อืม ถ้าจะให้มองว่า HomePro จะมีรายได้และกำไรเติบโตมั้ย หุ้นจะขึ้นมั้ย มันก็กลืนไม่เข้า คายไม่ออก ในใจก็มีแต่ความกังวล
แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่ทำให้ HomePro ยังคงเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งในสายตาผมอยู่ ก็คือ เรื่อง การมี Recurring income ที่สม่ำเสมออยู่ ลูกค้ามาซื้อซ้ำได้
ทำไมผมถึงมองแบบนั้น
ถ้าเราลองมีบ้าน หรือมีคอนโดอยู่แล้ว แน่นอนว่า สิ่งที่ต้องซื้อต้องเปลี่ยนอยู่ตลอด ก็ต้องเป็นเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
หรือ ปรับปรุงซ่อมบำรุงบ้าน อย่างเปลี่ยนฝ้า เปลี่ยนซิงค์ เจาะผนังติด Build In อย่างน้อย ๆ เรื่องแบบนี้ก็ต้องมีบ้าง
แต่จริง ๆ ก็ต้องบอกว่า เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ เฟอร์นิเจอร์ จริง ๆ แล้วผมว่า จะมี cycle ในการ turn เครื่องใหม่ ที่นานกว่า พวกสมาร์ตโฟนเสียอีก อย่าง
- Micro wave ถ้ายังไม่พังก็รอใช้สัก 5 ปีค่อยเปลี่ยน
- เครื่องซักผ้า บางทีใช้เป็น 10 ปีเลย
ในขณะที่สมาร์ตโฟน บางที 2-3 ปีก็เปลี่ยนล่ะ
เพราะ เทคโนโลยีสมัยนี้มันไปไวมาก ทั้งเรื่องกล้อง เรื่อง AI
จะไม่เปลี่ยนเลย มันก็คงไม่ทันเทรนด์
แต่สิ่งที่ผมมองว่า พวก เฟอร์นิเจอร์และวัสดุก่อสร้าง มันน่าจะยังคงมีรายได้ที่เติบโตอยู่ ก็เพราะ
1 ของใช้ในบ้าน มีหลาย SKUs มาก ๆ ท้้งพวก เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในครัว วัสดุก่อสร้างอีก
ผมเชื่อว่า ถ้าใครมีบ้าน ก็จะต้องมีโปรเจกต์ ปรับปรุง ซ่อมแซมบ้านบ้าง อย่างน้อยปีละครั้ง
ซึ่งตรงนี้ ก็อย่างที่ผู้บริหาร HomePro ได้เล่าให้ฟังใน Opp day ว่า ห้าง HomePro จะเจาะกลุ่มลูกค้า ที่มีบ้านหรือคอนโดอยู่แล้ว ถึง 80%
2 อสังหา แน่นอนว่า น่าจะยังเติบโตอยู่ ซึ่งผมมองว่าตลาดอสังหาต่อจากนี้ คงไม่ได้ เจาะจงเฉพาะกลุ่มที่เป็น ประชากรคนไทย ผู้มีรายได้อีกต่อไปแล้ว แต่ตลาดนี้ อนาคต จะเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะในอนาคต ถ้ามองภาพประเทศไทย สุดท้ายแล้ว
- ก็ยังคงเป็นฐานการผลิตให้ชาวต่างชาติ ไปเรื่อยๆ ดังนั้น ชาวต่างชาติ ก็ต้องมาทำงาน พำนักที่เมืองไทยเยอะ
- เท่านั้นยังไม่พอ ประเทศไทย ถูกวางไว้ว่า เป็นสถานที่พักผ่อน ท่องเที่ยวชื่อดังของโลกอีก
ดังนั้น ผมไม่รู้สึกแปลกเลย ที่ขนาดคอนโดผม อยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ แต่ติด BTS แต่ทุกวันที่เดินเข้าคอนโด
เจอคนจีนบ้าง คนเกาหลีบ้าง ฝรั่งบ้าง แขกบ้าง ซึ่งผมมองว่า ชาวต่างชาติกลุ่มนี้ ก็ต้องมีไม่น้อย ที่มีชื่ออยู่ในกรรมสิทธิ์คอนโดที่ผมอยู่ แล้วนับภาษาอะไรกับคอนโดในเมือง อย่างทองหล่อ เพชรบุรี พระราม 4
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า ในตลาดนี้มีผู้เล่นเยอะมาก อย่าง Global Dohome ไทวัสดุ และคู่แข่งทางอ้อมที่มีสินค้าเหลื่อมกันอย่าง IKEA Index หรือ Chic Republic อีก
แต่ถึงแม้ว่า ในตลาดเฟอร์นิเจอร์ และวัสดุก่อสร้าง จะมีคู่แข่งเยอะพอตัว แต่ก็ต้องบอกว่าผู้เล่นแต่ละราย ต่างก็มีฐานลูกค้าเป็นของตัวเอง
- เหมือนถ้าคุณพ่อ คุณแม่ จะเดินเข้า HomePro เพื่อซื้อของอยู่บ่อย ๆ HomePro ก็จะกลายเป็นเจ้าประจำที่ต้องแวะซื้ออยู่เสมอ ถ้าพนักงานบริการไม่แย่มากเกินไป
เหมือนทุกครั้งถ้าเราซื้อของที่ Lotus’s ครั้งต่อไปก็คงต้องซื้อของที่ Lotus’s อยู่อย่างนั้น
ซึ่งแตกต่างจาก การตัดสินใจซื้อสมาร์ตโฟนสักเครื่อง แน่นอนว่า เราก็น่าจะไปเดินห้างสักห้าง แล้วก็คงตระเวนตามร้านต่าง ๆ เพื่อเทียบราคากัน
อย่างผม เปลี่ยนไอโฟนไปแล้ว 3 รอบ ไม่เคยซื้อที่ร้านเดียวกันเลย ซื้อแต่ร้านที่ให้โปรโมชันดีที่สุด และราคาถูกที่สุด
ดังนั้น ถ้าในสเกลระดับประเทศ ถามว่าโตเยอะมั้ย ผมขอให้มุมว่า สำหรับ HomePro ที่ธุรกิจมันมีสาขากระจายไปทั่วประเทศแล้ว
ขอแค่ให้มีรายได้โตสัก 6-10% หรือมากกว่า GDP นิดหน่อยก็เก่งแล้วนะ
อีกอย่าง ลืมบอกไปว่าล่าสุด HomePro เริ่มเจาะตลาดออนไลน์เยอะพอตัว ไปลงขายใน TikTok ด้วย ถึงแม้ว่ายอดขายจะสู้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไม่ได้
แต่สิ่งนี้ ก็ทำให้เห็นว่า ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง HomePro ก็มีการปรับตัว ปรับกลยุทธ์การขายอยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน
สุดท้าย ก็เลยมองว่า ถ้าต่อไปเรามอง HomePro ที่ราคานี้ ให้เหมือนหุ้นปันผล ก็ไม่เลวเหมือนกัน เพราะเราจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวล กับราคาบนกระดานหุ้นอีก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
