Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นิยายของลักกี้ หยาง
•
ติดตาม
13 ต.ค. 2024 เวลา 08:10 • นิยาย เรื่องสั้น
Moonlight Butterfly [ฟิคเกม Dark Souls]
ยุวชนทหารที่ต้องการจะฝึกเป็นทหารจอมเวทในอนาคต นอกจากการฝึกในการใช้เวทต่าง ๆ แล้ว พวกเขายังต้องฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงเสมอ เนื่องจากคาถามนตราบางบทอาจส่งผลต่อร่างกายผู้ร่ายเวทได้ มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาต้องมาร่วมฝึกภาคสนามด้วย
ส่วนในเวลาพักเที่ยงหรือไม่มีโปรแกรมฝึก ยุวชนทหารสายจอมเวทจะใช้เวลาส่วนใหญ่ หมดไปกับพวกตำรามนคาถาต่าง ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่ง โนยูชาน ซึ่งตอนนี้กำลังเอาหน้าซบลงบนหน้าหนังสือตำราเวทเล่มหนาเล่มหนึ่งอยู่ วันนี้เขาหมดพลังงานไปกับตำราเวทเล่มนี้พอสมควร ปัญหาคืออีกไม่นานแล้ว ที่เขาต้องเข้าทดสอบทักษะการใช้เวท
และเขาก็ยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย
"เฮ้ย ! ยูชานตื่น" เสียงทักดังมาจากฝั่งซ้ายของโนยูชาน "นี่ห้องสมุดไม่ใช่ที่นอนนะเว้ย"
โนยูชานจำต้องเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง ที่เป็นคนปลุกเขา ทัคเกอร์ กำลังเก็บหนังสือเพื่อเอาไปวางในชั้นตามเดิม โดยมี เอส.เจ ที่พึ่งอ่านทบทวนบทเรียนไปแล้ว โนยูชานถอนหายใจและตัดสินใจจะนำตำราบางเล่ม กลับไปอ่านที่ห้องด้วยไม่อย่างนั้นการทดสอบที่จะมาถึง เขามีหวังต้องแย่แน่ ๆ ระหว่างที่โนยูชานกำลังรวบรวมตำราไว้ด้วยกัน
สายตาเขาก็หันไปเห็นสองรุ่นพี่ทหารจอมเวทนามว่า คงคาวิน และ แม็คเครย์ ซึ่งกำลังนั่งพูดคุยกันด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดพอสมควร แต่ขณะเดียวกันเขาก็สัมผัสได้ถึงความโศกเศร้าปนความเหงานิด ๆ
สาเหตุมันก็เป็นเพราะว่าอาจารย์ของทั้งสอง โมลิซ่า ได้สละตำแหน่งรวมทั้งพลังเวทและอายุขัยที่ยืนยาว เพื่อที่จะได้กลับมาเป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปใช้ชีวิตอยู่กับคนรักและความสงบสุข โนยูชานเคยมีโอกาสได้เรียนรู้กับจอมเวทโมลิซ่าอยู่สามครั้ง ซึ่งส่วนตัวเขานับถือในตัวเธอเป็นอย่างมากแต่ก็อาจไม่ได้มีความผูกพันธ์มากนัก
คงเทียบไม่ได้กับคงคาวินและแม็คเครย์ที่ผูกพันธ์กับโมลิซ่ามาตั้งแต่เด็ก การที่จะไม่ได้พบกับอาจารย์ที่พวกเขาเคารพอีกแล้ว มันก็ชวนให้เงียบเหงาพอสมควร โนยูชานจดจำได้ดีว่าสมัยก่อนเขามักจะเจอโมลิซ่าอยู่ในห้องสมุดเสมอ
ทว่าบัดนี้มันคงกลายเป็นภาพของความทรงจำของใครหลาย ๆ คน
"คิดถึงอาจารย์โมลิซ่าเหมือนกันนะ" เอส.เจพูดขึ้นระหว่างเก็บหนังสือเข้าชั้น
"อืม เหมือนกัน" ทัคเกอร์เห็นด้วย "ถึงฉันจะไม่เคยเรียนกับเธอ แต่ภาพที่เห็นเธออยู่ในห้องสมุดมันเป็นภาพที่ชินตานะ"
"ใช่ แต่อาจารย์โมลิซ่าคงไม่กลับมาแล้วล่ะ" โนยูชานบอก
สามยุวชนทหารพร้อมใจกันถอนหายใจ คนที่น่าเห็นใจมากที่สุดคงไม่พ้นสองรุ่นพี่ที่ต่อจากนี้ จะไม่มีคนคอยให้คำปรึกษาอีกต่อไปแค่นึกก็รู้สึกใจหายแทนไม่น้อย แต่อย่างไรพวกเขาทุกคนก็ต้องเดินหน้ากันต่อ หลังจากที่จัดเก็บหนังสือเรียบร้อยแล้วทั้งสามก็พากันเดินออกจากห้องสมุด และตั้งใจว่าจะไปหาอะไรกินลองท้องที่ร้านค้าซึ่งตั้งอยู่ในค่ายเสียหน่อย ทันใดนั้นเอง...
"โนยูชาน"
โนยูชานและสองสหายเหลียวมองมาทางขวา เจ้าของเสียงทักก็คือ อีคยองฮุน รุ่นพี่จากทีมจู่โจม ทีมเดวิลแบ๊ทส์ ยังเป็น "แก่นกลาง" ทำหน้าที่ประสานงานทำภารกิจกับทีมจู่โจมอื่น ๆ ที่สังกัดในหน่วยรบพิเศษ อาร์ทิสส์ และอย่างที่ทุกคนรวมทั้งโนยูชานจะรู้ดีที่สุดคือ ยุวชนทหารคนไหนที่ใกล้จะได้บรรจุเป็นทหารชั้นประทวน จะได้รับภารกิจเดี่ยวจาก "แก่นกลาง" ซึ่งเป็นธรรมเนียรของเหล่าทหารรบพิเศษอย่างพวกเขาอยู่แล้ว แต่สิ่งที่โนยูชานสงสัยคือเขายังเหลืออีกหนึ่งปี กว่าจะได้บรรจุเป็นชั้นประทวนแล้วทำไมอีคยองฮุนถึงจะมอบภารกิจให้
"ครับ" โนยูชานขานรับและทำความเคารพต่อฝ่าย
"ตามฉันมา มีเรื่องอยากคุยกับนาย... แค่นายคนเดียว"
โนยูชานหันกลับมามองสองสหายซึ่งทั้งสองก็แสดงสีหน้าเชิงว่า ให้เขาตามอีคยองฮุนไปเพราะอาจมีธุระส่วนตัวกับเขาก็ได้ ในที่สุดโนยูชานก็เดินตามหลังอีคยองฮุนตรงไปเข้าในอาคารกลาง และพาขึ้นลิฟท์ตรงไปยังห้องประชุมเล็ก ที่มีไว้ใช้ในการประชุมภารกิจเฉพาะในทีมจู่โจมพิเศษ เมื่อเข้ามาข้างในโนยูชานเห็นว่ามีอีกคนนั่งอยู่ ซึ่งก็คือ ฮิรุม่า รุ่นพี่อีกคนในหน่วยรบอาร์ทิสส์
"หวัดดี ยูชาน" ฮิรุม่าทักทาย
"ครับรุ่นพี่" โนยูชานขานรับ ก่อนที่สายตาจะหันมาสนใจสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง
มันเป็นสมุดบันทึกที่ค่อนข้างเก่ามาก และเขาไม่อาจรู้เนื้อหามันได้ นอกจากฮิรุม่าที่กำลังเปิดอ่านอยู่ ซึ่งไม่ถึงสิบนาทีโนยูชานก็ได้รู้ว่าจอมเวทโมลิซ่า มีความใส่ใจต่อลูกศิษย์ของเธอทุกคน ไม่เว้นแม้แต่โนยูชานด้วยเช่นกัน เด็กหนุ่มที่ได้รู้ความจริงก็ตกใจไม่น้อย เพราะสมุดบันทึกทั้งเล่มคือการพัฒนาการของเขาคนเดียว
"สมกับเป็นท่านโมลิซ่าจริง ๆ ใส่ใจลูกศิษย์ทุกคน" ฮิรุม่ากล่าว
"อืม ก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายแต่ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้ว" อีคยองฮุนพูด
โนยูชานคิดว่ารุ่นพี่น่าจะหมายถึง การสละพลังอำนาจมนตราของจอมเวทโมลิซ่า อย่างไรก็ตามหากสรุปคร่าว ๆ ให้เข้าใจ ในบันทึกได้เขียนไว้ว่าในบรรดาเวทมนตร์พลังธาตุ โนยูชานชำนาญธาตุไฟมากที่สุด จึงทำให้ไม้คทาของเขามีลักษณะคล้ายคบเพลิง ไม่นานอีคยองฮุนนำซองจดหมายฉบับหนึ่งออกมา
มันก็คือจดหมายที่จอมเวทโมลิซ่าทิ้งไว้ โดยขอให้ทั้งอีคยองฮุนกับฮิรุม่า ทำการทดสอบทักษะการใช้เวทย์ไฟ ตามความเหมาะสมที่ทั้งสองเห็นสมควร โนยูชานกลืนน้ำลายไม่ลงคอ แต่เขาก็อยากรู้การพัฒนาการของตัวเองเช่นกัน เมื่อเห็นความกระตือรือร้นของรุ่นน้อง ฮิรุม่าจึงนำเครื่องฉายภาพสี่มิติออกมา
มันเป็นคลิปวีดีโอที่ฉายภาพอาณาจักรแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในสภาพรกร้างและมีซากปรักหักพังมากมาย ราวกับมันพึ่งผ่านสงครามกลางเมืองมา แต่แล้วสองนาทีต่อมา วีดีโอก็แสดงภาพของมอนสเตอร์ตัวหนึ่ง ซึ่งกำลังบินอยู่เหนืออาณาจักรแห่งนี้ มันมีลักษณะคล้ายผีเสื้อสีเขียวมรกต บนหัวของมันคล้ายกับกำลังสวมมงกุฎอยู่
โนยูชานคิดว่ามันต้องมีขนาดใหญ่มาก เพราะเมื่อมันกระพือปีก ก็บังเกิดลมพายุผสมกับเปลวเพลิงเข้าโจมตีใส่ศัตรูในทันที
"ตัวบ้าอะไรครับเนี่ย" โนยูชานถามขึ้น
อีคยองฮุนทำการปิดวีดีโอ "ท่านโมลิซ่าเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า "ผีเสื้อแห่งจันทรา" ครั้งหนึ่งท่านก็เคยปราบเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้มาก่อน"
"แปลว่าไม่ได้มีตัวเดียวนะสิ" โนยูชานพูด
"ใช่ และนี่คือด่านทดสอบของนาย" ฮิรุม่าพูดอย่างสบายอารมณ์ "นายต้องจัดการเจ้าผีเสื้อยักษ์ตัวนี้ให้ได้"
"เข้าใจแล้วครับ"
ฮิรุม่ามองหน้ารุ่นน้องของตัวเอง
"ฉันคงไม่จำเป็นต้องถามนายว่า จะทำหรือไม่ทำเพราะหน้านายบอกทุกอย่างแล้ว" ฮิรุม่าพูดและหันไปพยักหน้าให้อีคยองฮุน
"วันนี้นายพักเก็บแรงไว้ แล้วพรุ่งนี้มารายงานตัวกับฉัน เข้าใจไหม"
"รับทราบครับ"
.
🧙🏻🧙🏻🧙🏻🧙🏻🔥🔥🔥🔥
.
เช้าวันต่อมาโนยูชานพร้อมสองสหาย ก็พากันมารายงานตัวกับอีคยองฮุน ด้านทัคเกอร์แบะเอส.เจก็อวยพรขอให้เขาโชคดี หลังแยกกับสองสหายเขาก็ตามมายังแผนกลับ ที่มีชื่อว่า "สตาร์เกท" แผนกนี้ได้สร้างประตูที่มีไว้เดินทางข้ามมิติมากมาย เพื่อทำภารกิจสอดแนมหรือเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี
อีคยองฮุนพูดคุยกับหัวหน้าคนดูแลได้สามนาที ก็เดินมาบอกให้โนยูชานเตรียมตัว แล้วจึงพามายืนที่หน้าประตูมิติ ไม่กี่อึดใจประตูมิติก็เปิดประตูสว่างวาบ ด้านอีคยองฮุนก็บอกให้โนยูชานเกินเข้าไปก่อน แล้วตนก็ค่อยเดินเข้าไป เด็กหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับเดินหายเข้าไปในประตูมิติ
"นี่มัน...."
เมื่อเดินข้ามประตูมาได้โนยูชานก็พบว่า บัดนี้เขากำลังยืนอยู่บนยอดซากปราสาท ซึ่งเขาจำได้จากในคลิปวีดีโอ โนยูชานยืนมองสำรวจบริเวณโดยรอบ เด็กหนุ่มสันนิฐานว่าในอดีตที่นี้ต้องเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองมากแน่ ๆ เขาก้มลงมองด่านล่างก็เห็นกลุ่มคน จำนวนสามถึงสี่คนกำลังวิ่งหนีจากอะไรบางอย่าง
"วิ่งหนีอะไรกันล่ะเนี่ย" เขาพึมพำ
สายลมอ่อน ๆ พัดมาสัมผัสตัวโนยูชาน และพอเขาหันไปทางทิศทางของลมพัดมา ทำให้โนยูชานได้รู้คำตอบแล้วว่า คนกลุ่มเมื่อครู่กำลังวิ่งหนีจากสิ่งใด บนท้องฟ้าเหนือศีรษะของโนยูชานก็คือ ผีเสื้อแห่งจันทราเป้าหมายที่เขาต้องทำจัดการให้ได้ พอได้เห็นแบบตาเนื้อเด็กหนุ่มได้ตระหนักว่า มันตัวใหญ่กว่าในจินตนาการของเขาเสียอีก
แถมมันจะเพ่งเล็งเหยื่อตัวใหม่ ซึ่งก็คือเขานั้นเอง
"บรรลัยแล้วไง"
พริบตาเดียวผีเสื้อแห่งจันทราก็กระพือปีก ปล่อยลมพายุอัคคีโจมตีมาทางโนยูชาน ซึ่งเขาใช้เวทย์เทเลพอตย้ายตำแหน่ง เขาใช้เวย์ลอยตัวกลางอากาศ อยู่ไม่ห่างจากเป้าหมายมากนัก โนยูชานมองซากปราสาทที่ถูกทำลาย ก็ทำให้รับรู้ได้ว่าพลังของมันไม่ธรรมดา กอปรกับไม่ควรยืดยื้อการต่อสู้โดยไม่จำเป็น
ก่อนที่ผีเสื้อแห่งจันทราจะโจมสีใส่เป็นรอบที่สอง โนยูชานโบกไม้คทาในมือร่ายเวทย์ บังเกิดดาบอัคคีนับสิบนับร้อย ลอยอยู่รอบตัวโนยูชาน เจ้าผีเสื้อกระพือปีกปล่อยลูกไฟหลายดวง มันพุ่งลอยตรงมาทางโนยูชาน ซึ่งเขาบินหลบไปทางขวาและบังคับดาบอัคคี จัดการลูกไฟที่อยู่ตรงหน้าเมื่อจัดการตัวปัญหาแล้ว
โนยูชานก็หันมาเตรียมจัดการกับเป้าหมายตรงหน้า เขาโบกไม้คทาในมือชี้มาทางผีเสื้อแห่งจันทรา ดาบอัคคีที่เหลือก็พุ่งลอยตรงเข้าเสียบแทงตามตัวของมัน เปลวไฟแผดเผาตามปีกและลำตัว มันพยายามบินโฉบไป-มาเพื่อใช้แรงลมดับไฟ บ่งบอกให้รู้ว่ามันฉลาดกว่าที่โนยูชานคิดไว้เสียอีก
ผีเสื้อแห่งจันทราบินโฉบกลางอากาศด้วยความเร็ว ในระยะเวลาแค่สามสิบนาที ไม่นานเปลวไฟบนตัวก็มอดดับลง มันมองหาเจ้าต้นเหตุที่บังอาจเผาตัวมัน ทว่าเหยื่อของมัรฝนก็หายไปเสียแล้ว....
ซะเมื่อไหร่ล่ะ !
"มองไปทางไหนนะ อยู่นี่โว้ย"
สิ้นเสียงของโนยูชานจู่ ๆ ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสี จากสีฟ้าอมเทาหม่น ๆ กลายเป็นสีแดงเข้มราวกับทะเลเพลิง ผีเสื้อแห่งจันทรารู้สึกได้ถึงรังสีความร้อนที่แตะตัวมัน หากมันมีสติปัญญาเหมือนดั่งมนุษย์ คำถามแรกผุดขึ้นในใจของมันก็คงจะมีแค่ว่า จะต้องหลบการโจมตีนี้อย่างไรให้มันเจ็บน้อยที่สุด
เหนือศีรษะของโนยูชานก็คือ ดาบอัคคีที่มีขนาดใหญ่กว่ารอบก่อน และมีจำนวนเยอะมากชนิดที่ว่าไม่อาจหาทางหลบหลีกได้ และแล้วเด็กหนุ่มก็ชี้นิ้วมาทางผีเสื้อแห่งจันทรา
"ไป !"
ดาบอัคคีนับร้อยพุ่งเข้าเสียบแทงร่างของผีเสื้อแห่งจันทราอย่างไร้ปราณี แต่โนยูชานก็สังเกตเห็นว่ารอบตัวเป้าหมาย มีลมบาง ๆ รวมตัวกลายเป็นบาเรียป้องกันไว้ ทำให้ดาบอัคคีโจมตีไม่เข้า โนยูชานคว้าไม้คทาพร้อมร่ายเวทย์ ตราวงแหวนเวทปรากฏรอบไม้คทา ก่อนจะแปรสภาพกลายเป็นดาบอัคคีที่มีขนาดใหญ่
[ต้องจบในดาบเดียวให้ได้]
โนยูชานใช้เวทย์พุ่งสุดตัวตรงดิ่งไปทางผีเสื้อแห่งจันทรา และเพราะมันมัวแต่สนใจดาบอัคคีที่พุ่งโจมตีไม่ยั้ง จึงไม่ทันเฉลียวใจว่าศัตรูอยู่ใกล้ตัวมันแล้ว กว่าที่มันจะรู้ตัวก็สายเกินไปเสียแล้ว เสี้ยววินาทีที่โนยูชานอยู่ในระยะเผาขนแล้ว เขาก็เหวี่ยงดาบอัคคีเล่มใหญ่โคตร ๆ ฟันร่างของผีเสื้อจันทราเป็นแนวเฉียงด้านขวา
ผลคือร่างของผีเสื้อแห่งจันทรา ถูกผ่าเป็นสองซีกแนวเฉียงและถูกเปลวเพลิง แผดเผาร่างของมันกลางอากาศ ใช้เวลาได้ไม่นานมันก็ได้กลายเป็นผงธุลีลอยหายไปตามแรงลมพัด พร้อมกับท้องฟ้าที่กลับมาเป็นสีฟ้าอมเทาตามเดิม โนยูชานบินกลับลงมาอยู่บนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง เขาทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
ดูเหมือนเขาจะใช้พลังเวทย์มากเกินไป ทำให้มานาแทบไม่เหลือยังดีหน่อย ที่เขาพกขวดยาที่มีไว้เพิ่มมานาติดตัวมาด้วย แม้จะแค่ขวดเดียวแต่มันก็ทำให้ฟื้นฟูมานาพอสมควร แต่ก็ไม่มีเวลาได้พักหายใจ โนยูชานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าคนที่กำลังตรงมาทางเขา เด็กหนุ่มกำไม้คทาแน่นเพื่อเตรียมรับมือ
"จะลุยต่อหรือไง ตั้งท่าแบบนั้นน่ะ"
เมื่อรู้ว่าเจ้าของฝีเท้าเป็นใคร ก็ทำให้โนยูชานโล่งอก
"พี่ช่วยส่งเสียงหน่อยสิ ผมตกใจแทบแย่"
"เออ โทษทีละกันแต่นายเล่นอลังการดีนี่" อีคยองฮุนพูด
"ครับ"
"ยินดีด้วย นายผ่านการทดสอบของท่านโมลิซ่าแล้ว" อีคยองฮุนพูดอย่างเป็นทางการ "และท่านมีของบางอย่างจะให้นาย"
โนยูชานขมวดคิ้ว "อะไรเหรอครับ"
"ตามมาเถอะ ฉันรับรองว่านายต้องใช้มันในภารกิจครั้งต่อไป"
สักพักประตูวาร์ปปรากฏขึ้นข้าง ๆ อีคยองฮุน และทั้งสองก็พากันเดินหายเข้าไปในประตูวาร์ปข้ามมิติ
.
🧙🏻🧙🏻🧙🏻🧙🏻🔥🔥🔥🔥
.
"ล้อกันเล่นใช่ไหมครับ" โนยูชานหันมาถามเพื่อความแน่ใจ
"ได้ยินไม่ผิดหรอก ท่านโมลิซ่าเขียนกำกับเองว่าให้สิ่งนี้กับนาย" จอมเวทฮิวโก้ พูดและยื่นกล่องเหล็กสีน้ำตาลให้
โนยูชานมองสิ่งที่อยู่ในกล่องด้วยเเววตาที่ไม่อยากเชื่อนัก ใครมันจะไปคิดล่ะว่าจอมเวทโมลิซ่าจะมอบหัวใจมังกรลาวาให้เขา มันเป็นไอเทมที่หายากมาก เพราะมังกรลาวาไม่ใช่สิ่งที่จะล่ามาง่าย ๆ และที่ทำให้หัวใจมังกรลาวาเป็นที่ต้องการของใครหลายคน เพราะหากใครได้กินแล้วจะเพิ่มพูนมานามากขึ้น
หลังจากที่โนยูชานรับมาแล้วก็ถูกจอมเวทฮิวโก้นำทางมายังห้องหนึ่ง โดยเขาได้รับคำอธิบายว่านี้เป็นห้องฝึกส่วนตัวของจอมเวท เพื่อป้องกันมิให้ใครมารบกวน โนยูชานต้องกินหัวใจมังกรลาวานี้ให้หมด และทำสมาธิเพื่อปรับมานาในตัวให้สมดุล ซึ่งเขาต้องอยู่ในห้องนี้เป็นเวลาอย่างน้อยสองเดือน
"โชคดีนะ พ่อหนุ่ม" จอมเวทฮิวโก้กล่าวอวยพร "อีกสองเดือน เจอกัน"
โนยูชานเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับกล่องที่บรรจุหัวใจมังกรลาวา และประตูก็ปิดตัวตามหลัง
.
🧙🏻🧙🏻🧙🏻🧙🏻🔥🔥🔥🔥
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
รวมนิยายเรื่องสั้น By ลักกี้ หยาง
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย