ปู่จิม ไซมอนส์ นักลงทุนผู้ชื่นชอบหุ้นบริษัทยา
👨🏫 จิม ไซมอนส์ (Jim Simons) นักลงทุนในตำนานผู้ล่วงลับ ผู้ก่อตั้ง Renaissance Technologies หนึ่งในกองทุนสาย Quant หรือกองทุนที่ลงทุนด้วยการวิเคราะห์เชิงคณิตศาสตร์และสถิติ ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดยสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยมากกว่า 60% ต่อปี เป็นระยะเวลา 30 ปี
👨🏫 จิม ไซมอนส์เรียนจบปริญญาเอกสาขาคณิตศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์
และเคยทำงานเป็นคนถอดรหัสข้อมูลข่าวกรองให้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ
รวมทั้งเป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยสโตนีย์บรูก ในนิวยอร์ก
แม้ว่า จิม ไซมอนส์ ได้เกษียณออกจากตำแหน่งบริหารไปเมื่อปี 2553
แต่ด้วยรากฐานที่เขาสร้างไว้ ส่งผลให้ในปัจจุบัน Renaissance Technologies
เติบโตจนมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารมากถึง 2,100,000 ล้านบาท
💊 หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของ Renaissance Technologies คือ ใน Top 50 บริษัทที่กองทุนนี้ลงทุนอยู่ เป็นบริษัทยาถึง 12 บริษัท คิดเป็นสัดส่วนราว 8.85 % ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด
ที่มา : hedgefollow.com, ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567
โดย Top 5 หุ้นบริษัทยา ที่กองทุนนี้ถืออยู่ ประกอบไปด้วย
💊 Novo Nordisk (NYSE : NVO) สัดส่วน 2.22 %
บริษัทยาจากประเทศเดนมาร์กที่มีมูลค่าบริษัทเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท คือ ยารักษาโรคเบาหวาน และปากกาลดน้ำหนัก
โดยเฉพาะยาในกลุ่ม GLP-1ที่มีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมนจากลำไส้เล็ก มีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน และลดการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้ลดความอยากอาหาร และกินอาหารน้อยลง ซึ่งนอกจากจะใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานแล้ว มีการต่อยอดมาสู่การรักษาภาวะน้ำหนักเกินด้วย
🦠 Vertex Pharmaceuticals (NASDAQ : VRTX) สัดส่วน 1.25 %
บริษัทยาที่มีมูลค่าเป็นอันดับ 10 ของโลก และเป็นบริษัทยาที่เติบโตมากว่า 100 เด้ง โดยเน้นการพัฒนายารักษาเพียงโรคเดียว
Vertex บุกเบิกการพัฒนายารักษาโรคหายาก ด้วยการพัฒนายารักษาโรคซิสติกไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis หรือ CF) เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้ของเหลวในร่างกายเหนียวข้น ส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
🫁 United Therapeutics Corporation (NASDAQ : UTHR) สัดส่วน 1.17 %
บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่มุ่งเน้นการพัฒนาและจำหน่ายยาสำหรับรักษาโรคที่หายากและคุกคามชีวิต โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับปอดและโรคหัวใจ พวกเขามีชื่อเสียงในด้านการพัฒนายาสำหรับโรคความดันโลหิตสูงในปอด และโรคหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
🧬 Gilead Sciences (NASDAQ : GILD) สัดส่วน 0.59 %
บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนายา สำหรับรักษาโรคติดเชื้อไวรัส โดยเฉพาะยาต้านไวรัส HIV และไวรัสตับอักเสบซี ยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และโรคตับอักเสบ
🎯 Exelixis (NASDAQ : EXEL) สัดส่วน 0.58 %
บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนายาแบบมุ่งเป้า หรือ targeted therapy ที่ออกฤทธิ์ต่อกลไกเฉพาะเจาะจงในเซลล์มะเร็ง โดยผลิตภัณฑ์หลักของ Exelixis คือยา Cabometyx ใช้รักษาโรคมะเร็งไตชนิดเซลล์ใส (Renal Cell Carcinoma) และมะเร็งตับชนิด Hepatocellular Carcinoma
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
ที่มา : Companiesmarketcap.com, hedgefollow.com
มูลค่าบริษัท ณ วันที่ 11 ก.ย. 67
════════════════════
#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน
════════════════════
Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน
บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
