาได้
หนังดีหลายเรื่องใช้ non-linear narrative เช่น Pulp Fiction ในเรื่องตัวละครชื่อ ‘วินเซนต์ วีกา’ ถูกยิงตายในฉากหนึ่งไปแล้ว แต่ในฉากถัดมากลับเดินเรื่องต่อไปตามปกติ เป็นต้น
แต่หนัง non-linear narrative ที่ซับซ้อนมากจนต้องพึ่งยาแก้ปวดหัวคือ Memento และ Tenet ของเจ้าพ่องานแนวนี้ เซอร์ คริสโตเฟอร์ โนแลน (10/10 ทั้งคู่) โนแลนเล่าเรื่องเสมือนหนึ่งคนดูมีไอคิว 250 ไม่มีการเตือน ไม่มีคำบรรยาย เราต้องแกะเรื่องเอาเอง ผลก็คือใครๆ ก็ต้องดูหนังของเขาอย่างน้อยสองรอบ
Memento ไม่ใช่หนังโครงเรื่องซับซ้อน แต่วิธีเล่าเรื่องซับซ้อน ส่วน Tenet นั้น ทั้งโครงเรื่องและวิธีการเล่าซับซ้อน
ก็มาถึงหนังอินเดียเรื่องล่าสุดที่ใช้เทคนิค non-linear narrative
Maharaja
โดยโครงเรื่อง มันไม่ใช่หนังแปลกใหม่ เนื้อหาสะท้อนสังคมด้านมืด การเอาเปรียบในสังคม ระบบยุติธรรมที่ล้มเหลว ประเด็นตำรวจชั่ว สังคมนักข่มขืนของอินเดีย และตัวละครที่ถูกกระทำ แต่โดยการเล่าเรื่อง มันกลายเป็นหนังเกรด A เรื่องหนึ่ง
หนังใช้สอง timeline ซ้อนกัน แต่หลอกตาเหมือนเป็น timeline เดียว และคนทำหนังก็ไม่เกรงใจคนดูเหมือนโนแลน ต้องแกะเรื่องเอาเอง เมื่อถึงจุดไคลแม็กซ์ เรื่องก็ระเบิดแบบซูเปอร์โนวา
(มีสปอยเลอร์เล็กน้อยมาก)
มหาราชาเป็นชื่อช่างตัดผมคนหนึ่ง นิสัยเงียบขรึม จนกระทั่งวันหนึ่งรถบรรทุกคันหนึ่งชนบ้าน ภรรยาของเขาเสียชีวิต ส่วนลูกสาวรอดมาได้เพราะถังขยะเหล็กใบหนึ่งตกลงมาหุ้มเธอไว้ เขาจึงตั้งชื่อถังขยะว่า 'ลักษมี' ดูแลลักษมีอย่างดี ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณ
1
วันหนึ่งมหาราชาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าถังขยะของเขาถูกโจรปล้นไป ใครๆ ก็พากันหัวเราะ จนเขาต้องติดสินบนตำรวจให้ทำคดีนี้ แล้วเรื่องราวก็ดำเนินไปแบบหักมุมหลายตลบ
เล่ามากกว่านี้ไม่ได้ เพราะนี่เป็นหนังหักมุมจบ (twist-ending)
พล็อตเรื่องนี้ทำให้นึกถึงหนังเกาหลี Oldboy ที่โดดเด่นและแรงมาก ขณะที่ผมไม่คิดว่าจะมีหนังเรื่องไหนสามารถสร้างความแรงได้ในระดับ Oldboy หนังเรื่องนี้กลับทำได้ในระดับเดียวกัน
สาระของท่อนหักมุมนั้นแรงตบหน้าสังคม และพฤติกรรมมนุษย์ สะใจและเศร้าใจอย่างแยกกันไม่ได้ พล็อตนี้ไม่ธรรมดา เพราะแรงสั่นสะเทือน 10 ริกเตอร์ และสะท้อนสังคมได้ด้วย
แม้หนังเรื่องนี้ยังไม่เพอร์เฟ็กท์ เมื่อเทียบกับ Oldboy มีเศษเรื่องรุงรังที่ไม่จำเป็นกระจายไปทั่ว เรื่องลากยาวเกินจำเป็น แต่ความสดใหม่ในการเล่าเรื่องบวกสาระที่นำเสนอ อนุญาตให้เรามองข้ามจุดด้อยเหล่านั้นไปได้ ความจริงตั้งใจให้คะแนน 9.5/10 แต่สาระตอนจบทำให้ต้องเพิ่มอีก 0.5
หนังเรื่องนี้พิสูจน์ว่าในเอเชีย นอกจากเกาหลีใต้แล้ว อินเดียก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพส่งออก soft power ด้านภาพยนตร์ได้จริงๆ
(หมายเหตุ หนังไม่เหมาะกับทุกคน รุนแรงมาก และรวมฉากที่สตรีทุกคนไม่อยากดูแน่นอน)
ป.ล. ขอความกรุณาคนคอมเมนต์อย่าสปอยล์เรื่องเลยครับ ถ้าเห็นผมขออนุญาตลบออกนะครับ
10/10
Netflix
วินทร์ เลียววาริณ รวมบทรีวิวหนังจำนวนหลายร้อยเรื่องในหนังสือใหม่ บ้าหนัง 1-4 มีจำหน่ายในรูปอีบุ๊คที่เว็บไซต์ winbookclub.com และที่ MEB (คีย์คำว่า วินทร์ เลียววาริณ)
โฆษณา