Blockdit Logo (Mobile)
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
23 ส.ค. 2024 เวลา 03:30 • ธุรกิจ

กรณีศึกษา Sisley ขายครีมกันแดด หลอดละ 10,000 บาท แต่ขายดี

ครีมกันแดดแพงสุดที่หลายคนนึกถึง น่าจะมาจากเหล่าแบรนด์หรูชื่อคุ้นหูเหล่านี้
- LA MER หลอดละ 5,950 บาท
- YSL หลอดละ 5,000 บาท
- CHANEL และ Lancôme หลอดละ 4,600 บาท
แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในครีมกันแดดที่เรียกได้ว่าแพงที่สุดในโลก ราคาหลอดละ 10,000 บาท มาจากแบรนด์ Sisley
แบรนด์ Sisley มีอะไรดี ถึงขายครีมกันแดด หลอดละ 10,000 บาท แต่คนยังยอมจ่าย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Sisley ก่อตั้งในปี 1972 หรือเมื่อ 52 ปีที่แล้ว
แต่เส้นทางของแบรนด์เริ่มต้นขึ้นจริง ๆ ในปี 1976 หรือ 4 ปีต่อมา
เมื่อชายที่มีนามว่าคุณ Hubert d'Ornano เข้ามาซื้อกิจการ และปั้นธุรกิจนี้ให้ยิ่งใหญ่
แล้วชายคนนี้คือใคร ?
จริง ๆ แล้ว แต่เดิมครอบครัว d'Ornano มีประสบการณ์ในวงการเครื่องสำอาง มานานเกือบศตวรรษ
โดยในปี 1935 คุณ Guillaume d'Ornano เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Lancôme แบรนด์เครื่องสำอางชั้นนำของฝรั่งเศส
และ DNA นี้ ก็ได้ถูกส่งต่อไปยังลูกชายทั้งสองคน อย่างคุณ Michel และคุณ Hubert ที่ร่วมกันทำแบรนด์น้ำหอม Jean d'Albret และต่อยอดเป็น Orlane แบรนด์สกินแคร์ไฮเอนด์ ที่เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ
ก่อนที่ทั้งคู่จะขายธุรกิจออกไปในปี 1968 เพราะคุณ Michel ตัดสินใจเลือกเส้นทางสายการเมือง แต่ไฟในตัวคุณ Hubert ยังไม่หมดไป
เมื่อปี 1976 คุณ Hubert และภรรยาคือคุณ Isabelle ตัดสินใจซื้อกิจการเครื่องสำอางเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Sisley มาบริหารเอง
โดยคุณ Hubert เป็นคนดูแลเรื่องตัวสินค้า ที่จะเน้นความพรีเมียมจากสารสกัดธรรมชาติ
ส่วนคุณ Isabelle จะดูแลเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์และการตลาด
ทั้งคู่เชื่อว่า คุณภาพสินค้า คือหัวใจสำคัญที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง เลยทุ่มงบให้กับสารสกัดและการวิจัยอย่างเต็มที่ ทำให้ขาดทุนต่อเนื่องในหลายปีแรก
แต่นั่นทำให้ Sisley ถือเป็นผู้บุกเบิกศาสตร์การบำรุงผิวด้วยสารสกัดของพืชธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่มากในยุคนั้น
และปี 1980 แบรนด์ Sisley ก็ได้เปิดตัว Ecological Compound ครีมบำรุงผิวหน้า ที่กลายเป็นสินค้าขายดีจนถึงทุกวันนี้
ต่อมาในปี 1990 Sisley ได้เปิดตัวครีมกันแดด
ราคาแพงที่สุดในโลก แพงกว่าแบรนด์ไฮเอนด์ในท้องตลาดกว่า 4 เท่า
โดยถ้าคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 8,500 บาท สำหรับขนาด 40 มล.
สำหรับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ ที่ขายในประเทศไทยปัจจุบัน
- ครีมกันแดด SUNLEŸA G.E. AGE MINIMIZING ปริมาณ 50 มล. ราคา 9,500 บาท
- ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและกันแดด PHYTO-BLANC LE SOIN CORRECTING BRIGHTENING MOISTURIZER MULTI-DEFENSE SHIELD SPF 50+ PA+++ 40 มล. ราคา 10,800 บาท
- เซรั่ม L'INTÉGRAL ANTI- GE ANTI-WRINKLE CONCENTRATED SERUM ปริมาณ 30 มล. ราคา 17,900 บาท
ซึ่งการเปิดตัวครีมกันแดดสุดแพงในตอนนั้น ถือเป็นความใจกล้าอย่างมาก เพราะยุคนั้น คนฝรั่งเศสยอมจ่ายเงินให้กับครีมบำรุงผิวราคาแพง แต่เลือกครีมกันแดดราคาถูกที่สุดในชั้นวาง เพราะยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญของครีมกันแดดเท่าไร และมองว่า ครีมกันแดดไม่ว่าจะถูกหรือแพง ก็ป้องกันแสงแดดได้เหมือนกัน
โดยครีมกันแดดของ Sisley ได้เข้ามาปฏิวัติวงการ ด้วยการใส่สารกันแดดและบำรุงผิวแบบจัดเต็ม จนหัวหน้านักเคมีไม่กล้าเสนอในตอนแรก เพราะต้นทุนสินค้าสูงมาก
นอกจากคุณภาพที่ดีแล้ว การขายของ Sisley ยังยอดเยี่ยม ด้วยการโฆษณาว่า “สิ่งที่แพงที่สุด คือ ใบหน้าของคุณ !”
แล้วคุณ Isabelle ยังมองว่า ราคาที่สูงแบบสุดโต่งเป็นเรื่องดี เพราะจะมีหลายคนที่คิดว่า แพงขนาดนี้แปลว่าต้องมีอะไรดี และซื้อมันไปลองใช้..
แล้วพอได้ลองใช้ หลายคนก็ติดใจในผลลัพธ์และซื้อซ้ำ จนกลายเป็นครีมกันแดดที่ขายดีอันดับต้น ๆ ของฝรั่งเศสในยุคนั้นเลยทีเดียว
และยังคงเป็นหนึ่งในครีมกันแดด ที่ราคาแพงที่สุด มาถึงทุกวันนี้
ซึ่งสาเหตุที่สินค้าของ Sisley ราคาแพงนั้น ก็เป็นเพราะ
- งบ R&D สูง โดยเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่คิดค้นสารสกัดจากธรรมชาติตัวใหม่ ๆ มาใช้ในสกินแคร์
- สารสกัดราคาแพง และใส่สารสกัดหลายชนิดในสินค้า
- สินค้าทุกชิ้นผลิตที่ฝรั่งเศส ทำให้ต้นทุนสูง พร้อมกับมาตรฐานที่สูง
- งบการตลาด และกลยุทธ์การตั้งราคา เพื่อดึงดูดคนที่เชื่อว่าสินค้าราคาแพงขนาดนี้ ต้องมีอะไรดีแน่ ๆ
3
มาถึงวันนี้ Sisley ยังคงปรับปรุงและพัฒนาสูตรสินค้าอยู่อย่างต่อเนื่อง และส่งสินค้าขายกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
โดยในปีที่ผ่านมา มีรายงานว่า รายได้ของ Sisley อยู่ที่ประมาณ 35,600 ล้านบาท โดยสัดส่วนคือ
- 70% มาจากสกินแคร์ และอื่น ๆ 30%
- 90% มาจากต่างประเทศ โดยมีจีนเป็นตลาดใหญ่สุด และในฝรั่งเศส 10%
แต่ถ้าเราลองดูการเติบโตของรายได้เฉลี่ยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 5.25% เท่านั้น ซึ่งอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่สูงมาก ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการแข่งขันที่สูงในตลาด ทั้งแบรนด์ราคาใกล้เคียงกันอย่าง LA MER, La Prairie, CLÉ DE PEAU, Guerlain, Chantecaille
ไปจนถึงคู่แข่งจากเอเชีย อย่างจีนและเกาหลีใต้ ที่ตัวคุณ Isabelle เองยอมรับว่า ปัจจุบันได้เข้ามาปฏิวัติวงการเครื่องสำอางของทั้งโลกอย่างมาก
วันนี้ Sisley ยังคงเป็นธุรกิจของครอบครัว d'Ornano โดยมีลูก ๆ 3 คน จาก 5 คน ของทั้งคู่ มาสานต่อธุรกิจ
และนั่นทำให้เราเห็นการแตกแบรนด์ใหม่ครั้งแรกของ Sisley ก็คือแบรนด์ Neuraé เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยสินค้าที่ขาย มีราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท
การเปิดตัวแบรนด์ใหม่อย่าง Neuraé อาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวครั้งสำคัญของ Sisley
และก็น่าติดตามว่า ภายใต้การนำของทายาทรุ่นใหม่ ทิศทางของ Sisley นับจากนี้ จะเป็นอย่างไรต่อไป ท่ามกลางสังเวียนเครื่องสำอาง ที่คู่แข่งต่อสู้กันไม่รู้จบ เพื่อชิงเงินจากกระเป๋าคุณผู้หญิง คุณผู้ชาย
ซึ่งการจะบอกว่า แบรนด์จะรุ่งเรืองขึ้นหรือไม่นั้น คงคาดเดาได้ยาก
แต่สิ่งหนึ่งที่ Sisley ได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว คือ ในโลกของความงามนั้น
แบรนด์สามารถตั้งราคาสินค้าอย่างสูงลิบได้ และมีคนยอมจ่าย ถ้าสร้างความแตกต่างได้ ผ่านส่วนผสมของคุณภาพ นวัตกรรม และแบรนด์ดิง..
โฆษณา