29 ส.ค. 2024 เวลา 12:04 • ธุรกิจ

“ทำไมต้องเป็นเลขสามทุกที”

รู้จัก Rule of Three ทฤษฎีเลขสาม กับหลักการ 3 ข้อที่ Steve Jobs เลือกใช้ เพื่อให้การประชุมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“ทำไมกันนะ เวลาจะเกิดเรื่องอะไร ต้องเป็นพวกเธอทั้งสามคนทุกที”
ประโยคสุดคุ้นหูจากภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง ‘Harry Potter’ ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่อ่าน ก็จะสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าสามคนที่ว่านี้ ประกอบไปด้วย แฮร์รี่ พอตเตอร์
รอน วีสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์
นอกจาก Harry Potter แล้วนั้น กลุ่มตัวละครหลักที่ประกอบไปด้วย ‘เลขสาม’ ยังมีอีกมากมาย เช่น
🌟 Jujutsu Kaisen - ยูจิ เมงุมิ โนบาระ
🌟 Demon Slayer - ​​ทันจิโร่ เซนอิทสึ อิโนสึเกะ
🌟 The Powerpuff Girls - บลอสซัม บับเบิลส์ บัตเตอร์คัพ)
ไม่เพียงเท่านี้ ‘เลขสาม’ ยังครอบคลุมไปถึงสิ่งต่างๆ อีกด้วย อย่าง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือจะเป็นสุนทรพจน์จาก Abraham Lincoln ที่กล่าวว่า of the people, by the people, for the people (ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน) ก็นับว่าอยู่ในการจัดกลุ่ทแบบ ‘สามคำ’
แม้แต่ในแง่ของการตลาด ‘Just Do It’ ที่เป็นสโลแกนของ Nike ก็ยังถูกแบ่งออกเป็น ‘สามส่วน’ รวมไปถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ที่มักจะนำเสนอจุดเด่นหลักๆ ‘สามอย่าง’ ด้วยเช่นกัน
วันนี้ Future Trends จะชวนทุกคนไปรู้จักกับ ‘Rule of Three’ หรือ ‘ทฤษฎีเลขสาม’ กัน! เพื่อไขข้อข้องใจใครหลายๆ คน ว่าทำไมอะไรๆ ก็เป็นเลขสาม หรือไม่ก็ถูกแบ่งออกเป็นสามคำ ไม่ก็สามส่วนกันนะ 🧐
🌟3️⃣ Rule of Three - ทฤษฎีเลขสาม
Rule of Three มีต้นกำเนิดจากยุคโรมันโบราณ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ‘omne trium perfectum’ แปลว่า ‘ทุกสิ่งที่กลายเป็นเลขสามนั้นสมบูรณ์แบบ’ โดยกฎนี้เป็นที่นิยมใช้ในการสื่อสาร และได้รับความนิยมมากขึ้นในศตวรรษที่ 20 โดยถูกเชื่อว่า ‘เลขสาม’ ช่วยสร้างความรู้สึกที่น่าพอใจ มีประสิทธิภาพ และน่าจดจํากว่าตัวเลขอื่นๆ เพื่อสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้รับสาร ในการโฆษณาที่ใช้สร้างสโลแกนที่น่าจดจำและโน้มน้าวใจ
ในทางจิตยา ทฤษฎีเลขสามสอดคล้องกับความชอบตามธรรมชาติของสมองมนุษย์ที่มักจะรับรู้ข้อมูลเป็นสามส่วน ซึ่งทำให้ข้อมูลนั้นดูครบถ้วน เรียบง่าย และจดจำได้ง่าย โดยนักจิตวิทยาการรับรู้ชี้ว่า สมองของเราประมวลผล ทำความเข้าใจ และจดจำข้อมูลได้ง่ายขึ้นเมื่อถูกจัดเป็นกลุ่มละสาม
ข้อมูลจากงานวิจัยยังสนับสนุนว่า เรามักจะจำสิ่งต่างๆ ในความจำระยะสั้นได้เพียงสามถึงสี่รายการ การจัดรูปแบบนี้สร้างโครงสร้างที่น่าพึงพอใจและมีประสิทธิภาพ ทำให้ทฤษฎีเลขสาม เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับผู้สื่อสารในการทำให้ข้อความมีประสิทธิภาพมากขึ้น
[ รูปแบบของทฤษฎีเลขสาม 3️⃣ ]
1. Hendiatris: การใช้คำสามคำติดต่อกันเพื่อแสดงแนวคิดหลัก เช่น “veni, vidi, vici” จาก Julius Caesa
2. Tricolon: การใช้สามองค์ประกอบที่มีลักษณะขนานกัน เช่น "Be sincere, be brief, be seated" โดย Franklin Delano Roosevelt
3. Three-Part Structure: การจัดโครงสร้างการสื่อสารเป็นสามส่วน ได้แก่ เริ่มต้น กลางเรื่อง และจบเรื่อง เช่น โครงสร้างสามองค์ประกอบในละครหรือภาพยนตร์
[ Steve Jobs กับการใช้ทฤษฎีเลขสาม 🌟 ]
Steve Jobs เป็นผู้ที่เข้าใจและนำทฤษฎีเลขสามมาใช้อย่างชาญฉลาด อย่างการใช้ในการเปิดตัวสินค้าและจัดการประชุมต่างๆ ในบริษัท โดยเขาเชื่อว่าการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพควรมีความกระชับและน่าจดจำ ซึ่ง ‘เลขสาม’ เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบในการทำเช่นนั้น
ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple Jobs มักจะใช้การนำเสนอจุดเด่นหลักๆ ‘สามข้อ’ ของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ฟังจดจำได้ง่าย เช่น ในการเปิดตัว iPhone รุ่นแรก เขาได้กล่าวถึงสามฟังก์ชันหลักคือ ‘โทรศัพท์ เครื่องเล่นเพลง และอินเทอร์เน็ตคอมมิวนิเคเตอร์’ ซึ่งสร้างความประทับใจและทำให้ผู้คนจดจำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ ในการจัดการประชุมภายในบริษัท Steve Jobs ยังใช้ทฤษฎีเลขสามอย่าง Meeting Rule of 3's เพื่อสร้างโครงสร้างการสื่อสารที่กระชับและมีประสิทธิภาพ ดังนี้
1
🌟 1. จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมให้น้อยที่สุด
Jobs เชื่อว่าการประชุมควรมีผู้เข้าร่วมเพียง 3-5 คนเท่านั้น เนื่องจากจำนวนคนที่มากเกินไปจะทำให้การสนทนากลายเป็นเสียงรบกวนและลดประสิทธิภาพของการประชุม เขาจะเชิญเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงและสามารถมีส่วนร่วมในการประชุมได้ หากไม่มีบทบาทที่สำคัญก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม
🌟 2. จำกัดวาระการประชุม
Jobs แนะนำให้กำหนดวาระการประชุมเพียง 3 หัวข้อหลักเท่านั้น เพราะการประชุมที่มีหัวข้อมากเกินไปจะทำให้หลุดจากประเด็นหลักได้ง่าย การโฟกัสที่หัวข้อสำคัญทั้งสามจะช่วยให้การประชุมมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
🌟 3. จำกัดเวลาในการประชุมไม่เกิน 30 นาที
Jobs เข้าใจถึงความสำคัญของการประชุมที่สั้นและกระชับ โดยเขามักจะจำกัดการประชุมให้อยู่ในเวลา 30 นาที เนื่องจากผู้คนมักมีช่วงสมาธิสั้นและไม่สามารถสนใจการสนทนาที่ยืดยาวได้ การประชุมที่สั้นจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่และมีความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
เรียกได้ว่า Rule of Three ทฤษฎีเลขสามนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการทำการตลาด รวมไปถึงนำมาปรับใช้กับการประชุมให้มีประสิทธิภาพเหมือนที่ Steve Jobs ทำ ซึ่ง Meeting Rule of 3's ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำทฤษฎีเลขสามมาใช้ในการสื่อสารและการจัดการ ทั้งยังทำให้เขาเป็นที่จดจำในฐานะนักสื่อสารและผู้นำที่มีวิสัยทัศน์อีกด้วย
แน่นอนว่าเราเองก็ทำได้เหมือนกันนะ กับการนำ Rule of Three นี้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยอาจจะเป็นการหาจุดเด่นของตัวเองสามข้อ แล้วนำมาพัฒนาให้เติบโตมากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นการปรับนิสัยของตัวเองสามอย่าง เพื่อให้เรากลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิม เพราะตัวเลขจำนวนน้อยนิด ก็สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้นั่นเอง 💖
เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย
#FutureTrends #FutureTrendsetter #FutureTrendsWorkAndLife
โฆษณา